
อีกราย ปปง.สั่งยึดทรัพย์คดีเว็บพนันออนไลน์-ฟอกเงิน www.fullplay39.com - www.fullplays39.com ‘ยุทธนา กับ พวก' 130 รายการ มูลค่ารวมกว่า 214.8 ล. ที่ดิน กทม. ตจว. ห้องชุด เงินฝาก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย 47/2568 ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 เรื่อง ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายนายยุทธนา กับพวก ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน โดยเป็นการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์และความผิดฐานฟอกเงิน
สืบเนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจได้สืบทราบว่า นายยุทธนา กับพวก กระทำความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันเอาทรัพย์สินกันทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต และสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายยุทธนา กับพวก และได้ตรวจค้นบ้านผู้ต้องหาและตรวจยึดทรัพย์สินไว้จำนวนหลายรายการ นำส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 ดำเนินการตามกฎหมาย เป็นคดีอาญาที่ 39/2567
ทรัพย์สินที่ ปปง.มีคำสั่งยึดและอายัด ที่ดินในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ห้องชุด 28 รายการ เงินในบัญชีเงินฝาก 102 บัญชี รวม จำนวน 130 รายการ รวมทั้งสิ้น 217,879,325.89 บาท (สองร้อยสิบเจ็ดล้านแปดแสนเจ็ดหมื่นเก้าพันสามร้อยยี่สิบห้าบาทแปดสิบเก้าสตางค์) พร้อมดอกผล คำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมมีรายละเอียดดังนี้
@ เปิดรายละเอียดคำสั่งยึดอายัดทรัพย์
คำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย. 47/2568
เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว
ด้วยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ได้รับรายงานจากกลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 ตามหนังสือที่ ตช 0039.337/1005 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 เรื่อง รายงานการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รายนายยุทธนา กับพวก ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน โดยเป็นการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์และความผิดฐานฟอกเงิน
กล่าวคือ สืบเนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจได้สืบทราบว่า นายยุทธนา กับพวก ผู้ต้องหากระทำความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันเอาทรัพย์สินกันทางอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้จับกุมนายยุทธนา กับพวก และได้ตรวจค้นบ้านผู้ต้องหาและตรวจยึดทรัพย์สินไว้ จำนวนหลายรายการ นำส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 ดำเนินการตามกฎหมาย เป็นคดีอาญาที่ 39/2567
โดยมีพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่า MR. AUNG หรือนายออง ผู้ต้องหาที่ 1 นายกฤษณพงศ์ ผู้ต้องหาที่ 2 MR. SAW หรือ นายใน ผู้ต้องหาที่ 3 นางสาววรรณา ผู้ต้องหาที่ 4 MR. NAY หรือนายซอว์ ผู้ต้องหาที่ 5 นางสาวกนกวรรณ ผู้ต้องหาที่ 6 นางสาวปิโยรส ผู้ต้องหาที่ 7 นายอภิสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 8 นายทศพร ผู้ต้องหาที่ 9 นายอำนาจ ผู้ต้องหาที่ 10 นายธันวา ผู้ต้องหาที่ 12 นางสาวณิชกมล ผู้ต้องหาที่ 13 นายพานิช ผู้ต้องหาที่ 14 มีบัญชีเงินฝากธนาคารที่รับเงินรายได้จากการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ที่มีการโฆษณาชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าเล่นการพนันออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.fullplay39.com และ www.fullplays39.com
โดยมีผู้ต้องหาที่ 1 ทำหน้าที่เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารรับโอนเงินพนันหน้าเว็บไซต์พนันออนไลน์ ผู้ต้องหาที่ 2 ทำหน้าที่เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารจ่ายเงินให้กับลูกค้าพนันออนไลน์หน้าเว็บไซต์ ผู้ต้องหาที่ 3 และ ผู้ต้องหาที่ 4 ทำหน้าที่เปิดบัญชีเงินฝากธนาคารเพื่อใช้สำหรับพักเงินที่ได้รับจากการพนันออนไลน์ ส่วนผู้ต้องหาที่ 5 ทำหน้าที่กดเงินตามที่ผู้ต้องหาที่ 6 ผู้สั่งการให้ทำการถอนเงินที่ได้รับจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ไปเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ต้องหาที่ 7 ผู้ต้องหาที่ 8 ผู้ต้องหาที่ 9 ผู้ต้องหาที่ 10 ผู้ต้องหาที่ 11 ผู้ต้องหาที่ 12 ผู้ต้องหาที่ 13 ผู้ต้องหาที่ 14 ซึ่งเป็นผู้รับผลประโยชน์ที่ได้รับจากเว็บพนัน ดังกล่าว โดยมีนางสาวกิรณา ผู้ต้องหาที่ 16 เป็นผู้ควบคุมบริหารสั่งการ เว็บพนันออนไลน์ผ่านผู้ต้องหาที่ 6
คดีนี้พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวน สอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 มีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 กับพวก ในความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนันในการเล่นผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน โดยผู้ต้องหาที่ 1 ผู้ต้องหาที่ 2 และผู้ต้องหาที่ 7 ถึงผู้ต้องหาที่ 14 ศาลอาญาได้ออกหมายจับเนื่องจากหลบหนี ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 ได้มีความเห็นสั่งฟ้อง นายยุทธนา กับพวก ต่อศาลอาญา เป็นคดีหมายเลขดำที่ 11481/2563 ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการพิจารณา อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (9) และความผิดฐานฟอกเงิน ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านายยุทธนา กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว
ในการนี้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 ที่ประชุมมีมติมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ประกอบกับคำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ลับ ที่ ม. 592/2567 ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2567 เรื่อง มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดรายนายยุทธนา กับพวก และคำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ลับ ที่ ม. 677/2567 ลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 เรื่อง มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) รายนายยุทธนา บพวก พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรมหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวแล้ว
ปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่า นายยุทธนา กับพวก มีพฤติการณ์แห่งการกระทำอันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (9) และความผิดฐานฟอกเงิน ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 หรือเป็นผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงิน และจากการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รวมทั้งจากการรวบรวมพยานหลักฐาน ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 130 รายการ พร้อมดอกผล
และเนื่องจากทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีนี้ประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินตามโฉนดที่ดินอันเป็นทรัพย์สินที่ปรากฏหลักฐานในทางทะเบียนในการเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครอง โดยผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อาจดำเนินการทางนิติกรรมโอนเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือผู้มีสิทธิครอบครองในทางทะเบียนได้ และสังหาริมทรัพย์ประเภทเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร และหลักทรัพย์ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์อันเป็นทรัพย์สินที่สามารถ โอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นได้โดยง่าย หากมิได้มีการออกคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าว ดังกล่าวไว้ชั่วคราว เมื่อเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดำเนินการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าวไปเสีย และหากต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน สำนักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า นายยุทธนา กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด และอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว
@ สั่งยึดอายัดทรัพย์ ชั่วคราว 130 รายการ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34 (3) และมาตรา 48 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มติคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุมครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 และระเบียบคณะกรรมการธุรกรรม ว่าด้วยการรับเรื่อง การตรวจสอบ การพิจารณาดำเนินการ และการควบคุมตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2556 ข้อ 25 คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 130 รายการ พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ กล่าวคือ นับตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 โดยมีรายการทรัพย์สินที่ยึดและอายัดปรากฏตามบัญชีทรัพย์สินแนบท้ายคำสั่งนี้
ทั้งนี้ ให้รวมถึงเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการจำหน่าย จ่าย โอนด้วยประการใด ๆ ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวหรือสิทธิเรียกร้องหรือผลประโยชน์หรือดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินดังกล่าวด้วย
ในกรณีผู้ซึ่งถูกยึดและอายัดทรัพย์สินตามคำสั่งนี้หรือผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์สินดังกล่าวประสงค์จะขอให้มีการเพิกถอนคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าวนั้น ให้ยื่นคำขอเป็นหนังสือต่อเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพร้อมด้วยหลักฐานที่เกี่ยวข้องที่แสดงว่าเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกยึดและอายัดดังกล่าวนั้นมีไข่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเป็นหนังสือ
อนึ่ง การยักย้าย ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย ทำให้สูญหายหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานยึดหรืออายัดไว้หรือที่ตนรู้หรือควรรู้ว่าจะตกเป็นของแผ่นดิน อาจมีความผิดทางอาญาและต้องระวางโทษตามนัยมาตรา 65 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542



Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา