
สำนักงาน กกต. ชี้แจง กรณี ข่าวพนักงานกกต. โยงรับเงิน ขบวนการคดีฮั้วเลือก สว. ในพื้นที่อำนาจเจริญ เผย มีคำสั่งให้ออกจากงานไว้ก่อน ระหว่างแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ-ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ยืนยัน ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ (PRESS RELEASE) เลขที่ข่าว 448/2568 ชี้แจงกรณีนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ‘ทนายอั๋น บุรีรัมย์’ ยื่นหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร้องเรียนกรณีพยานในจังหวัดอำนาจเจริญกลับคำให้การในคดีเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ปี 2567 โดยได้เปิดเผยถึงเส้นทางทางเงินขบวนการฮั้วเลือกสว. และกล่าวอ้างว่าเชื่อมโยงไปถึงเจ้าหน้าที่ กกต.รายหนึ่ง ชื่อย่อ ส. ดำรงตำแหน่งเป็นพนักงานสืบสวนและไต่สวน ประจำกกต. ได้รับเงินโอนจากเครือข่ายในพื้นที่อำนาจเจริญ โดยมีรายละเอียดคำชี้แจงดังนี้
สำนักงาน กกต. ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีข่าวอดีตพนักงานถูกกล่าวหามีความเกี่ยวข้องกับการรับโอนเงิน ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับการนำเอกสารไปยื่นต่อดีเอสไอ เพื่อให้รับเป็นคดีพิเศษ ในประเด็นที่มีการกล่าวหาว่าพนักงานของสำนักงานกกต.รายหนึ่งมีพฤติการณ์รับโอนเงินในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน พ.ศ. 2567 ที่เชื่อมโยงกับการเรียกรับผลประโยชน์เกี่ยวกับคดีฮั้ว สว. นั้น สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้
1. พฤติการณ์รับโอนเงินเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2567 ส่วนคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง คณะที่ 26 ซึ่งถูกแต่งตั้งมาปฏิบัติหน้าที่ในการเลือก สว. ตามที่ถูกอ้างถึงในข่าวได้รับการแต่งตั้งให้เริ่มปฏิบัติหน้าที่เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 จึงไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวตามที่ถูกเผยแพร่
2. เมื่อสำนักงาน กกต. ทราบเรื่องพฤติการณ์ที่พาดพิงถึงพนักงานรายดังกล่าว ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยทันที โดยมีคำสั่งให้ออกจากงานไว้ก่อน ในระหว่างการดำเนินการ เพื่อความโปร่งใสและป้องกันมิให้เกิดผลกระทบต่อกระบวนการตรวจสอบ
พร้อมทั้งได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ และแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนดำเนินการทางวินัย ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดนี้ได้เริ่มขึ้นก่อนมีการเผยแพร่ข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์แล้ว
สำนักงาน กกต. ขอยืนยันว่า ให้ความสำคัญสูงสุดต่อความโปร่งใส ความสุจริต และความถูกต้องในการปฏิบัติหน้าที่ทุกขั้นตอน และพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนต่อไป


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา