
สปส.แจงกมธ.ติดตามงบฯ โครงการทำ 'เว็บแอป' 850 ล. คิดค่าปรับเอกชนส่งงานช้า 78 ล.-งานยังไม่เสร็จ-จี้ถามความเหมาะสมโครงการระบบดับเพลิง 79 ล. ไม่หาสารดับไฟจากบ.อื่นหลังบ.เดิมเลิกผลิต
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2568 กรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ มีการประชุมร่วมกับสำนักงานประกันสังคม (สปส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในวาระการติดตามการบริหารงบประมาณของสำนักงานประกันสังคม
โดยผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรามีโอกาสเข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุม จึงสรุปประเด็นที่น่าสนใจในการประชุมครั้งนี้ ดังนี้
นายวรภพ วิริยะโรจน์ รองปรธานคณะกรรมาธิการคนที่สองได้รับมอบหมายปฏิบัติหน้าที่แทนประธานกรรมาธิการ กล่าวว่า ขอทราบความคืบหน้าเรื่องโครงการทำระบบไอทีหลังบ้านของสำนักงานประกันสังคม หรือ เว็บแอป (Web Application) มูลค่า 850 ล้านบาท
ผู้แทนจากสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า โครงการล่าช้าจากความยากและความซับซ้อนของงาน เพราะมีปริมาณข้อมูลจำนวนมาก ส่วนการตรวจรับนั้นสัญญาสิ้นสุด 20 ธ.ค 2566 แต่ทางเอกชน ขอสงวนสิทธิ์ตามที่ทำสัญญาในช่วงโควิดระบาด โดยคิดค่าปรับร้อยละ 0 เป็นเวลา 193 วัน
ผู้แทนจากสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ดังนั้นจากการที่เอกชนสิ้นสุด 21 ธ.ค. 2566 ถึง 30 ก.ค. 2567 เป็นระยะเวลาที่ได้รับการคำนวนค่าปรับร้อยละ 0 ต่อมา 8 ก.ค. 2567 เอกชนส่งงานมา ประกันสังคมใช้เวลาในการตรวจรับจำนวนหนึ่งแล้วส่งงานคืนในวันที่ 15 พ.ค. 68 ทางเอกชนได้รับแล้วส่งงานคืนมาวันที่ 27 พ.ค. 2568 พอประกันสังคมรับงานมาครั้งที่ 2 ก็ประชุมแล้วตกผลึกร่วมกันให้คณะกรรมการตรวจรับใช้วิธีตรวจรับตรวจสอบในเรื่องข้อบกพร่องที่แจ้งเอกชนไป ในการตรวจรับช่วงแรกที่จะตรวจเฉพาะข้อบกพร่องมีข้อตกลงร่วมกันว่าถ้ามีข้อบกพร่องประกันสังคมจะคืนงานทันที ต่อมาในครั้งที่ 2 พอประกันสังคมตรวจงานแล้วก็ยังมีข้อบกพร่องจึงส่งกลับไป เอกชนรับเรื่องคืน 15 ก.ค. 2568 เวลาผ่านไปจนถึงวันนี้ทางเอกชนก็ยังไม่ส่งงานคืนมา ค่าปรับก็เดินเรื่อย ๆ
ผู้แทนจากสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สรุป ณ วันที่ 25 ก.ย 2568 ระยะเวลาการปรับนับตั้งแต่ผิดสัญญา หักด้วยระยะเวลาที่คณะกรรมการตรวจรับใช้ หักด้วยจำนวน 193 วันที่ได้รับการช่วยเหลือในช่วงโควิด สรุปคงเหลือค่าปรับ 92 วัน เฉพาะค่าปรับที่ส่งงานล่าช้าคิดเป็นจำนวนเงิน 78 ล้านกว่าบาท
ผู้แทนจากสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ส่วนการทำงานของประกันสังคมหลังจากนี้คงต้องใช้ระบบเดิมไปก่อน แต่การใช้ระบบเดิมก็มีค่าใช้จ่าย เราจึงต้องวางแผนแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้กระทบการให้บริการประชาชน ตอนนี้กำลังหารือกับกรมบัญชีกลางว่าจะคิดค่าเสียหายอย่างไร
"ส่วนเรื่องที่เอกชนมีการจ้างบริษัทเอกชนรับช่วงงานต่อนั้น ประกันสังคมรับทราบพร้อมทุกคนที่ทราบจากสื่ออนไลน์ เลยรีบมีหนังสือไปถาม เอกชนก็ชี้แจงมา ประกันสังคมก็ส่งเรื่องไปให้กรมบัญชีกลาง ถามว่าเป็นการจ้างช่วงจริงหรือไม่ ตอนนี้รอกรมบัญชีกลางตอบกลับมาว่าเป็นการจ้างช่วงหรือไม่" ผู้แทนจากสำนักงานประกันสังคม กล่าว
@ จี้ถามความเหมาะสมโครงการระบบดับเพลิง
นอกจากนี้นายวรภพ ยังตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของโครงการจัดหาระบบดับเพลิงอัตโนมัติแบบหมอกน้ำ (Water Mist) 1 ระบบ พร้อมติดตั้งใช้งานเพื่อทดแทนระบบเดิม ณ ศูนย์คอมพิวเตอร์สำรอง (จังหวัดระยอง) ระยะเวลา 9 เดือน วงเงิน 79,750,000 บาท
ผู้แทนจากประกันสังคม ชี้แจงว่า เนื่องจากสารดับเพลิงที่ใช้บริษัทเอกชนที่เป็นเจ้าของระบบที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะเลิกผลิตในปี 2568 ขณะนี้อยู่ระหว่างประกาศเชิญชวนเอกชน
นายวรภพ ถามต่อว่า แล้วได้หาเอกชนรายอื่นหรือไม่ว่ามีสารดับเพลิงที่ใช้แทนกันได้หรือไม่
ผู้แทนประกันสังคม ตอบว่า ไม่ได้หาข้อมูล อีกทั้งระบบข้างต้นใช้มาแล้วเป็นระยะเวลา 10 ปี จึงเป็นเหตุผลที่ใช้ประกอบในการตัดสินใจที่จะจัดหาระบบใหม่
หลังจากนั้นคณะกรรมาธิการอีกหลายรายก็แสดงความคิดเห็นต่อโครงการดังกล่าว โดยมีความคิดเห็นไปในทางเดียวกัน คือ ควรยกเลิกโครงการ และหาสารดับเพลิงจากเอกชนรายอื่นแทน อีกทั้งระบบดับเพลิงมีอายุใช้งานถึง 20 ปี ยังไม่จำเป็นต้องจัดหาระบบใหม่ เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณของสำนักงานประกันสังคม

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา