
คกก.นโยบายแอลกอฮอล์ เตรียมถกขยายเวลาขายเหล้า-เบียร์ บ่าย 2 ถึง 5 โมงเย็น หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ 'โสภณ'บอกหมดยุคบังคับแล้ว ชี้ช่วงเทศกาลห้ามไม่ได้ รับห่วงอุบัติเหตุ มอบ สธ.-ท่องเที่ยวหารือหาจุดกึ่งกลางขยายเวลานั่งดื่มหลังเที่ยงคืน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2568 โดยมี นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายอรรถกร ศิริลัทยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมประชุมด้วย
นายโสภณ กล่าวก่อนการประชุมว่า เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ และมีปัญหาเรื่องการจำหน่ายสุราและการดื่มสุรา ที่สำคัญในรัฐบาลชุดนี้มีนโยบายของรัฐบาลชุดนี้เรื่องใดก็ตามที่เป็นอุปสรรค ในการที่จะดูแลประชาชน หรือที่จะพัฒนาประเทศ ถ้าเป็นระเบียบเราจะแก้ระเบียบ หากเป็น พ.ร.บ.เราก็แก้ด้วย พ.ร.บ. เรื่องใดง่ายเราจะเร่งทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ อย่างที่ใช้คำว่า Quick big win ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเร่งจะทำโดยเร็วเพื่อขับเคลื่อน
นายโสภณ กล่าวว่า รัฐบาลมีเวลาที่จำกัดในการบริหารประเทศ แต่ในขณะเดียวกัน เวลาไม่เป็นอุปสรรคในการทำงาน เรื่องไหนที่เป็นประโยชน์กับประเทศจะหาทางทำให้เร็วที่สุด และเกิดประโยชน์แก่ประชาชน ส่วนเรื่องใดที่ต้องรอเวลา รัฐบาลจะได้วางมาตรการและวางมาตรฐานไว้ในอนาคตเพื่อให้รัฐบาลอื่นหรือหากรัฐบาลนี้เข้ามา ดังนั้นขอให้ได้เข้าใจว่าระเบียบใดที่สามารถแก้ได้เราจะแก้เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ
นายโสภณ กล่าวอีกว่า เรื่องกฎหมายที่ไม่สามารถบังคับใช้ได้ ซึ่งเป็นจุดอ่อนของประเทศนี้เหมือนกัน คือมีกฎหมายแล้วไม่อยู่บนโลกของความเป็นจริง การปฏิบัติในการดำรงชีวิตของประชาชนไม่ได้ และนำไปสู่การปฏิบัติที่ยาก จึงกลายเป็นเครื่องมือของเจ้าหน้าที่ หรือคนที่เกี่ยวข้องในการรักษากฎหมาย หาผลประโยชน์ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้เราตระหนักและให้ความสำคัญว่ากฎหมายต้องชัดเจนและปฏิบัติได้จริง
นายโสภณ กล่าวภายหลังการประชุมว่า หลายคนเป็นห่วงเรื่องเทศกาลท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ และสงกรานต์ หากเราบังคับใช้กฎหมายจะเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวไม่มาเที่ยวประเทศไทย หรือไม่มีการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ จึงให้นโยบายว่าในช่วงเวลาที่ห้ามจำหน่ายสุรา 14.00 – 17.00 น. ที่ในอดีตที่ห้ามเพราะไม่อยากให้ข้าราชการไปดื่มสุรา จึงได้กำหนดออกมาว่าห้ามดื่ม ตนจึงบอกไปว่าตอนนี้มันหมดยุคแล้ว ยุคนี้ข้าราชการไม่มีไปดื่มสุราในช่วงบ่าย ฉะนั้น ควรจะยกเลิก
ส่วนเรื่องขยายเวลาทางภาคท่องเที่ยวอยากให้ยาวไปถึงเวลา 04.00 น. นายโสภณ กล่าวว่า ส่วนทางกระทรวงสาธารณสุขและแพทย์ระบุว่า ไม่ได้ เพราะถ้าไปดูสถิติของการเกิดอุบัติเหตุช่วงเวลา 02.00 – 03.00 น. จะเกิดจำนวนมาก ตนได้ให้คณะกรรมการฯไปคุยกัน
นายโสภณ กล่าวถึงส่วนเรื่องของสถานประกอบการนั้น ความจริงมีกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยอยู่ ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่กระทรวงมหาดไทยควบคุมได้ โดยกำหนดไว้ว่าเวลาไหนดื่มได้ เวลาไหนดื่มไม่ได้
นายโสภณ กล่าวว่า ได้ให้ข้อสังเกตไปว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งมีข้อห้ามของกระทรวงสาธารณสุขที่ส่งเสริมให้งดการดื่มในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตนเห็นว่ามันส่งเสริมได้ แต่อย่าลืมเขาเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาล ฉะนั้น มาตรการใดที่นำไปสู่การปฏิบัติไม่ได้ รัฐอาจจะส่งเสริมได้ แต่ว่าต้องมีแรงจูงใจ ไม่ใช่อยู่ดีๆ มาบอกว่าไม่ให้ดื่ม มันเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้ามีแรงจูงใจถือว่าเหมาะสม อย่างเช่น ชุมชนไหนไม่มีการดื่มสุราจะต้องมีอะไรให้เขา
"สรุปคือ ขยายแน่ แต่เวลาให้รอผลการประชุมคณะกรรมการฯ ก่อน จะ 02.00 น. หรือ 04.00 น. จะมีจุดลงตัวอย่างไร ส่วนเวลา 14.00 – 17.00 น. ให้ยกเลิก ทั้งนี้ หากคณะกรรมการฯมีมติอย่างใด ไม่ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สามารถออกประกาศสำนักนายกฯได้เลย ซึ่งในประกาศดังกล่าวจะต้องรอฟังความเห็นของประชาชนภายใน 15 วันนับจากวันที่คณะกรรมการฯมีมติ และมีผลบังคับใช้เลย" นายโสภณ ระบุ
สำหรับแนวทางใดที่เป็นแนวทางกลางๆ นายโสภณ กล่าวว่า ได้บอกไปแล้วว่าให้หาจุดกึ่งกลางโดยยึดหลักวิทยาศาสตร์ อย่างเช่น เวลา 01.00 น. เพราะกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า 02.00 น. มีผู้เสียชีวิตจากเมาแล้วขับจำนวนมาก ดังนั้น ขอให้สบายใจได้ว่าขยายแน่ และส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งบรรยากาศที่เราจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้คือ ช่วงเทศกาลปีใหม่และสงกรานต์ และตนไม่เห็นด้วยที่จะต้องไปกำหนดเป้าจะต้องไม่ให้มีผู้เสียชีวิตเท่าไหร่ เพราะถ้ากำหนดเท่าไหร่มันจะไปถึงจุดนั้น ที่สำคัญคือ การบังคับใช้กฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่กำหนดโซนให้ดื่มได้ถึง 04.00 น. ยังกำหนดในพื้นที่ท่องเที่ยวหรือไม่ นายโสภณ กล่าวว่า ยังเหมือนเดิม นอกจากนี้ ตนให้นโยบายเพิ่มเติมคือ โซนนิ่งของการจำหน่ายสุรากับระยะห่างจากสถานศึกษา ตนให้ไปกำหนดชัดเจนว่าต้องเริ่มนับจากจุดไหนถึงจุดไหน จะเริ่มนับจากรั้ว หรือตัวอาคารเรียน ให้มันชัดเจน และนำไปสู่การปฏิบัติจริงๆ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา