
ป.ป.ช.รวบอดีตผู้จัดการสาขาธนาคารรัฐ แอบถอนเงินบัญชีลูกค้าช่วงปี 63 ไปใช้ส่วนตน ความเสียหายร่วม 48 ล้าน ก่อนศาลออกหมายจับ 19 ส.ค. เจ้าตัวเลยหนีคดี ล่าสุดจับได้คาหอพักที่นครนายก
สำนักข่าวอิศรา (www.israewns.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 2 ก.ย.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ออกเอกสารข่าวแจกกรณีที่ พนักงานเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 2 ร่วมกับ พนักงานเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครนายก วางแผนเข้าจับกุมนางเรณุภา (สงวนนามสกุล)
สืบเนื่องจาก ในช่วงระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน 2563 ถึง 17 กันยายน 2564 นางเรณุภา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการสาขา ในธนาคารของรัฐแห่งหนึ่ง ได้มีพฤติการณ์กระทำความผิด ลักลอบทำรายการถอนและอนุมัติเบิกถอนเงินออกจากบัญชีของลูกค้า เบียดบังนำเงินซึ่งอยู่ในความดูแลของธนาคารไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตน ลักลอบนําเงินของธนาคารออกจากกล่องบรรจุธนบัตรของเครื่องฝาก - ถอนเงิน และลักลอบนำเงินสดออจากห้องมั่นคง โดยอาศัยโอกาสจากการปฏิบัติหน้าที่ของตน ความเสียหายทั้งสิ้น รวมเป็นเงินจำนวน 48,164,800 บาท
การกระทำดังกล่าวจึงทำให้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ออกหมายจับ นางเรณุภา โดยเป็นหมายจับที่ ที่ จ.13/2568 ลงวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นพนักงาน มีหน้าที่ ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ฐานเป็นพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์การ บริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น และฐานเป็นพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 มาตรา 8 และมาตรา 11 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
สำหรับการจับกุม เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริต ได้ทำการสืบสวนและติดตามเฝ้าดูพฤติกรรม จนทราบว่า นางเรณุภา (สงวนนามสกุล) ได้หลบหนีไปพักอาศัยย้ายไปที่ต่างๆ ในหลายจังหวัด โดยมีพฤติการณ์จะเดินทางไปที่ต่างๆ ซึ่งมักจะเดินทางไปมาระหว่างจังหวัดนครนายก จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดสระบุรี
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นางเรณุภาฯ ได้พักอาศัยอยู่บริเวณพื้นที่แห่งหนึ่งในอำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก จึงได้ร่วมกันวางแผนเพื่อเข้าจับกุมโดยวางกำลังเฝ้าจุดที่เชื่อว่า นางเรณุภา หลบหนีไปพักอาศัยย่านถนนรังสิต-นครนายก จนกระทั่งพบนางเรณุภา อยู่บริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่ง ในย่านถนนรังสิต-นครนายก อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก พนักงานเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าพนักงาน จากนั้นจึงได้แสดงหมายจับให้ดูและได้อ่านให้ฟังแล้ว
นางเรณุภา รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ และดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 จากนั้น จึงได้นำตัวไปยังสถานีตำรวจภูธรองครักษ์ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และควบคุมตัวนำส่งสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ต่อไป
อนึ่งการจับกัมดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้การอำนวยการโดยนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายวัฒนชัย ส้มมี รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 2 และนางสาวปิยะฉัตร พ่วงพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครนายก ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา