ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตนายก อบต.สากเหล็ก พิจิตร แต่งตั้งเลขานุการฯ เป็นรองนายกฯ มิชอบ

เขียนวันที่

วันอังคาร ที่ 30 กันยายน 2568 เวลา 08:45 น.

เขียนโดย

isranews

Hits

1592 views

picppckesdfg30 9 68

ป.ป.ช.พิจิตร เผยมติคกก.ชุดใหญ่ ชี้มูล 'ผดา รัตนศิริ' อดีตนายก อบต.สากเหล็ก ปฏิบัติหน้าที่มิชอบแต่งตั้งเลขานุการฯ ซึ่งยังไม่สำเร็จการศึกษามัธยมปลาย ไม่เคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.ฯ เป็นเหตุให้ราชการเสียหาย ส่งสำนวน อสส.ฟ้องศาลดำเนินคดีอาญา-ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดพิจิตร ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดกรณีกล่าวหา นางผดา รัตนศิริ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สากเหล็ก อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบแต่งตั้งนายปัญญา นาคลี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขานุการนากยกองค์การบริหารส่วนตำบลสากเหล็ก อำเภอสากเหล็ก จังหวัดพิจิตร ซึ่งยังไม่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมตอนปลาย และไม่เคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นมาก่อนอันเข้าลักษณะต้องห้ามตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 ให้ดำรงตำแหน่งรองนายก อบต.สากเหล็ก จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติ ดังนี้

(1) การกระทำของ นางผดา รัตนศิริ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) และมีมูลเป็นการกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92

(2) การกระทำของ นายปัญญา นาคลี มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92 และ มีมูลเป็นการกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการ ไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92 แต่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ได้ขาดอายุความแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) จึงให้ยุติการดำเนินคดีกับ นายปัญญา นาคลี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ในฐานความผิดดังกล่าว

สำนักข่าวอิศรา รายงานเพิ่มเติมว่า ตามขั้นตอนหลังการชี้มูลความผิดคดีอาญาและวินัย คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีและส่งเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามอำนาจและหน้าที่ต่อไป

อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

อ่านประกอบ :

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage