
‘พิพัฒน์’ ไม่เห็นด้วยแก้สัญญาไฮสปีด 3 สนามบิน ชี้ควรเดินตามสัญญาเดิม พร้อมระบุจะเชิญอีอีซี-ซี.พี.-รฟท.หารือให้ชัดเจน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 1 ตุลาคม 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ปัญหาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา) มูลค่า ลงทุน 224,544.36 ล้านบาท ที่มีประเด็นการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนโดยมีคู่สัญญาระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัทเอเชีย เอราวัน จำกัด (ซีพี.) เป็นเอกชนผู้รับสัมปทาน ซึ่งมีสัญญาสัมปทาน 50 ปี นั้น จากการหารือกับปลัดกระทรวงคมนาคมเพื่อหาแนวทางแก้ไข เนื่องจากโครงการล่าช้ามากว่า 6 ปี แล้ว ซึ่งจะเชิญ บริษัทเอกชน ,สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และรฟท.มาหารือร่วมกันโดยเร็วที่สุด เพื่อหาทางออก ว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร
“ซึ่งจากข้อมูลทำให้ทราบว่า เรื่องการปรับแก้สัญญาร่วมลงทุน ฯ ที่ไม่เหมือนสัญญาเดิม คือ จากการก่อสร้างเสร็จแล้วรัฐจึงจ่ายคืนเงินร่วมทุนฯเป็นก่อสร้างไปจ่ายไป ซึ่งเราไม่เห็นด้วย และเห็นว่าควรเดินตามสัญญาเดิมที่มีอยู่ เพราะอาจจะทำให้ถูกฟ้องได้” นายพิพัฒน์กล่าว
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า รัฐบาลมีเวลา 4 เดือน และเลือกตั้งรอรัฐบาลใหม่อีก 4 เดือน ดังนั้น อะไรที่ทำแล้วรัฐเสี่ยงที่จะเสียหาย จะไม่ทำ และยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเปิดช่องให้เอกชนยกเลิกสัญญา เรื่องแก้ไขสัญญาเคยมีเสนอไปที่ครม.ยุคก่อนหน้านี้แล้ว แต่ก็ไม่จบ จึงต้องเชิญเอกชน อีอีซี มาหารือให้ชัดเจน จะปล่อยให้อึมครึมต่อไปอีก 4 เดือน คงไม่ได้ รัฐจะเสียหายน เอกชนก็เสียหาย
นอกจากนี้ เส้นทางดังกล่าว มีรถไฟทางคู่ จาก แหลมฉบัง จ.ชลบุรี ฉะเชิงเทรา หากจำเป็นจริงๆ ก็สามารถเชื่อมไปที่สนามบินอู่ตะเภา และนำรถไฟไปวิ่ง ก็น่าจะง่ายกว่า

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา