
‘บช.สอท.’ ระดม ‘เจ้าหน้าที่’ ประสานข้อมูล ‘แบงก์’ เพิกถอนการอายัด ‘บัญชี’ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ ‘บัญชีม้า’ พร้อมเปิด ‘สายด่วน 1441’ รับเรื่อง 24 ชั่วโมง ด้าน ‘ดีอี-ธปท.-ศปอท.-แบงก์’ ถกเร่งกระบวนการปลดอายัดฯ บรรเทาผลกระทบ‘ประชาชนสุจริต’
...........................................
เมื่อวันที่ 14 ก.ย. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) กล่าวถึงกรณีการอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้า หรือมีการรับโอนเงินจากบัญชีม้า ซึ่งทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการถูกอายัดบัญชี ว่า มาตรการป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ กำหนดระงับบัญชีต้องสงสัยชั่วคราวเพื่อตรวจสอบ โดยใช้แนวทางนี้มาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งสามารถช่วยปิดกั้นเงินผิดกฎหมายได้
อย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่า หลังจากที่มีการใช้มาตรการดังกล่าว คนร้ายได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการเพื่อนำเงินที่หลอกลวงพี่น้องประชาชนออกจากระบบ จากเดิมจะให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีม้าก่อนนำบัญชีม้ากระจายไปยังบัญชีทั้งสองแถวสามและไปซื้อเงิน สกุลดิจิตอล แต่ปัจจุบันพบว่า แทนที่จะซื้อคริปโทฯหรือสกุลเงินดิจิตอลกับโอนซื้อสินค้ากับทางร้านค้าโดยตรง และให้ร้านค้าส่งสินค้าไปยังจุดที่คนร้ายได้เตรียมไว้ ก่อนนำสินค้าไปเล่นแร่แปรธาตุเป็นเงิน ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งในการฟอกเงิน และเริ่มกระจายมายังกลุ่มร้านค้ารายย่อย
“อย่างกรณีล่าสุดที่คนร้ายปรับวิธีการนำเงินออก คือ จะโอนเงินเข้าบัญชีของเด็กและเยาวชน เป็นเงิน 1 แสนบาท จากนั้นจะโทรศัพท์ไปหาเด็ก ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชี พร้อมบอกว่า โอนผิดให้โอนเงินกลับไปยังบัญชีม้าที่เตรียมไว้ ซึ่งนั่นก็ทำให้บัญชีของเด็กคนดังกล่าวก็ถูกอายัดไปด้วย ซึ่งปัจจุบันทางตำรวจได้มีการปลดอายัดบัญชีของเด็กเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนไปแล้ว กรณีที่เกิดขึ้นอยากให้พี่น้องประชาชนเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและสถาบันการเงิน ดำเนินการตามมาตรการเพื่อระงับยับยั้งไม่ให้เงินของสุจริตชนตกไปถึงมือของคนร้าย”พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าว
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า การถูกระงับบัญชีอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ธนาคารจะระงับการทำธุรกรรมชั่วคราว หากบัญชีไปเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินของมิจฉาชีพ ซึ่งเมื่อก่อนการระงับบัญชีม้า ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ มาตรา 7 จะใช้คนกรอกเลยทำให้มีงานค้างเยอะ ตอนนี้ธนาคารเริ่มใช้ระบบอัตโนมัติในการไล่เส้นเงินติดตามคนร้าย จึงทำให้คนที่เคยรับเงินผ่านการฟอกเงินของคนร้ายจะถูกระงับบัญชี บางคนเพิ่งโดนหลังจากรับเงินมานาน เพราะว่าผู้เสียหายเพิ่งรู้ตัวว่าโดนหลอกแล้วเพิ่งมาแจ้งความ
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งตนได้ระดมเจ้าหน้าที่ประสานข้อมูลกับธนาคารต่างๆ เพื่อตรวจสอบและแก้ไขให้เร็วขึ้น พร้อมทั้งเปิดช่องผ่านทางโทรศัพท์ในการรับแจ้งข้อมูลเพื่อตรวจสอบในระบบศูนย์รับเรื่องราวร้องเรียนการอายัดบัญชี ซึ่งยืนยันว่าประชาชนสุจริตชนสามารถใช้บัญชีในการทำธุรกรรมซื้อขายได้ตามปกติ ทั้งนี้ ต้องมั่นใจว่าได้รับเงินจากบัญชีของคู่ค้าโดยตรง และหากมียอดชำระสูงจะต้องตรวจสอบบัตรประชาชน เช่น กรณีร้านทอง เป็นต้น
ส่วนประชาชนรายใดที่โดนอายัดฯ สามารถยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารของตัวเอง หรือสอบถามข้อมูลกระบวนการการขอยกเลิกการอายัด ศูนย์ รับเรื่องร้องเรียนการอายัดบัญชีของ CCIB 095-425-7478 หรือ 1441
“จากความกังวลของพี่น้องประชาชนที่เกิดขึ้น ทาง บช.สอท. ไม่นิ่งนอนใจ ได้หารือกับสถาบันการเงินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นที่เรียบร้อย และเห็นชอบร่วมกันเบื้องต้นว่าจะเร่งปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต โดยเร็ว” พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าว
ด้าน นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวภายหลังหารือร่วมกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สมาคมธนาคารไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) ว่า กรณีที่ปรากฏเป็นกระแสข่าวว่า มีการอายัดบัญชีธนาคารของร้านค้าต่างๆที่ต้องสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการเปิดบัญชีม้านั้น ความจริงแล้วไม่ใช่การอายัดบัญชี แต่เป็นการระงับวงเงินตามธุรกรรมที่เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือเกี่ยวข้องบัญชีม้า
ทั้งนี้ พ.ร.ก.กำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ฉบับใหม่ ให้อำนาจ ศปอท. ในการเพิกถอนระงับวงเงินชั่วคราวที่ถูกระงับไว้ได้ โดยหลักการ คือ ศูนย์ AOC 1441 สามารถรับเรื่องราวต่างๆ เมื่อโทรศัพท์เข้ามาแจ้งแล้ว ก็จะมีวิธีการแยกผู้บริสุทธิ์ออกจากผู้ที่มีส่วนกระทำความผิด แต่จากการที่มีผู้ติดต่อขอเข้ามาปลดระงับบัญชีนั้น พบว่า มีหลายรายที่เป็นบัญชีม้า ซึ่งในกรณีที่เป็นผู้บริสุทธิ์หรือไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการฯ ก็จะดำเนินการเพิกถอนการระงับธุรกรรมชั่วคราวทันที ซึ่งจะใช้เวลาไม่นานนัก
ขณะที่ น.ส.ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า จากกรณีที่มีข่าวการอายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้านั้น บัญชีที่ได้รับผลกระทบจะเป็นบัญชีที่อยู่ในเส้นทางเงินที่รับโอนจากบัญชีม้าเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) และธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) ได้ยกระดับการจัดการบัญชีม้า โดยขยายขอบเขตการติดตามเส้นทางเงินให้กว้างขึ้น เพื่อกักเงินที่โยงกับบัญชีม้ามาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด จึงทำให้การระงับบัญชีที่เกี่ยวข้องอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมากขึ้น
อย่างไรก็ดี จากความกังวลที่เกิดขึ้น ธปท. ได้หารือกับ ศปอท. และ ธพ. แล้ว และเห็นชอบร่วมกันเบื้องต้นว่า จะเร่งปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต โดยจะมีการหารือร่วมกันพรุ่งนี้ (14 ก.ย.) และจะเริ่มดำเนินการได้ทันที
สำหรับประชาชนสุจริตที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา ท่านสามารถติดต่อยกเลิกการระงับ โดยติดต่อไปยังศูนย์ AOC 1441 ต่อ 2 ได้

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา