
บวรศักดิ์ เผยเข้าเฝ้าสมเด็จพระพระสังฆราช ขอพระสังคราชานุมัติ มหาเถรสมาคมขออนุมัติ ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการคุ้มครองพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตั้งอนุกรรมการคุ้มครองพระพุทธศาสนาจังหวัด 76 จังหวัด ตัดสินคดี-ลงโทษพระ จัดการศาสนสมบัติวัด ที่ดินวัด ธรณีสงฆ์ ชง กระทรวงการคลัง-กรมบัญชีกลาง จัดทำระบบบัญชีรับจ่ายเงินของวัด – เงินบริจาค 10 ล้านบาทขึ้นไป ต้องทำบัญชี-มีผู้รับสอบบัญชี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 30 ตุลาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ได้เฝ้าสมเด็จพระสังฆราชเพื่อขอพระสังคราชานุมัติเพื่อดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา เรื่องการพิทักษณ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น โดยจะดำเนินมาตรการป้องกันและขจัดการบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ซึ่งพระสังฆราชทรงเห็นชอบด้วยในการยกร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการคุ้มครองพระพุทธศาสนา โดยได้เสนอต่อมหาเถรสมาคมและได้รับตามข้อสังเกตเล็กน้อย ซึ่งผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 ต.ค.68 ที่ผ่านมา โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีจะลงนามต่อไป
นายบวรศักดิ์กล่าวว่า ร่างระเบียบฯดังกล่าว เป็นก้าวแรกที่รัฐบาลได้ทำตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งมุ่งขจัดความมัวหมองที่เกิดขึ้นจากพระส่วนน้อยซึ่งประพฤติผิดพระธรรมวินัยให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียที ดังนั้น วันนี้เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งของพุทธจักร ซึ่งมีสมเด็จพระสังฆราชเป็นองค์ประมุขและมหาเถรสมาคม โดยรัฐบาลยื่นมือเข้าไปช่วย แต่จะไม่ทำอะไรโดยอำเภอใจ
นายบวรศักดิ์กล่าวว่า ระเบียบฯ ดังกล่าว กำหนดให้มีคณะกรรมการคุ้มครองพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (คพช.) โดยมีประธานคพช. ที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง โดยพระสังคาราชานุมัติและได้รับความเห็นชอบต่อมหาเถรสมาคม และมีกรรมการโดยตำแหน่ง อาทิ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านพระพุทธศาสนาและด้านอื่นๆ ไม่เกิน 9 คน ที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งโดยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม โดยมีผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ
“กรรมการชุดนี้จะทำหน้าที่เสนออาณาจักร คือ นายกรัฐมนตรีและครม. และพุทธจักร คือ มหาเถรสมาคม ว่า จะมีมาตรการกลไกที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาให้เป็นไปตามกฎหมาย พระธรรมวินัย มติครม.กับข้อบังคับ ตลอดจนคำสั่ง หรือประกาศของมหาเถรสมาคมอย่างไร ทั้งนี้ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับคณะสงฆ์โดยตรงต้องได้รับพระสังคมราชานุมัติและมหาเถรสมาคมเห็นชอบ”นายบวรศักดิ์กล่าว
นายบวรศักดิ์กล่าวว่า โดยจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการคุ้มครองพระพุทธศาสนาจังหวัด 76 จังหวัด ยกเว้นกรุงเทพมหานคร โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เพื่อไปดำเนินการในชั้นของจังหวัดและแนะนำให้คำปรึกษาแก่หน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์ เพราะในอดีตมีหน่วยงานบางหน่วยงานพอได้รับมอบหมาย ตำรวจก็เอาพระมาให้ถือบัตรประชาชนและถ่ายรูปเป็นที่แตกตื่นกันในบรรดาพระทั่วประเทศ จึงมีการร้องเรียนมาที่มหาเถรสมาคมจำนวนมาก จึงต้องทำให้เป็นตามจารีตประเพณีของไทย รวมถึงมีหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนภิกษุปฏิบัติฝ่าฝืนพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรง สามารถร้องเรียนได้ ตลอดจนคุ้มครองพระพุทธศาสนาในจังหวัด ปกครองคณะสงฆ์และชำระอธิกรณ์ หรือ ตัดสินคดีเกี่ยวกับพระ และลงโทษพระ สอดส่องความพระพฤติของภิกษุสามเณรทั่วจังหวัด จัดทำทะเบียน จัดการศาสนสมบัติวัด ที่ดินวัด ธรณีสงฆ์ เป็นต้น ทั้งนี้ บังคับให้ประชุม 3 เดือน 1 ครั้ง
นายบวรศักดิ์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการตั้งคณะวินัยธรณ์กลางเพื่อชี้ขาดพระธรรมวินัยและคณะธรรมธรณ์กลาง เพื่อวินิจฉัยเรื่องโต้แย้งเกี่ยวกับพระธรรมวินัย โดยมีพระภิกษุ 10 รูปที่ทรงพระวินัยและพระธรรม มีฆารวาสเป็นที่ปรึกษา โดยต้องเสนอให้พระสังฆราชมีพระสังคราชานุมัติและมหาเถรสมาคมเห็นชอบ เพื่อแจ้งเวียนให้วัดและพุทธศาสนิกชนทราบและปฏิบัติต่อไป จะได้ไม่ต้องเกิดการถกเถียงในสังคมว่าใครถูก ใครผิด เพราะในอดีตมีการตั้งลัทธิ การตีความพระธรรมวินัย ไม่เอ่ยชื่อว่าสำนักไหน แต่เกิดเรื่องเมื่อ 20-30 ปีที่แล้วจนกระทั่งมีการสรุปว่า คณะนั้น นิกายนั้น ไม่ใช่คณะสงฆ์ไทย
“ตอนนี้ผมได้เสนอครม.ว่า เพื่อให้ระบบบัญชีของวัดโปร่งใส ให้กระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลาง ลงไปจัดทำระบบบัญชีรับจ่ายเงินของวัด ระบบบัญชีการรับจ่ายเงินศาสนสมบัติของวัด ศาสนสมบัติกลางเพื่อให้วัดทั่วประเทศปฏิบัติ สมมุติสมควรให้วัดที่มีรายได้ 1-10 ล้านบาททำบัญชีแบบรวบรัด แต่วัดที่อาจจะมีรายได้จากการบริจาคมากขึ้น เช่น 10 ล้านบาท อาจจะต้องทำบัญชีและมีผู้รับสอบบัญชีผู้ได้รับอนุญาตเป็นคนสอบบัญชี”นายบวรศักดิ์กล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา