
ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา 'สุรชาติ ตั้งวรชัย' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี กับพวก เข้ามีส่วนได้เสียในสัญญาโครงการวางท่อระบายน้ำ ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนลงโทษจำคุกคนละ 2 ปี 6 เดือน นับโทษต่อคดีเดิมด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสุรชาติ ตั้งวรชัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี กับพวก คือ นางสาวอัจฉรา แหวนทองคำ ดำเนินการโครงการวางท่อระบายน้ำนอกเขตเทศบาล โดยไม่ขออนุญาตใช้พื้นที่จากชลประทานและเข้ามีส่วนได้เสียในสัญญาโครงการวางท่อระบายน้ำ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 , 151 , 152 , 157 และ 162 (4) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืน ตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ที่มีคำพิพากษาว่า นายสุรชาติ ตั้งวรชัย จำเลยที่ 1 นางสาวอัจฉรา แหวนทองคำ จำเลยที่ 2 มีความผิดตามกฎหมาย ลงโทษจำคุกคนละ 5 ปี
มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 2 ปี 6 เดือน
นับโทษต่อในคดีอาญาหมายเลขดำที่อท 19/2564 คดีอาญาหมายเลขแดงที่อท 66/2565 และหมายเลขดำที่อท 90/2563 คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อท 101/2565
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฏีกาคำพิพากษาอุทธรณ์ดังกล่าว
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 157 ระบุ ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อนึ่งสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับคดีความของ นายสุรชาติ ตั้งวรชัย นั้น ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดคดีทุจริตและส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมายจำนวน 3 คดี
1.คดีจัดซื้อวัสดุหินคลุกเพื่อนำมาใช้ในการซ่อมแซมผิวจราจรของถนนภายในหมู่บ้าน เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 โดยหลีกเลี่ยงวิธีการสอบราคา และเข้ามีส่วนได้เสียในสัญญาขายวัสดุหินคลุก
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 พิพากษาลงโทษจำคุก รวม 21 กระทง เป็นจำคุก 63 ปี 84 เดือน เมื่อรวมทุกกระทงแล้วคงจำคุก มีกำหนด 50 ปี
2. คดีดำเนินการโครงการวางท่อระบายน้ำนอกเขตเทศบาล โดยไม่ขออนุญาตใช้พื้นที่จากชลประทานและเข้ามีส่วนได้เสียในสัญญาโครงการวางท่อระบายน้ำไปแล้ว
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 พิพากษาลงโทษจำคุก มีกำหนด 2 ปี 6 เดือน
3. คดีทำหลักฐานการจัดซื้อเต็นท์ผ้าใบเป็นเท็จ นำเงินไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว
ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 พิพากษาจำคุก กำหนด 2 ปี 6 เดือน


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา