
ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ-รมว.มหาดไทย รักษาการนายกฯ ชี้แจง ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ล่ม – เลื่อนไป 31 ส.ค.68 ลั่น เป็นอำนาจประธานปิดประชุม เผย ปม รับเรื่องร้องเรียนแต่งตั้งโยกย้าย 4 นายตำรวจ - ปกรณ์ นิลประพันธ์เลขาธิการกฤษกา แนะ เป็นสิทธิผู้ร้องเรียนที่จะได้รับการเสนอชื่อได้-ยังไม่มีความผิด ปฏิเสธ กระแสข่าว ย้าย ผบ.ตร. โอด มีแต่จะปั่นให้ทะเลาะกัน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 29 สิงหาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเลื่อนการประชุม ก.ตร. เพื่อพิจารณาวาระการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ เมื่อวันที่ 28 ส.ค.68 และนัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 31 ส.ค.68 ว่า การเลื่อนการประชุม ก.ตร.ดังกล่าว ไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์ส่วนตนและไม่รู้จักใครเป็นการส่วนตัว ซึ่งสาเหตุของการเลื่อนประชุม ก.ตร.นั้น เนื่องจากมีนายตำรวจ 4 ราย ยื่นหนังสือร้องเรียนอย่างเป็นทางการมาถึงตนเอง ตั้งแต่ต้น 4 ราย รายแรก พล.ต.ท.นพ.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) อดีตนายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ รายที่สอง พล.ต.ท.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) รายที่สาม พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) และรายที่สี่ รายที่สอง นายตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.)
อ่านข่าวประกอบ : ประชุม ก.ตร. ล่ม ‘ภูมิธรรม’ แจงเลื่อนไป 31 ส.ค. หลังถกส่วนตัว ผบ.ตร.นาน 2 ชั่วโมงครึ่ง
“ผมได้มีการหารือเป็นหนังสือกับนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ในเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งกฤษฎีกาตอบกลับมาว่า เป็นสิทธิของผู้ร้องเรียนที่จะได้รับการเสนอชื่อขึ้นมาพิจารณาแต่งตั้งได้ เนื่องจากยังไม่มีความผิด เป็นเพียงการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาข้อเท็จจริง และตามกฎก.ตร.ผู้ร้องเรียนมีสิทธิเสนอชื่อขึ้นมา ส่วนจะรับไว้พิจารณาหรือไม่นั้น เป็นสิทธิของก.ตร.”นายภูมิธรรมกล่าว
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตนเองไม่มีปัญหาว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะเสนอชื่อใครขึ้นมาให้ก.ตร.แต่งตั้ง แต่ถ้ามีผู้มาร้องเรียนและไม่สามารถทำให้ถูกต้องตามกฎหมายได้ มีปัญหา ซึ่งสิ่งที่ ผบ.ตร.เสนอมา หัวใจสำคัญ คือ ระบบการพิจารณาแต่งตั้ง หากปล่อยไปจะกระทบต่อคนอื่นต่อไป
“ผมจึงเสนอว่า เลื่อนการประชุมก.ตร.ไปก่อนได้หรือไม่ เพราะมีการกล่าวถึงระบบการแต่งตั้ง ก็ให้ไปทบทวนดู และเมื่อก.ตร.ตัดสินใจแล้ว ต้องนำรายชื่อกราบบังคมทูลฯ ด้วย จึงไม่อยากให้เกิดความไม่เรียบร้อย”นายภูมิธรรมกล่าว
นายภูมิธรรมกล่าวว่า ก่อนที่จะมีการเลื่อนการประชุม ก.ตร. ไปวันที่ 31 ส.ค.68 ได้เสนอให้เลื่อนไป 2 สัปดาห์ เพื่อให้ผบ.ตร.ได้ทำงาน แต่ติดข้อกฎหมาย มีข้อโต้แย้งขึ้นมาว่า การขยายระยะเวลาเกินวันที่ 31 ส.ค.68 ไม่สามารถทำได้ เพราะตามระเบียบ ก.ตร. ระบุไว้ว่า ต้องจัดการให้เสร็จภายในวันที่ 31 เว้นแต่มีเหตุผลที่เพียงพอถึงจะขยายเวลาต่อไปได้
“ผมได้รายงานและชี้แจงในที่ประชุม ก.ตร.ว่า ผมได้รับการร้องเรียน 4 ท่าน ที่ยื่นหนังสือร้องเรียนอย่างเป็นทางการ และมีหนังสือแนบของกฤษฎีกาที่เสนอว่าเป็นสิทธิของผู้ร้องเรียนที่จะเสนอชื่อได้ ดังนั้น เพื่อรักษาสิทธิของผู้ร้องเรียน และยังมีเวลา ผมจึงเลื่อนไปถึงวันที่ 31 ส.ค.68 ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายทุกประการ เพราะเป็นอำนาจของประธานก.ตร. ที่จะปิดประชุม ไม่ได้ขยายเวลา แต่ก็มีเสียงที่ตามหลังผมมา ไม่รู้ว่าเป็นเสียงใคร ว่า ผมกำลังทำในสิ่งที่ผิด ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ”นายภูมิธรรมกล่าว
ส่วนกระแสข่าวว่าจะย้าย ผบ.ตร.นั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นเรื่องเกินเลย ไม่เคยพูด เห็นใจ ผบ.ตร. และเห็นใจตัวเองด้วย เพราะมีเรื่องร้องเรียนเป็นหนังสืออย่างเป็นทางการมา ไม่เกี่ยวกับตัวบุคคล เป็นการร้องเรียนกระบวนการให้กลับไปทบทวน ส่วนจะทบทวนหรือไม่ ที่ประชุมก.ตร.ตัดสิน
“ผมไม่มีอะไรที่ไม่สบายใจกับ ผบ.ตร. ผมไม่สามารถใช้อำนาจผมไปเด้งใครได้ การจะเด้งทุกอย่างต้องมีเหตุมีผล การตัดสินใจของผม ผมรับผิดชอบ”นายภูมิธรรมกล่าวและว่า
“ไร้สาระ ผมมีสิทธิอะไรที่อยู่ๆจะไปเด้ง ผบ.ตร. ไม่ได้อยู่ในความคิดผมเลย และความสัมพันธ์ของผมกับ ผบ.ตร.ก็ดี มีแต่คนจะปั่นให้ทะเลาะกัน ไม่เป็นผลดี เวลานี้ทุกอย่างยังทำอยู่ภายใต้ของกรอบกฎหมาย ภายในวันที่ 31 ส.ค.68 และเป็นอำนาจของประธานก.ตร.ที่จะปิดประชุม”นายภูมิธรรมกล่าวย้ำ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา