
ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'สาธิต สันหมุด' นายช่าง สนง.ก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 9 เรียกรับเงินผู้รับเหมาโครงการระบบส่งน้ำคลองพระสะทึง สระแก้ว ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำคุก 12 ปี 16 เดือน ไม่รอลงอาญา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสาธิต สันหมุด เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายช่างชลประทาน ปฏิบัติงานสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 9 กรมชลประทาน เรียกรับเงินจากผู้รับเหมางานก่อสร้างระบบส่งน้ำฝั่งขวาโครงการระบบส่งน้ำคลองพระสะทึง ตำบลวังใหม่ อำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149, 147, 157 ประกอบมาตรา 90, 91 และ ตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช.พ.ศ. 2561 มาตรา 172, 173 ประกอบ ป.อ.มาตรา 90,91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาแก้ คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2
จากเดิม
พิพากษาว่า นายสาธิต สันหมุด จำเลยมีความผิดตามกฎหมาย กระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตาม ป.อ. ม.91 รวม 4 กระทง ให้ลงโทษจำคุก กระทงละ 5 ปีและปรับกระทงละ 120,000 บาท
ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสามตาม ป.อ. ม.78 คงจำคุกกระทงละ 3 ปี 4 เดือน และปรับกระทงละ 80,000 บาท
รวมจำคุก 12 ปี 16 เดือน และปรับ 320,000 บาท
ไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนและเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 3 ปี ตาม ป.อ.ม.56 หากไม่ชชำระค่าปรับให้จัดการตาม ป.อ. ม.29 , 30 คำขออื่น นอกจากนี้ให้ยก
แก้เป็น
ไม่ปรับและไม่รอการลงโทษ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตาม คำพิพากษาศาลชั้นต้น
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฏีกาคำพิพากษา
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
สำหรับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา