คดีทุจริตท่าเรือนาเกลือยังไม่จบ! ป.ป.ช.ลงมติเห็นควรอุทธรณ์คำพิพากษา คุก 3 ปี 4 ด. รอลงอาญา 'กิจ หลีกภัย' อดีตนายก อบจ.ตรัง ระบุไม่อาจเห็นพ้องด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า จากกรณีปรากฏข่าวศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษจำคุก นายกิจ หลีกภัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ตรัง เป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน ปรับเงิน 6.8 หมื่นบาท แต่โทษคดีอาญาให้รอลงโทษเป็นเวลา 2 ปี จากคดีทุจริตเรื่องการเช่าท่าเทียบเรือนาเกลือเพื่อใช้ประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเล
โดยศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9 พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลย มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราบการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 จึงพิพากษาให้จำเลยจำคุก 5 ปี และปรับ 120,000 บาท การสืบพยานของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน และปรับ 68,000 บาท โทษจำคุกรอไว้ 2 ปี

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานความคืบหน้าล่าสุดว่า เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติไม่อาจเห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 เห็นควรที่จะอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลดังกล่าว ในประเด็นรอการลงโทษ นายกิจ หลีกภัย จำเลยในคดีนี้

สำหรับคดีนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแลเวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 ชี้มูลความผิดคดีกล่าวหา นายกิจ หลีกภัย อดีตนายก อบจ.ตรัง กับพวก บริหารจัดการท่าเทียบเรือบ้านนาเกลือ ตำบลนาเกลือ อำเภอกันตรัง จังหวัดตรัง โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 และตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 หลังไต่สวนพบปัญหาการทุจริตเกี่ยวกับการทำสัญญาเช่าท่าเทียบเรือและอาคาร ประกอบ ตำบลนาเกลือ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เพื่อใช้ประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเล เนื่องจากจะต้องขออนุญาตต่อกรมเจ้าท่า และต้องมีอัตราค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ใช้บริการและค่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการ ลำเลียงขนถ่ายสินค้า ร่วมทั้ง ไม่ได้เสนอขอมติจากสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ไม่ได้ขอความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และไม่ได้ดำเนินการโดยการประมูล ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการให้เอกชนกระทำกิจการขององค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2541
จนมีเหตุให้ ไม่สามารถเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมที่ออกใบแจ้งหนี้ไว้ก่อนตราข้อบัญญัติและไม่สามารถนำเงินค่าตอบแทนในส่วนของการบันทึกข้อตกลงกับบริษัท ชูไก จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นรายได้ของ อบจ.ได้ และในขณะเดียวกันยังให้บริษัทเอกชนดำเนินการให้บริการเครื่องจักรในแต่ละวันใช้เครื่องจักรประมาณ 5 - 8 คัน และเครื่องจักรดังกล่าวจะจอดประจำอยู่ในพื้นที่ของท่าเทียบเรือบ้านนาเกลือโดยตลอด ไม่มีการนำเครื่องจักร เข้า - ออก แต่อย่างใด และปรากฏว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรังได้เก็บเพียงค่าธรรมเนียมการใช้บริการจากบริษัท ชูไก จำกัด (มหาชน) เพียงค่าบริการรถยกตู้สินค้าและค่าบริการรถปั้นจั่น โดยที่ไม่ได้เรียก เก็บค่าธรรมเนียมในส่วนของเครื่องจักรกลที่บริษัท ชูไก จำกัด (มหาชน) นำมาไว้ในพื้นที่เขตท่าเรือเกิน 24 ชั่วโมง


@ นายกิจ หลีกภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 27 ก.พ.67 ที่ผ่านมา สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง ยังได้มีการชี้มูลความผิด นายกิจ หลีกภัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ตรัง กับพวก รวม 13 ราย จัดซื้อที่ดิน เพื่อนำมาก่อสร้าง ท่าเทียบเรือบ้านนาเกลือ (ท่าเรือตรัง) ต.นาเกลือ อ.กันตัง จ.ตรัง มีราคาสูงเกินจริง ซึ่งคดีดังกล่าวนี้ยังอยู่ในขบวนการยุติธรรม ภายหลังจากทาง ป.ป.ช.ได้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับ นายกิจ หลีกภัยแล้ว โดยอยู่ในระหว่างรอผลการพิพากษาอยู่อีก 1 คดี
สำหรับ นายกิจ หลีกภัย ปัจจุบันอายุ 89 ปี เป็นพี่ชายของนาย ชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาฯ และอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกิจนั้น ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ตรัง มายาวนานถึง 25 ปี หรือกว่า 5 สมัย ต่อมามีนายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ มาดำรงตำแหน่งต่อจนถึงปัจจุบันนี้เป็นสมัยที่ 2

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา