'อิศรา' อัพเดตความเคลื่อนไหวสถานการณ์โรคโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุด ยอดติดเชื้อ 32.4 ล.-'ฟาวซี่'เตือน พบหลักฐานไวรัสแพร่เชื้ออยู่ในอากาศได้นานขึ้น-ด้าน'สภาบันโรคติดต่อสหรัฐ'ชี้ผลวิจัยไวรัสส่อกลายพันธ์แม้มีวัคซีนส่งผลอาจต้องพัฒนาวัคซีนทุกปี-'อังกฤษ'เล็งทดลองวัคซีนขั้นท้าทาย ฉีดไวรัสเข้าอาสาสมัครทดลองวัคซีน-'ญี่ปุ่น' หวั่น โควิดระบาดหลังตัวเลขการติดเชื้อแบบทวีคูณเกือบเป็น 1-ล่าสุด 'พม่า' ติดเชื้อทะลุพันราย
-----------------
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัสหรือ โรคโควิด-19 ล่าสุด เว็บไซต์ World Meter ได้รายงานจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อว่า มีจำนวนทั้งสิ้น32,401,660 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 314,792ราย เสียชีวิต 987,156ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่5,872 ราย
สำหรับสถานการณ์ใน ทวีปอเมริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดในโลก จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดอยู่ที่ 7,185,448 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 45,332 ราย เสียชีวิต 207,538 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 942 ราย
โดยรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดในสหรัฐฯ คือ รัฐเท็กซัส มีผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งสิ้น 4,435 ราย
ขณะที่ทางด้านของ นพ.แอนโทนี่ ฟาวซี่ ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดเชื้อและโรคภูมิแพ้ของสหรัฐฯ หนึ่งในคณะทำงานพิเศษเพื่อต่อต้านโรคระบาดของทำเนียบขาวได้ออกมาให้เปิดเผยว่า ณ เวลานี้มีหลักฐานอันเชื่อได้ว่าไวรัสโควิด 19 กำลังแพร่เชื้อผ่านละอองของเหลวจากร่างกายมนุษย์ ซึ่งหมายความว่าไวรัสโควิด 19 จะไม่ตกลงสู่พื้นเมื่อออกจากร่างกายของผู้ติดเชื้อ แต่จะล่องลอยอยู่ในอากาศชั่วระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้น การใส่หน้ากากเมื่ออยู่ในระยะ 6 ฟุตจากผู้อื่นจังเป็นการดีที่สุด โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ในสภาวะที่ไม่มีอากาศถ่ายเท
นอกจากนี้ ยังมีรายงานจากนายเดวิด โมเรนส์ นักวิจัยจากสถาบันโรคติดเชื้อและโรคภูมิแพ้ของสหรัฐฯ ที่ระบุถึงผลการศึกษาลำดับทางพันธุกรรมของไวรัสจำนวน 5,000 ลำดับด้วยกัน พบว่าไวรัสมีการกลายพันธ์เพื่อที่จะแพร่เชื้อในหมู่ประชากร ซึ่งการศึกษาไม่พบว่าไวรัสมีความรุนแรงหรือมีผลกระทบร้ายแรงขึ้นแต่อย่างใด ดังนั้น การเว้นระยะห่างทางสังคมจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด
นายเดวิด โมเรนส์ กล่าวต่อไปด้วยว่า การศึกษานี้หมายความว่าไวรัสนั้นจะมีการกลายพันธ์ต่อไปเรื่อยๆ แม้หลังจากที่วัคซีนได้มีการใช้งานแล้ว ดังนั้นหมายความว่าจะต้องมีการปรับปรุงวัคซีนอยู่ตลอด เช่นเดียวกับกรณีวัคซีนของโรคไข้หวัดที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทุกปี
ทวีปอเมริกาใต้บราซิล มียอดผู้ติดเชื้อสะสมอันดับ 1 ของทวีป จำนวนผู้ติดเชื้อมีทั้งสิ้น 4,659,909ราย ติดเชื้อใหม่ 32,129 ราย เสียชีวิต 139,883ราย เสียชีวิตใหม่ 818 ราย
ทวีปยุโรป ประเทศรัสเซีย มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 1,128,836 ราย ติดเชื้อใหม่6,595 ราย เสียชีวิต 19,948ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 149 ราย
ส่วนที่ ประเทศฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อใหม่ 16,096 ราย ประเทศสเปนมีผู้ติดเชื้อ 10,653 ราย ขณะที่ประเทศอิตาลีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,786 ราย และล่าสุดมีรายงานจากสโมสรฟุตบอล เอซี มิลาน ประกาศยืนยันว่า นายซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าประสบการณ์สูงชาวสวีดิช มีผลตรวจเชื้อไวรัส โควิด-19
นายซลาตัน อิบราฮิโมวิช (อ้างอิงรูปภาพจาก https://sempremilan.com/official-ac-milan-confirm-that-zlatan-ibrahimovic-has-tested-positive-for-covid-19)
ที่ประเทศอังกฤษมีผู้ติดเชื้อใหม่ 6,634 ราย และล่าสุดมีรายงานจากที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษระบุว่า ณ เวลานี้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ในประเทศอังกฤษกำลังพิจารณาการดำเนินการทดลองวัคซีนขั้นท้าทาย (Challenge Trials ) ซึ่งจะเป็นการฉีดไวรัสเข้าสู่ตัวอาสาสมัครทดลองวัคซีนซึ่งมีสุขภาพแข็งแรง เพื่อจะพิสูจน์ว่าวัคซีนที่กำลังพัฒนานั้นจะได้ผลในการสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัสหรือไม่ โดยการทดลองจะเริ่มในกรุงศูนย์ทดลองที่กรุงลอนดอนในช่วงเดือน ม.ค.2564 กับอาสาสมัครลงทะเบียนไว้แล้วจำนวน 2,000 ราย
โดยมีรายงานว่าวิทยาลัยอิมพีเรียลคอลเลจลอนดอนเป็นผู้นำในโครงการทดลองวัคซีนดังกล่าวนี้ และมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่ามหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดเองก็กำลังพิจารณาการทดลองวัคซีนขั้นท้าทายเช่นกัน
ส่วนที่ประเทศเยอรมนีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 2,140 ราย
สำหรับสถานการณ์ทวีปเอเชีย อินเดียยังคงมีผู้ติดเชื้อเป็นอันดับ 1 ของทวีป มีผู้ติดเชื้อสะสม 5,816,103ราย ติดเชื้อใหม่ 85,919 ราย เสียชีวิตสะสม 92,317 ราย เสียชีวิตใหม่ 1,144 ราย จึงทำให้ ณ เวลานี้อินเดียกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายวันและผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก
ที่ประเทศญี่ปุ่น มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 474 ราย เสียชีวิตใหม่ 10 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด 195 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงโตเกียว ขณะที่ประเทศเกาหลีใต้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่จำนวน 110 ราย นอกจากนี้ยังมีรายงานจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพญี่ปุ่นว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศญี่ปุ่นอาจจะพุ่งสูงขึ้นได้เนื่องจากพบว่ามี R Number คือ ตัวเลขที่บ่งบอกถึง การแพร่ระบาดของเชื้อแบบทวีคูณมีจำนวนเกือบเท่ากับ 1
สำหรับสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ประเทศฟิลิปปินส์ มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด 296,755 ราย ติดเชื้อใหม่ 2,180ราย เสียชีวิตสะสม 5,127ราย เสียชีวิตใหม่ 36 ราย
ที่อินโดนีเซีย มีผู้ติดเชื้อสะสม 262,022 ราย ติดเชื้อใหม่ 4,634 รายมีผู้ติดเสียชีวิตสะสมสูงสุด 10,105ราย เสียชีวิตใหม่ 128 ราย
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของไทย ประเทศมาเลเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 71 ราย ขณะที่พม่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,052 ราย เสียชีวิตใหม่ 20 ราย
ทวีปแอฟริกาประเทศแอฟริกาใต้ ยังเป็นประเทศที่ติดเชื้ออันดับ 1 ในทวีป มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น667,049 ราย ติดเชื้อใหม่ 1,861 ราย เสียชีวิต 16,283 ราย เสียชีวิตใหม่ 77 ราย และล่าสุดมีรายงานจากองค์การอนามัยโลก ที่ระบุว่าจำนวนผู้ป่วยโควิด 19 ในทวีปแอฟริกาอย่างน้อย 80 เปอร์เซ็นต์ อาจเป็นการป่วยแบบไม่แสดงอาการ
ส่วนความเคลื่อนไหวใน ภูมิภาคโอเชียเนีย ประเทศออสเตรเลีย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 17 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยรัฐวิกตอเรียมีผู้ติดเชื้อใหม่อีก 12 ราย รัฐนิวเซาท์เวลส์มีผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย
ประเทศนิวซีแลนด์มีผู้ติดเชื้อใหม่ 3 ราย ประเทศปาปัวนิวกินีมีผู้ติดเชื้อใหม่ 4 ราย และหมู่เกาะเฟรนซ์ โพลินีเซีย มีผู้ติดเชื้อใหม่ 75 ราย เสียชีวิตใหม่ 3 ราย
เรียบเรียงจาก:https://www.aljazeera.com/topics/events/coronavirus-outbreak.html,https://www.worldometers.info/coronavirus/,https://www.theguardian.com/world/coronavirus-outbreak
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage