
'เกรียงไกร พานดอกไม้' รองเลขาธิการ กกต. ไฟเขียว 'นักการเมือง' ติดสติ๊กเกอร์สิ่งของบริจาคน้ำท่วม ชี้ พรรคการเมืองบริจาคครั้งละไม่เกิน 3 ล้าน - สส.ไม่เกินครั้งละ 3 แสน 'ไม่จำกัดจำนวนครั้ง' เผย ชง 'กกต.' ออก ร่างประกาศกำหนดหลักเกณฑ์-วิธีตรวจสอบ 'นโยบายประชานิยม'
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 1 ธันวาคม 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเกรียงไกร พานดอกไม้ รองเลขาธิการ กกต. บรรยาย ประเด็น การดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง ว่า การให้ตามปกติประเพณี หรือมีเหตุอันสมควร ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยจำนวน หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของการให้ตามประเพณี หรือ เมื่อมีเหตุอันสมควร และการยื่นคัดค้านเกี่ยวกับการบันทึกค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง สส. ครั้งต่อไป พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนี้
1. การให้ในแต่ละโอกาสตามประเพณี พรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง สมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งเป็น สส. หรือ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่เกิน 3,000 บาท
2. เมื่อมีเหตุอันสมควรแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ
-
กรณีผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง สมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งเป็น สส. หรือ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่เกิน 3 แสนบาท
-
กรณีพรรคการเมือง ไม่เกิน 3 ล้านบาท
“กรณีที่เป็น สส.เขต ไม่เกินโอกาสละ 3 แสนบาท กกต. ไม่ได้ปิดกั้น ไม่ได้ห้าม น้ำท่วมเนี่ย บริจาคได้เต็มที่ ภายใต้วงเงินในแต่ละโอกาส เพราะถือว่าเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ท่านไหนมีศักยภาพเท่าไหร่ก็ไปดูแลประชาชน สส.ก็ดูแลประชาชนในพื้นที่ตัวเอง สามารถดำเนินการได้ เวลาไปบริจาคเป็นข้าวสาร เป็นอะไร โฆษณาว่า เป็น สส.เขตพื้นที่นั้นนะ เป็นพรรคการเมืองนี้นะ จะโฆษณา จะอะไรก็ได้ จะติดสติ๊กเกอร์ ติดอะไรที่ของได้เต็มที่”นายเกรียงไกรกล่าว
“สมมุติน้ำท่วม 1 เดือน จะบริจาคกี่ครั้งก็ได้ แต่พรรคการเมืองบริจาคครั้งละไม่เกิน 3 ล้านบาท สส.ไม่เกินครั้งละ 3 แสนบาท”นายเกรียงไกรกล่าว
นายเกรียงไกรกล่าวว่า ขณะที่นักการเมืองท้องถิ่นถ้าอยู่ในห้วงเวลา 180 วันก่อนวันครบวาระ จะบริจาค สุ่มเสี่ยงมาก แต่ถ้าเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้ แต่ต้องระมัดระวัง เวลาบริจาคต้องไม่จูงใจให้เข้าใจว่าเป็นนักการเมืองท้องถิ่นคนนี้ อาจจะนำไปสู่การร้องเรียนได้
นายเกรียงไกรกล่าวว่า กรณีมีเหตุภัยพิบัติ พรรคการเมืองและ สส. สามารถบริจาคเกิน 3 ล้านบาทได้ แต่ในส่วนที่เกินต้องเอาไปคิดเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการหาเสียงเลือกตั้งมากเกินไป

@ เกรียงไกร พานดอกไม้ @
@ เล็ง ออกประกาศ เข้ม ‘นโยบายประชานิยม’
นายเกรียงไกรกล่าวว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 57 การกำหนดนโบบายของพรรคการเมืองให้คำนึงถึงความเห็นของสาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด นโยบายใดที่ต้องใช้จ่ายเงิน การประกาศโฆษณานโยบายนั้น อย่างน้อยต้องมีรายการ ดังต่อไปนี้
1. วงเงินที่ต้องใช้และที่มาของเงินที่จะใช้ในการดำเนินการ
2. ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดำเนินโยบาย
3. ผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโยบาย
“ขณะนี้กกต.อยู่ระหว่าง ยกร่างประกาศ กกต. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบนโยบายของพรรคการเมืองที่ใช้ในการประกาศโฆษณา ซึ่งเป็นนโยบายที่ต้องใช้จ่ายเงิน พ.ศ. .... ซึ่งจะเข้าที่ประชุม คณะกรรมการ กกต.เร็วๆ นี้ เพื่อพิจารณาและลงมติว่าจะเห็นชอบร่างประกาศฯ หรือไม่”นายเกรียงไกรกล่าว
@ ค่าใช้จ่ายหาเสียงของพรรคการเมือง-สส.
นายเกรียงไกรกล่าวว่า สำหรับค่าใช้จ่ายของผู้สมัครรับเลือกคั้งเป็น สส.และพรรคการเมืองในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพื่อให้การใช้จ่ายในการเลือกตั้ง สส. เป็นไปตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบประกาศ กกต. เรื่อง กำหนดจำนวนเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกสส.พ.ศ. 2566 การคำนวณค่าใช้จ่ายของผู้สมัคร หรือ พรรคการเมือง สำหรับการเลือกตั้งแต่ละครั้งให้คำนวณตามค่าใช้จ่ายที่ใช้จ่ายจริงในการเลือกตั้งในระหว่างระยะเวลา ดังต่อไปนี้
1. การครบอายุของสภาผู้แทนราษฎร (ครบวาระ)
-
คำนวณค่าใช้จ่ายที่ใช้จ่ายไปตั้งแต่ 180 วัน ก่อนวันที่ กกต. ประกาศให้มีการเลือกตั้งจนถึงวันเลือกตั้ง แบ่งออกเป็น 1. สส.แบบแบ่งเขต ไม่เกิน 7 ล้านบาท และ 2. พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) ไม่เกิน 163 ล้านบาท
2. การยุบสภา หรือ การเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง (เลือกตั้งซ่อมสส.)
-
คำนวณค่าใช้จ่ายที่ใช้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ยุบสภา หรือ วันที่ตำแหน่งว่างลง แล้วแต่กรณี จนถึงวันเลือกตั้ง แบ่งออกเป็น 1. สส.เขต ไม่เกิน 1.9 ล้านบาท และ 2. พรรคการเมือง-สส.ปาร์ตี้ลิสต์ ไม่เกิน 44 ล้านบาท

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา