
มูลนิธิดวงใจใหม่ เผยรูปแบบการเพิ่มประสิทธิภาพช่วยผู้ป่วยโรคหัวใจผู้รอคิวผ่าตัด
..............................
แพทย์หญิงปีนัชนี ชาติบุรุษ ศัลยแพทย์โรคหัวใจ ในฐานะประธานทีมงานมูลนิธิดวงใจใหม่ ผู้อุทิศความรู้ความสามารถช่วยคนไข้โรคหัวใจ ได้เปิดเผยว่า อย่างที่ทราบกันว่าปัญหาของคนไข้ส่วนใหญ่มีข้อจำกัดด้านกำลังทรัพย์ บางรายไม่มีญาติและไม่มีเพื่อน เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลราชวิถีซึ่งเป็นโรงพยาบาลมวลชนรักษาได้ทุกโรคจนถึงที่สุด และยังเป็นโรงพยาบาลที่รับเทรนแพทย์ประจำบ้านจากมหาวิทยาลัยในทุกสาขา หนึ่งในนั้นคือภาควิชาศัลยกรรมหัวใจ มีทีมแพทย์ผ่าตัดหัวใจในภาควิชาทั้งหมด 7 คน ในแต่ละปีมีศักยภาพในการทำผ่าตัดได้ 600 -700 คนต่อปี เช่นเดียวกับตัวเลขผู้รับการผ่าตัดโรงพยาบาลของรัฐขนาดใหญ่ ผู้ป่วยโรคหัวใจที่รับการผ่าตัดจากโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศมีขีดความสามารถ 100 จนถึง 1,000 เคส ปัจจุบันก่อนสถานการณ์โควิดระบาด โรงพยาบาลราชวิถีทำการผ่าตัดโรคหัวใจจำนวน 680 เคส นอกเหนือจากคนไข้ของโรงพยาบาล รวมถึงคนไข้เด็กที่ส่งมาจากโรงพยาบาลเด็กที่รับผิดชอบโดยตรง ทีมแพทย์ยังต้องผ่าตัดคนไข้เคสยากๆจากโรงพยาบาลต่างจังหวัดที่อยู่ในการดูแลของราชวิถีอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ทีมแพทย์ศัลยกรรมหัวใจและทีมพยาบาลมีความเชี่ยวชาญและมีความชำนาญมาก จะมี “ข้อจำกัด และข้อที่เหลือเฟือ” ข้อจำกัดในเวลาคือ ทีมงานแพทย์สามารถทำงานได้ ประมาณ 680 เคสต่อปีมี อย่างไรก็ตาม ในทุกปีจะมีคนไข้ที่ต้องรออยู่ในคิวประมาณ 300 คน ซึ่งต้องใช้เวลารอนาน 6 – 8 เดือน อาจจะเพิ่มกว่านั้น
แพทย์หญิงปีนัชนีกล่าวว่า “ มูลนิธิดวงใจใหม่ตั้งขึ้นมาเพื่อ ย่นเวลาการรอคิวของผู้ป่วยโรคหัวใจ ได้มองเห็น “ข้อเหลือเฟือ”จากการทำงาน วิธีการคือเจ้าหน้าที่ในทีมงานที่มีเวลาพัก ก็ไม่ต้องพักเอาเวลาพักมาเป็นเวลาทำงาน เตียงและอุปกรณ์ที่ว่างไม่สมควรว่าง ต้องทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ไปพร้อมกันเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์”
“ในการจัดสรรเรื่องเวลา ทีมแพทย์ผ่าตัดและทีมพยาบาล ต้องยินดีในการทำงานนอกเวลาอย่างเต็มใจ โดยมีผลตอบแทนค่าล่วงเวลาที่มูลนิธิฯจ่ายให้ ในการบริหารเครื่องมืออุปกรณ์การผ่าตัดหัวใจ ควรได้รับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอุปกรณ์ของโรงพยาบาล มีความทันสมัยทัดเทียมระดับอุปกรณ์ผ่าตัดระบบไฮบริดจ์ของโรงพยาบาลเม้าท์ ไซนาย ในมหานครนิวยอร์ก สามารถใช้ช่วยผู้ป่วยได้เต็มศักยภาพ และยังว่างในเวลากลางคืนเพื่อใช้งานต่อให้แก่คนไข้รอคิว สำคัญคือเตียงห้องไอซียูที่ทางโรงพยาบาลสำรองไว้เสมอควรได้รับการแบ่งใช้งานหลังผ่าตัด ก่อนที่คนไข้ฟื้นตัวและถูกส่งพักฟื้นต่อไป กลยุทธ์สำคัญสองประการนี้ จึงถูกนำมาใช้เป็นแนวคิดในการช่วยผู้ป่วยรอคิวของโรงพยาบาล”
ทางมูลนิธิฯได้ดำเนินการต่อเนื่อง ด้วยการหาทีมงานแพทย์และห้องผ่าตัดที่ว่าง นอกเวลาราชการตามแนวคิดดังกล่าว จากโรงพยาบาลทั่วประเทศที่มีกำลัง เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยรอคิวอีกจำนวนมากได้รับการผ่าตัดให้เร็วขึ้น พร้อมกับกิจกรรมต่อเนื่องของมูลนิธิฯ ในการหาทุนเพื่อให้มูลนิธิฯมีค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดต่อไป
แพทย์หญิงปีนัชนี ฝากบอกว่า การทำงานของมูลนิธิฯได้ก้าวหน้า มีความพอใจในระดับหนึ่ง ทางมูลนิธิฯยังต้องการจิตอาสา ทำงานด้านการประสานงานพูดคุยกับผู้ป่วย สร้างความรับรู้ความเข้าใจในเรื่องการรักษาโรคหัวใจ ระงับความตื่นกลัวของผู้ป่วย ซึ่งทางมูลนิธิฯ ยังต้องการจิตอาสาด้านนี้อีกจำนวนมาก
สำหรับผู้สนใจเพื่อบริจาค
SCB เลขที่บัญชี 0512654507หรือเข้าร่วมสมัครเป็นจิตอาสา สามารถสอบถามได้ที่ https://web.facebook.com/2259831407466928/posts/4087406768042707/?_rdc=1&_rdr


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา