เผยเอกสารประชุมพรรคกล้าธรรม สรุปมติที่ประชุมควรร่วม ภท.ตั้งรัฐบาล อ้างเพื่อประโยชน์ชาติ

เผยเอกสารประชุมพรรคกล้าธรรม สรุปมติที่ประชุมเห็นควรเข้าร่วม รบ.นำโดยภูมิใจไทย ให้หัวหน้า-เลขาพรรคเป็นผู้ประสานงาน แจงเหตุย้ายข้างเพื่อให้รักษาผลประโยชน์ชาติ เป็นไปตามความต้องการของประชาชน

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวว่าสืบเนื่องจากที่มีกระแสข่าวว่าพรรคกล้าธรรม จะเข้าร่วมกับพรรคภูมิใจไทยในการจัดตั้งรัฐบาล ล่าสุดวันที่ 30 ส.ค. ได้มีการเผยแพร่เอกสารเกี่ยวกับผลการประชุมในวันที่ 29 ส.ค. ระบุว่าสรุปท้ายว่า

นายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรค แจ้งต่อที่ประชุมว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัย ว่าความเป็นนายกรัฐมนตรีของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) ประกอบมาตรา 160 (5) นับจากวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 ประกอบมาตรา 82 วรรคสอง คือ วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 และเมื่อความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) แล้ว รัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 167 (1) โดยให้นำมาตรา 168 (1) มาใช้บังคับกับการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี ที่พ้นจากตำแหน่งต่อไป นั้น

เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปโดยปกติสุข ตอบสนองความต้องการของประชาชน และเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติและพี่น้องประชาชน พรรคกล้าธรรมในฐานะพรรคร่วม รัฐบาลเดิมและมีความพร้อมที่จะบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นไปตามหลักนิติรัฐและหลักนิติธรรม จึงเห็นควร เข้าร่วมเป็นพรรคร่วมการจัดตั้งรัฐบาลนำโดยพรรคภูมิใจไทย โดยให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเป็นผู้ ประสานงานกับพรรคภูมิใจไทยเพื่อจัดตั้งรัฐบาลต่อไป

จึงเสนอคณะกรรมการบริหารพรรคกล้าธรรม ลงมติเพื่อให้ความเห็นชอบเพื่อดำเนินการ เข้าร่วมการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย

มติที่ประชุม เห็นชอบให้เข้าร่วมการจัดตั้งรัฐบาล และเห็นชอบให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเป็นผู้ ประสานงานกับพรรคภูมิใจไทย

@ ภาพการพบกันระหว่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับแกนนำพรรคกล้าธรรม อาทิ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรค เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 29 ส.ค.68 @

สำนักข่าวอิศรารายงานข่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับการประชุมดังกล่าวนั้น มีผู้เข้าร่วมประชุมเป็นกรรมการบริหารพรรคทั้งสิ้นรวม 29 คน นำโดยนางนฤมล  ภิญโญสินวัฒน์ 

อย่างไรก็ตาม มีกรรมการบริหารพรรคสองคนที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมได้แก่ นางสาวอนงค์นาถ จ่าแก้ว และนางสาวธนวรรณ   เกษเมธีการุณ โดยทั้งสองอ้างว่าติดภารกิจ