
DSI ยันส่งสำนวนคดีกล่าวหานายทุนบุกรุกที่ทำเลเลี้ยงสัตว์ 'หาดสวนยา' อำเภอน้ำยืน อุบลราชธานี ให้อัยการแล้ว ขยายผลเพิ่มเติมเอกชน - เจ้าหน้าที่รัฐ แจ้งข้อกล่าวหาผู้แทนนิติบุคคล ออกหมายเรียกกรรมการผู้มีอำนาจรับทราบข้อกล่าวหา แต่มีหนังสือร้องขอความเป็นธรรม อ้างพยานบุคคลหลายราย อยู่ระหว่างการสอบสวน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เผยแพร่ข่าวยืนยันส่งสำนวนกรณีกล่าวหานายทุนบุกรุกที่ทำเลเลี้ยงสัตว์ "หาดสวนยา” อำเภอน้ำยืน อุบลราชธานี ให้อัยการแล้ว พร้อมขยายผลตรวจสอบเพิ่มเติมนิติบุคคล - เจ้าหน้าที่รัฐ มีความคืบหน้าเป็นลำดับ แจ้งข้อกล่าวหากับผู้แทนนิติบุคคล ออกหมายเรียกกรรมการผู้มีอำนาจมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่มีหนังสือร้องขอความเป็นธรรมโดยอ้างพยานบุคคลหลายราย อยู่ระหว่างการสอบสวนตามประเด็นที่มีการร้องขอความเป็นธรรม ขณะที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอุบลราชธานี มีหนังสือมาขอเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับคดีอาญาดังกล่าวทั้งหมด เพื่อประกอบการไต่สวนเบื้องต้น กรณีมีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีปล่อยปละละเลยให้บริษัทเอกชนบุกรุก ทำลายที่ดิน และทางสาธารณประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า ตามที่ปรากฏข่าวต่อสาธารณชนกล่าวหาว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษไม่เร่งรัดทำการสอบสวนคดีที่เกี่ยวกับการบุกรุกที่ทำเลเลี้ยงสัตว์ “หาดสวนยา” พื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี นั้น
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอชี้แจงว่าคดีดังกล่าวมีการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่องและมีความคืบหน้าเป็นลำดับ โดยคดีนี้เป็นกรณีมีการกล่าวหาว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐออกเอกสารแสดงสิทธิ์ในที่ดินทำเลเลี้ยงสัตว์ “หาดสวนยา”อำเภอน้ำยืน อุบลราชธานี โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของเอกชน ซึ่งเป็นคดีที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งภายหลังได้ส่งเรื่องมาให้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการสืบสวนและสอบสวนต่อไปตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 เมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษรับเรื่องมาแล้ว พบว่ามีประเด็นที่ต้องดำเนินการ รวม 6 ประเด็น ประกอบด้วย
(1) ประเด็นการยึดถือครอบครองและขุดทำลายทางสาธารณประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
(2) ประเด็นการดำเนินการของนายอำเภอน้ำยืนกับพวกในการตรวจรับการคืนสภาพทางที่ถูกทำลายว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่
(3) ประเด็นการยึดถือครอบครองที่สาธารณประโยชน์ (หาดสวนยา)ซึ่งตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของบ่อกักเก็บน้ำบ่อที่ 1 ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
(4) ประเด็นกล่าวหาว่าผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นเจ้าพนักงานลงลายมือชื่อรับรองในการขายที่สาธารณประโยชน์ “หาดสวนยา” โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
(5) ประเด็นบริษัทเอกชนได้ทำการขุดดินถมดินออกนอกเขต น.ส.3 ก เลขที่ 1887 และใบจองเลขที่ 21 บุกรุก และการยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐซี่งเป็นป่าและที่สาธารณประโยชน์บริเวณ บ่อกักเก็บน้ำบ่อที่ 2 และบ่อที่ 3
และ (6) ประเด็นเจ้าพนักงานที่ดินได้ร่วมกับบริษัทเอกชนยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินโดยอ้างหลักฐานใบจองเลขที่ 21 โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งแบ่งการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 154/2562 ทางคดีสอบสวนเสร็จและมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้ยึดถือครอบครองที่สาธารณประโยชน์ “หาดสวนยา” (บ่อกักเก็บน้ำบ่อที่ 1) เนื้อที่ 10-1-37.7 ไร่ และส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566
สำหรับประเด็นการสอบสวนและผู้ถูกกล่าวหารายอื่นซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 154/2562 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้อนุมัติให้แยกทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 119/2566 ทางคดีมีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้แทนนิติบุคคลแล้ว
ส่วนกรรมการผู้มีอำนาจได้ออกหมายเรียกให้เข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่มีหนังสือร้องขอความเป็นธรรมโดยอ้างพยานบุคคลหลายราย ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนตามประเด็นที่มีการร้องขอความเป็นธรรม
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 คณะพนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการสอบสวนร่วมได้ประชุมร่วมกันพิจารณาพยานหลักฐาน และมีมติที่ประชุม ให้คณะพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำพยานเพิ่มเติม การอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศบริเวณพื้นที่มีการยึดถือครอบครอง ซึ่งทุกประเด็นอยู่ในกระบวนการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน
สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดอุบลราชธานี ได้มีหนังสือ มายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับคดีอาญาดังกล่าวทั้งหมด เพื่อประกอบการไต่สวนเบื้องต้น กรณี มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีปล่อยปละละเลยให้บริษัทเอกชนบุกรุก ทำลายที่ดิน และทางสาธารณประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีหนังสือ ถึงเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอหารือเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวนคดีอาญาในกรณีดังกล่าว ปัจจุบันยังไม่ได้รับแจ้งผลการหารือแต่อย่างใด
จึงประชาสัมพันธ์มาเพื่อทราบ (ดูเอกสารท้ายข่าว)
อ่านประกอบ :
- รมต.รบ.แพทองธาร ถือหุ้น! กังขา DSI สอบคดีบิ๊กเอกชนขุดบ่อน้ำรุกที่สาธารณะอุบลฯ ล่าช้า
- ป.ป.ช.ยันคืนสำนวนคดีบิ๊กเอกชนขุดบ่อรุกที่สาธารณะให้ DSI ปี 62 - รมต.ไม่ได้ถือหุ้นแล้ว
- ‘ศุภชัย’เปิดชื่อ'สุดาวรรณ' โวยDSI ดองคดี บ.ครอบครัว'รมต.’ ขุดบ่อรุกที่สาธารณะใกล้หมดอายุ


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา