
ปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา ลงนามในหนังสือถึง แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการ กกต. ให้ อนันต์ สุวรรณรัตน์-ณรงค์ รักร้อย ผู้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา ประชุมร่วมกับ กรรมการ กกต. ที่ยังไม่ครบวาระ เลือก ประธาน กกต. หลัง อิทธิพร บุญประคอง ครบวาระ - เปิด 5 ชื่อ กกต. เลือกกันเอง ให้เป็นประธานกกต.คนใหม่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 นางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา ลงนามในหนังสือ ที่ สว 0008/5806 เรื่อง การเลือกประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ขอให้สำนักงาน กกต. ได้พิจารณาดำเนินการจัดให้บุคคลผู้ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กกต. จำนวน 2 คน คือ นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ และนายณรงค์ รักร้อย ประชุมร่วมกับ กรรมการ กกต. ซึ่งยังไม่พ้นจากตำแหน่ง เพื่อเลือกกันเองให้คนหนึ่งเป็นประธาน กกต. แทนนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ที่ครบวาระเมื่อเดือนส.ค.68 แล้วแจ้งผลให้ประธานวุฒิสภาทราบ
สืบเนื่องจากบุคคลผู้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่งกรรมการกกต.ดังกล่าวข้างต้นได้แสดงหลักฐานต่อนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภาว่าได้ลาออกจากตำแหน่งหรือเลิกประกอบอาชีพ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยคณะกรรมการ กกต. พ.ศ. 2560 ภายในระยะเวลาที่ประธานวุฒิสภากำหนด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีรายละเอียด ดังนี้
อ่านประกอบ : ‘วุฒิสภา’ มีมติเห็นชอบ ‘อนันต์ สุวรรณรัตน์-ณรงค์ รักร้อย’ เป็น ‘กรรมการ กกต.’
ด้วยวุฒิสภาได้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กกต. ตามมาตรา 8 (1) ประกอบมาตรา 12 วรรคเจ็ด แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 จำนวน 2 คน ประกอบด้วย
1. นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ (แทนนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กรรมการ กกต. ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระ)
2. นายณรงค์ รักร้อย (แทนนายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กรรมการ กกต. ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระ)
โดยสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้มีหนังสือแจ้งให้บุคคลผู้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กกต. ดังกล่าว ได้ดำเนินการลาออกจากตำแหน่งต่างๆ หรือแสดงหลักฐานการรับรองว่า ไม่ดำรงตำแหน่งหรือประกอบวิชาชีพตามที่กฎหมายกำหนด ภายใน 15 วัน นับแต่วันถัดจากวันที่มีประกาศวุฒิสภา เรื่อง กำหนดเวลาให้บุคคลผู้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กกต. ลาออกจากตำแหน่งหรือเลิกประกอบอาชีพตามมาตรา 13 ประกอบมาตรา 10 (20) (21) (22) และ (23) แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการ กกต. พ.ศ. 2560
ในการนี้ สำนักเลขาธิการวุฒิสภา ขอเรียนให้ทราบว่า บัดนี้ บุคคลผู้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่งกรรมการกกต.ดังกล่าวข้างต้นได้แสดงหลักฐานต่อประธานวุฒิสภาว่าได้ลาออกจากตำแหน่งหรือเลิกประกอบอาชีพ ตามมาตรา 13 ประกอบมาตรา 10 (20) (21) (22) และ (23) แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการ กกต. พ.ศ. 2560 ภายในระยะเวลาที่ประธานวุฒิสภากำหนด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ดังนั้น จึงขอให้สำนักงานคณะกรรมการ กกต. ได้พิจารณาดำเนินการจัดให้บุคคลผู้ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กกต. ตามมาตรา 13 ประกอบมาตรา 12 วรรคเจ็ด แห่ง พ.ร.ป.ฉบับเดียวกัน จำนวน 2 คนดังกล่าวข้างต้น กล่าวคือ นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ และนายณรงค์ รักร้อย ประชุมร่วมกับ กรรมการ กกต. ซึ่งยังไม่พ้นจากตำแหน่ง เพื่อเลือกกันเองให้คนหนึ่งเป็นประธาน กรรมการ กกต. แล้วแจ้งผลให้ประธานวุฒิสภาทราบ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 12 วรรคเก้า แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการ กกต. พ.ศ. 2560 ต่อไป”
@ เปิด 5 ชื่อ เลือกกันเอง นั่ง ประธาน กกต.
รายงานข่าวระบุว่า ปัจจุบัน กรรมการ กกต.ที่ยังไม่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง ประกอบด้วย นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ กรรมการ กกต. นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กรรมการ กกต. นายชาย นครชัย กรรมการ กกต. นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ กรรมการ กกต. และนายณรงค์ กลั่นวารินทร์ กรรมการ กกต.
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า นายเลิศวิโรจน์ และนายฐิติเชฎฐ์ กรรมการ กกต. จะพ้นจากตำแหน่งตามวาระ ในวันที่ 4 ธ.ค.68 ดังนั้น การเลือกกันเองของ กรรมการ กกต. มีผู้ที่เป็นแคนดิเดตเป็นประธานกรรมการ กกต. จำนวน 5 ราย ดังนี้
1. นายชาย นครชัย กรรมการ กกต. (ดำรงตำแหน่งวันที่ 2 ต.ค.66 )
2. นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ กรรมการ กกต. (ดำรงตำแหน่งวันที่ 19 มี.ค.67)
3. นายณรงค์ กลั่นวารินทร์ กรรมการ กกต. (ดำรงตำแหน่งวันที่ 30 ส.ค.67 (วุฒิสภาชุดใหม่เห็นชอบ))
4. นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ กรรมการ กกต. (วุฒิสภาเห็นชอบวันที่ 20 ต.ค.68 (วุฒิสภาชุดใหม่เห็นชอบ))
5. นายณรงค์ รักร้อย กรรมการ กกต. (วุฒิสภาเห็นชอบวันที่ 20 ต.ค.68 (วุฒิสภาชุดใหม่เห็นชอบ))
@ ขั้นตอนเลือกประธานกกต.คนใหม่
รายงานข่าวว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการ กกต. พ.ศ. 2560 มาตรา 12 วรรคเก้า กำหนดว่า เมื่อมีผู้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาแล้ว หากเป็นกรณีที่ประธานกรรมการพ้นจากตำแหน่งด้วย ให้ผู้ได้รับความเห็นชอบประชุมร่วมกับกรรมการซึ่งยังไม่พ้นจากตำแหน่ง (นายอิทธิพรและนายสันทัด พ้นจากจากตำแหน่งแล้ว ร่วมประชุมไม่ได้) ถ้ามีเพื่อ เลือกกันเอง ให้คนหนึ่งเป็นประธานกรรมการ แล้วแจ้งผลให้ประธานวุฒิสภาทราบ
ในกรณีที่ผู้ซึ่งวุฒิสภาให้ความเห็นชอบยังได้ไม่ครบจำนวนที่ต้องสรรหาหรือคัดเลือก (ครบ 7 คน) แต่เมื่อรวมกับกรรมการซึ่งยังดำรงตำแหน่งอยู่ ถ้ามี มีจำนวนถึง ห้าคน ก็ให้ดำเนินการประชุมเพื่อเลือกประธานกรรมการได้ และเมื่อโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งแล้ว ให้คณะกรรมการดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไปพลางก่อนได้
โดยในระหว่างนั้นให้ถือว่าคณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มีอยู่ และให้ดำเนินการสรรหาหรือคัดเลือกเพิ่มเติมให้ครบตามจำนวนที่ต้องสรรหาหรือคัดเลือกต่อไปโดยเร็ว
ให้ประธานวุฒิสภานำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการ และเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ
ทั้งนี้ ระเบียบคณะกรรมการ กกต. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการประชุมของคณะกรรมการ กกต. พ.ศ. 2561 หมวด 3 การลงมติ ข้อ 18 ระบุว่า การลงมติในการประชุมของคณะกรรมการให้ใช้เสียงข้างมาก กรณีมีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมมีสิทธิออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
@ รอตั้ง กมธ.ตรวจสอบประวัติ ผู้สมัคร กกต. 18 ราย
รายงานข่าวอีกว่า ภายหลังคณะกรรมการสรรหากรรมการ กกต. เปิดรับสมัครบุคคลผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามพ.ร.บ.ว่าด้วยคณะกรรมการ กกต. พ.ศ.2560 เพื่อเข้ารับการสรรหาฯ แทน นายเลิศวิโรจน์ และนายฐิติเชฎฐ์ กรรมการ กกต. ที่จะพ้นจากตำแหน่งตามวาระ ในวันที่ 4 ธ.ค.68 ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.68 – 6 ต.ค.68 มีผู้สมัครเข้ารับการสรรหาฯ จำนวน 18 คน ดังนี้
-
1. นายสาธิต อุไรเวโรจนากร ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
-
2. รองศาสตราจารย์พิทยา จารุพูนผล รองศาสตรจารย์ ภาควิชาอนามัยครอบครัว คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
-
3. นายเสกสรร สุขแสง อธิบดีกรมบังคับคดี
-
4. นายมณฑล สุดประเสริฐ อดีตอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง
-
5. นายธนากร แหวกวารี ทนายความ
-
6. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ณัทตรัยพัทธ์ ภัทร์พรชนัต อดีตผู้บริหารระดับสูงบริษัทมหาชน
-
7. พันตำรวจโท กรป กฤตธีรานนท์ อดีตเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน
-
8. นายศิริพงษ์ ประสิทธิ์ศักดิ์ ทนายความ
-
9. นายอดิศร ไชยคุปต์ รองอัยการสูงสุด
-
10. นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อดีตอธิบดีกรมการขนส่งทางบก
-
11. นายวิฑูลรย์ ศิริวิโรจน์ ทนายความ
-
12. นายวุฒิพงศ์ เนติธีรัตน์ ทนายความ
-
13. นายดำรงศักดิ์ เครือแก้ว ทนายความ
-
14. นายทศพร รัตนมาศทิพย์ อดีตผู้บริหารระดับสูงบริษัทมหาชน
-
15. นายธัญญา เนติธรรมกุล อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล
-
16. ศาสตราจารย์ พลตำรวจโท จักรพงษ์ วิวัฒน์วานิช อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
-
17. ผู้ช่วยศาสตราจารย์กุสุมามาลย์ ปัจฉิมสวัสดิ์ ผู้ทำงานในภาคประชาสังคม
-
18. นายพิริยะ ธานีรณานนท์ ผู้ทำงานในภาคประชาสังคม
ทั้งนี้ ขั้นตอนหลังจากนี้ คือ วุฒิสภาจะต้องตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กกต. ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่วุฒิสภามีมติแต่งตั้ง และสามารถขยายเวลาได้อีก 30 วัน ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. 2562 ข้อ 105

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา