น้ำท่วมใต้ ผู้ประสบภัยพุ่ง 7.7 หมื่นราย เป็นกลุ่มเปราะบางรอช่วยเหลือกว่า 3 พันเคส

ศป.กฉ.เผยยอดผู้ประสบภัยน้ำท่วมใต้พุ่ง 7.7 หมื่นราย ยังรอช่วยเหลือ 4 หมื่น เป็นกลุ่มเปราะบาง (สีแดง) กว่า 3 พันเคส ด้านศูนย์อพยพหลักในหาดใหญ่-บ้านพรุ คนล้นเกินความจุ

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2568 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ฝายพลเรือนแถลงผลการประชุมที่มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีจากสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยได้มีการบูรณาการข้อมูลและมีข้อสั่งการสำคัญเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ที่กำลังเกิดขึ้น

นายสิริพงศ์ รายงานข้อมูลที่รวบรวมจากส่วนกลางและส่วนหลัง รวมถึงสถานการณ์น้ำและการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ว่า ข้อมูลผู้ประสบภัยที่รวบรวมจากการร้องขอผ่านเพจ Traffy Fondue, เพจ Hat Yai Flood, และจิตอาสา ยอดรวมทั้งสิ้นประมาณ 40,000 เคส เป็นจำนวนประชาชนทั้งสิ้นประมาณ 77,000 คน ในจำนวนนี้แบ่งเป็นผู้สูงอายุ 2,000 คน และเด็กเล็กประมาณ 1,000 คน

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ข้อมูลดังกล่าวที่ถอดออกมาโดย AI ยังมีความไม่ครบถ้วนเพียงพอ เนื่องจากลักษณะการใช้ชื่อหรือการให้ข้อมูลที่แตกต่างกันในตอนที่ลงทะเบียน อย่างไรก็ตาม ทีมงานกำลังพยายามใส่อัลกอริทึมใหม่ๆ เข้าไปเพื่อให้ได้ข้อมูลมาเยอะที่สุด และข้อมูลที่ได้นี้จะถูกส่งให้ทางส่วนหน้าทุก 1 ชั่วโมง

นายสิริพงศ์ กล่าวถึงการแบ่งระดับความเร่งด่วน ว่า เคสที่มีความเร่งด่วนสูง (สีแดง) ซึ่งรวมถึงผู้สูงอายุและเด็กเล็ก น่าจะอยู่ที่ประมาณ 3,000 กว่าเคส จากตัวเลขทั้งหมด

ทั้งนี้ การแบ่งเคสช่วยให้สามารถระบุความต้องการเฉพาะเจาะจงได้ เช่น ต้องการอาหาร หรือต้องการยา เพื่อให้สามารถจัดส่งสิ่งของตามวัตถุประสงค์ได้ หากเป็นเคสสีแดงจะต้องดำเนินการ อพยพทั้งหมด ส่วนสีเหลืองและสีเขียวก็ต้องทยอยออก สำหรับผลการดำเนินการโดยส่วนหน้าจะมีการรวมผลกันทุกเวลา 19.00 น และจะมีการรายงานให้ทราบในวันถัดไป

นายสิริพงศ์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำ ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน เวลา 15.00 น. โดย 5 อันดับปริมาณน้ำฝน 24 ชั่วโมงสูงสุด ได้แก่ 1) อำเภอนาหม่อม 208 มม. 2) อำเภอสิงหนคร 159 มม. 3) อำเภอจะนะ 151 มม. 4) อำเภอเทพา 148 มม. และ 5) อำเภอสะบ้าย้อย 119 มม.

สำหรับการคาดการณ์แนวโน้มปริมาณน้ำ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า สทนช. เปิดเผยว่าปริมาณน้ำมีแนวโน้มลดลงใน 3 จุดสำคัญ ได้แก่

1. คลองอู่ตะเภา อำเภอสะเดา ปริมาณน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.33 เมตร (33 ซม.) และคาดการณ์ว่าจะต่ำกว่าตลิ่งในคืนนี้ ระหว่างเวลา 200.0 น. ถึง 22.00 น.

2. คลองอู่ตะเภา อำเภอหาดใหญ่ ปริมาณน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.99 เมตร (99 ซม.) และคาดการณ์ว่าจะต่ำกว่าตลิ่งในคืนนี้ ระหว่างเวลาเที่ยงคืน ถึง ตี 2

3. คลองหวะ อำเภอหาดใหญ่ ปริมาณน้ำสูงกว่าตลิ่ง 143 เมตร และคาดการณ์ว่าจะต่ำกว่าตลิ่งในวันที่ 27 พฤศจิกายน ระหว่างเวลา 15.00 น ถึง 17.00 น.

"รัฐบาลกำลังเร่งนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้เร็วยิ่งขึ้น แทนการควานหาหรือลาดตระเวนตามธรรมชาติ โดยมีการนำ โดรนส่งอาหาร เข้ามาช่วยแล้ว นอกจากนี้ ทาง Starlink ได้ติดต่อมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการสื่อสารช่วยเหลือในกรณีนี้ด้วย" นายสิริพงศ์ ระบุ

สำหรับกำลังพลสนับสนุน นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ตามคำสั่งการเพิ่มเติมของท่านนายกรัฐมนตรี จะมีการนำกำลังพลของ อส. (อาสารักษาดินแดน) ดำเนินการเดินทางเข้าไปสมทบ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพิ่มเติมตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็น ต้นไป นอกจากนี้ อากาศยาน C-130 ของกองทัพอากาศ จะจัดเที่ยวบินเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในวันพรุ่งนี้ 3 เที่ยว คือ เวลา 08.00 น. 09.00 น. และ 11.00 น.

ด้าน พล.ท.วันชนะ สวัสดี ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ฝ่ายทหาร ได้รายงานสถานการณ์ความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดกำลังพล การแบ่งเขตความรับผิดชอบ ว่า การแบ่งพื้นที่ในการลงช่วยเหลือที่หาดใหญ่ โดยได้แบ่งออกเป็น 4 เขตพื้นที่ ดังนี้ เขตที่ 1 รับผิดชอบโดยกองบัญชาการกองทัพไทย เขตที่ 2 รับผิดชอบโดยกองพันที่ 1 กรมทหารราบที่ 5 เขตที่ 3 รับผิดชอบโดยกองพันที่ 5 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 และเขตที่ 4 รับผิดชอบโดยกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 42

"โดยสรุปแล้ว 4 เขตนี้ กองบัญชาการกองทัพไทยรับผิดชอบ 1 เขต และกองทัพบกรับผิดชอบ 3 เขต ส่วนหน่วยงานอื่น ๆ ได้แก่ กองทัพเรือ, กองทัพอากาศ, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, และ ปภ. จะช่วยในส่วนรวม โดยจะมีการแบ่งพื้นที่ให้ไปช่วยตรงไหนเป็นพิเศษ หรือเป็นเฉพาะกิจ" พล.ท.วันชนะ ระบุ

พล.ท.วันชนะ กล่าวถึงสถานการณ์ศูนย์อพยพว่า ปัจจุบันมีศูนย์อพยพรวมกันทั้งหมด 9 ศูนย์ ได้แก่ ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สำนักงานเทศบาลเมืองบ้านพรุ, วัดเทพชุมนุม, โรงเรียนเทศบาลเมืองบ้านพรุ, วัดชินวงศ์ประดิษฐ์, วัดภูผาเบิก, บริษัท หาดทิพย์, และที่ศูนย์บริการและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ 3

พล.ท.วันชนะ กล่าวถึงสถานการณ์ของศูนย์อพยพหลักที่กำลังประสบปัญหาเกินความจุ ว่า ศูนย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รับได้ 3,000 คน แต่มีผู้เข้าอยู่แล้ว 5,000 คน ซึ่งถือว่าเกินแล้ว ศูนย์สำนักงานเทศบาลเมืองบ้านพรุ รับได้ 100 คน แต่ปัจจุบันมีผู้มาอยู่แล้ว 600 คน ศูนย์วัดเทพชุมนุม รับได้ 600 คน แต่ปัจจุบันมีผู้มาอยู่แล้ว 1,500 คน ซึ่งถือว่าอยู่เกินความจุ

สำหรับศูนย์ที่เหลือตั้งแต่วัดชินวงศ์ลงไป ยังถือว่ารับได้ ส่วนศูนย์ที่วัดภูผาเบิก และบริษัท หาดทิพย์ สามารถรับได้จำนวนไม่จำกัด