ก.คลังสหรัฐฯ เผยแพร่ประกาศร่วมมือ ธปท.หวังรับมือความผันผวนทางการเงินระหว่างประเทศ ชี้ระบบการเงินระหว่างประเทศส่งผลต่อเกิดการชำระเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการแข่งขันไม่เป็นธรรม ยืนยันต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลกันทุก 6 เดือน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา ได้มีการออกประกาศลงบนเว็บไซต์ ระบุถึงความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลังฯ กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยมีเนื้อหาระบุว่า
ในฐานะพันธมิตรที่เชื่อถือได้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยตกลงที่จะหารือกันอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับประเด็นเศรษฐกิจมหภาคและอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศต่อไป กระทรวงการคลังสหรัฐฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยยืนยันอีกครั้งว่าได้ดำเนินการตามข้อตกลงของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อหลีกเลี่ยงจากการควบคุมอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ หรือ เพื่อป้องกันผลกระทบที่ตามมาจากระบบการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งจะทำไม่เกิดการปรับสมดุลการชำระเงินอย่างมีประสิทธิภาพ หรือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่าทางฝ่าย ธปท.ได้เห็นพ้องว่า
มาตรการมหภาคหรือการไหลเวียนของเงินทุนใดๆ จะไม่กำหนดเป้าหมายอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อจุดประสงค์การแข่งขัน
กลไกการลงทุนของรัฐบาลอื่น ๆ เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญ จะไม่ถูกใช้โดยกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกาและธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อกำหนดเป้าหมายอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อวัตถุประสงค์การแข่งขัน และ
ในกรณีที่อาจจะถึงขั้นต้องพิจารณาการแทรกแซงตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ควรสงวนไว้สำหรับการต่อสู้กับความผันผวนที่มากเกินไปและการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นระเบียบของอัตราแลกเปลี่ยน โดยคาดหวังว่าเครื่องมือนี้จะถือว่ามีความเหมาะสมและเท่าเทียมกันในการจัดการกับทั้งกรณีการลดค่าเงินมากเกินไป หรือการเพิ่มค่าเงินมากเกินไป ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับความผันผวนที่มีมากเกินไปหรือไม่เป็นระเบียบ
กระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกาและธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นพ้องถึงความสำคัญของความโปร่งใสของนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นที่จะเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะเกี่ยวกับการดำเนินการแทรกแซงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างน้อยทุก 6 เดือน โดยมีความล่าช้าไม่เกิน 3เดือน และเปิดเผยข้อมูลสำรองเงินตราต่างประเทศและสถานะล่วงหน้าตามระบบข้อมูลของ IMF เกี่ยวกับการสำรองเงินตราต่างประเทศและสภาพคล่องสกุลเงินต่างประเทศเป็นรายเดือน
ด้าน น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯ และธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกถ้อยแถลงเกี่ยวกับนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนและการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ที่รัฐบาลไทยได้ออกถ้อยแถลงไปก่อนหน้านี้ โดยสรุปสาระสำคัญดังนี้
1.ทั้งสองฝ่ายจะไม่ใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อมุ่งสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน แต่ควรเป็นไปเพื่อดูแลความผันผวนที่มากเกินไปหรือกรณีเกิดการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนที่ผิดปกติ
2.ทั้งสองฝ่ายจะเพิ่มความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลการดูแลเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยนโดยเพิ่มการรายงานข้อมูลให้มีความถี่มากขึ้น
3.ทั้งสองฝ่ายจะเปิดเผยข้อมูลเงินสำรองระหว่างประเทศตามรูปแบบของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) เป็นรายเดือน ซึ่งเป็นสิ่งที่ ธปท. ดำเนินการอยู่ก่อนหน้าแล้ว
น.ส.ชญาวดี กล่าวด้วยว่า ทางการสหรัฐฯ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการดำเนินนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศคู่ค้ามาระยะหนึ่งแล้ว และได้มีการประเมินผ่านเงื่อนไขต่างๆ เช่น ดุลบัญชีเดินสะพัดและดุลการค้ากับสหรัฐฯ มาอย่างต่อเนื่อง โดยไทยเคยถูกจัดอยู่ใน monitoring list ในช่วงปี 2020-21
ดังนั้น จึงได้ใช้โอกาสที่มีการเจรจาการค้า ในการให้ทั้งสองประเทศเน้นย้ำความมุ่งมั่นที่จะไม่ใช้อัตราแลกเปลี่ยนในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ผ่านการออก statement สู่สาธารณะ เช่นเดียวกับที่ ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ และเกาหลีใต้ ได้ออกมาก่อนหน้านี้ จากเดิมที่เป็นการหารือทวิภาคีเป็นการภายในระหว่างกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กับธนาคารกลางหรือกระทรวงการคลังของประเทศคู่ค้า โดย ธปท. ยังสามารถดำเนินนโยบายเพื่อวัตถุประสงค์ในการดูแลเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยนได้เช่นเดิม
Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา 