"...จ๋าเลยทําหลักฐานใบสําคัญการลงบัญชี รายจ่าย โดยแนบสําเนาใบนําฝากธนาคาร ซึ่งบางรายการไม่มีเงินฝากเข้าธนาคารอันเป็นเท็จ จําเลยปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบไม่นําเงินประกันตัวตามที่ได้รับมาแต่ละวัน เข้าฝากธนาคารทั้งหมดบ้างบางส่วนบ้าง โดยเบียดบังเอาเงินส่วนต่างดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ส่วนตนหรือบุคคลที่ 3 โดยทุจริตก่อให้เกิดความเสียหายแก่สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว..."
ถูกลงโทษจำคุกรวม 554 ปี แต่ติดจริง 50 ปี คืนเงิน 890,000 บาท แก่สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว
คือ บทสรุปคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ที่ตัดสินคดีกล่าวหา นางวณิฎา หรือนางสาวเกษเกสร ศิริโฉม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานธุรการ 6 สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
ที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบไปแล้ว
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา สืบค้นข้อมูลคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ที่ตัดสินคดีนี้ พบว่ามีการระบุรายละเอียดพฤติการณ์การกระทำความผิด ของ นางวณิฎา หรือนางสาวเกษเกสร ศิริโฉม ไว้ดังนี้
****************
@ คำฟ้องโจทก์
โจทก์ (อัยการสูงสุด โดยพนังานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 2 ฟ้องแทน ป.ป.ช.) ว่า ขณะ นางวณิฎา หรือนางสาวเกษเกสร ศิริโฉม จําเลย ดํารงตําแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานธุรการ 6 สํานักงานคุมความประพฤติจังหวัดสระแก้วคุมประพฤติได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่การเงินและบัญชีมีอํานาจหน้าที่บริหารงานธุรการการเงินและงานบุคคล
เบื้องต้น จําเลยปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว หลายกรรมต่างกัน
กล่าวคือ จําเลยรับเงินประกันตัวผู้รับการตรวจพิสูจน์และผู้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดจากนายประกัน เพื่อนําเข้าฝากบัญชีเงินกลางประกันตัวสํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว
@ เบียดบังเงินประกันตัว
จ๋าเลยทําหลักฐานใบสําคัญการลงบัญชี รายจ่าย โดยแนบสําเนาใบนําฝากธนาคาร ซึ่งบางรายการไม่มีเงินฝากเข้าธนาคารอันเป็นเท็จ จําเลยปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบไม่นําเงินประกันตัวตามที่ได้รับมาแต่ละวัน เข้าฝากธนาคารทั้งหมดบ้างบางส่วนบ้าง โดยเบียดบังเอาเงินส่วนต่างดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ส่วนตนหรือบุคคลที่ 3 โดยทุจริตก่อให้เกิดความเสียหายแก่สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว
รายละเอียดตามวันเวลาและจํานวนเงินที่จําเลยเบียดบังไปดังนี้
1. ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2540 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 30 เมษายน 2540 เวลากลางวันต่อเนื่องกันเป็นจํานวนเงิน 10,000 บาท
2. ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2540 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2546 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 5,000 บาท
3. ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2540 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2546 เวลากลางวันต่อเนื่องกันเป็นจํานวนเงิน 5,000 บาท
4. ระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2540 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 30 กันยายน 2546 กันยายน เวลากลางวันต่อเนื่องกันเป็นจํานวนเงิน 5,000 บาท
5. ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2540 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2540 เวลากลางวันต่อเนื่องกันเป็นจํานวนเงิน 15,000 บาท
6. ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2540 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2540 เวลาต่อเนื่องกันเป็นจํานวนเงิน 45,000 บาท
7. ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2547 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 มกราคม 2547 เวลากลางวันต่อเนื่องกันเป็นจํานวนเงิน 5,000 บาท
8. ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2547 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 30 เมษายน 2547 เวลากลางวันต่อเนื่องกันเป็นจํานวนเงิน 10,000 บาท
9. ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2547 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2547 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 10,000 บาท
10. ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2547 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2547 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 5,000 บาท
11. ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2547 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2547 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 20,000 บาท
12. ระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2547 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 30 กันยายน 2547 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 30,000 บาท
13. ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2547 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2547 เวลากลางวันต่อเนื่องกันเป็นจํานวนเงิน 20,000 บาท
14. ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2547 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2547 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 10,000 บาท
15. ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2548 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 มกราคม 2548 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 30,000 บาท
10. ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2548 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2548 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 10,000 บาท
17. ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2548 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 30 เมษายน 2548 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 10,000 บาท
18. ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2548 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2548 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 10,000 บาท
19. ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2548 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2548 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 30,000 บาท
20. ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2548 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2548 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 20,000 บาท
21. ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2548 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2548 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 20,000 บาท
22. ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2548 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2548 เวลากลางวันต่อเนื่องกันเป็นจํานวนเงิน 20,000 บาท
23. ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2548 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2548 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 70,000 บาท
24. ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2549 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 มกราคม 2549 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 10,000 บาท
25. ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2549 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 10,000 บาท
20. ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2549 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2549 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 10,000 บาท
27. ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2549 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2549 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 10,000 บาท
28. ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2549 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2549 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 30,000 บาท
29. ระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2549 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 30 กันยายน 2549 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 40,000 บาท
30. ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2550 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 มกราคม 2550 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 10,000 บาท
31. ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2550 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2550 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 30,000 บาท
32. ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2550 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 30 เมษายน 2550 เวลากลางวันต่อเนื่องกันเป็นจํานวนเงิน 50,000 บาท
33. ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2550 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2550 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 10,000 บาท
34. ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2550 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2500 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 30,000 บาท
35. ระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2550 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 30 กันยายน 2550 เวลากลางวัน ต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 50,000 บาท
30. ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2550 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2550 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 30,000 บาท
37. ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2551 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 มกราคม 2551 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 60,000 บาท
38. ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 40,000 บาท
39. ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2551 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2551 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 40,000 บาท
40. ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2551 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 30 เมษายน 2551 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน เป็นจํานวนเงิน 30,000 บาท
41. ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม 2551 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2551 เวลากลางวันต่อเนื่องกันเป็นจํานวนเงิน 30,000 บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 935,000 บาท
@ ปลอมใบสําเนาใบเสร็จรับเงินต่ำกว่า
จําเลยได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการเงินและบัญชี มีหน้าที่นําเงินประกันตัวตามที่คณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด มีคําวินิจฉัยให้ยึดส่งเข้าคลังเพื่อเป็นรายได้แผ่นดิน จําเลยได้รับเงินจากผู้รับการตรวจพิสูจน์ ผู้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดและนายประกัน
โดยเขียนต้นฉบับใบเสร็จรับเงินค่าประกันตัวถูกต้องตรงกับจํานวนเงินประกันตัว แต่เขียนปลอมใบสําเนาใบเสร็จรับเงินต่ำกว่า แล้วเบียดบังเงินส่วนต่างไปเป็นประโยชน์ของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริต
ครั้นเมื่อมีการถอนประกันจําเลยกลับเขียนเช็คสั่งจ่ายเงินจากบัญชี(เงินกลาง-เงินประกันตัว) คืนแก่นายประกันเต็มจํานวน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว ตามรายการดังนี้
42. วันที่ 1 กันยายน 2548 เวลากลางวัน เป็นจํานวนเงิน 10,000 บาท
43. วันที่ 27 ตุลาคม 2548 เวลากลางวัน เป็นจํานวนเงิน 10,000 บาท
44. วันที่ 30 มิถุนายน 2549 เวลากลางวัน เป็นจํานวนเงิน 10,000 บาท
45. วันที่ 22 พฤษภาคม 2550 เวลากลางวัน เป็นจํานวนเงิน 10,000 บาท
40. วันที่ 22 พฤษภาคม 2550 เวลากลางวัน เป็นจํานวนเงิน 10,000 บาท
47. วันที่ 7 สิงหาคม 2550 เวลากลางวันเป็นจํานวนเงิน 5,000 บาท
รวมวงเงินทั้งสิ้น 55,000 บาท
@ อ้างจัดซื้อหมึกเครื่องพิมพ์ไปใช้ส่วนตัว
วันที่ 12 มิถุนายน 2550 เวลากลางวัน จําเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทํา จัดการหรือรักษาทรัพย์ทําสัญญายืมเงินเลขที่ 5/2550 ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2550 เพื่อเป็นค่าจ้างทําป้ายประชาสัมพันธ์ ค่าวัสดุ น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นเงิน 37,700 บาท จากหัวหน้าสํานักงานยุติธรรมจังหวัดสระแก้วแล้วจําเลยรับเงินดังกล่าวไปซึ่งจําเลยต้องนําไปชําระให้แก่ร้านบีม สปร์อต ผู้จัดทํา และติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ตามที่ว่าจ้าง
แต่จําเลยกลับเบียดบังเงินดังกล่าว เป็นของตนหรือบุคคลที่สามโดยทุจริตก่อให้เกิดความเสียหายแก่สํานักงานยุติธรรมจังหวัดสระแก้ว
และเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2551 เวลากลางวันจําเลยเป็นเจ้าหน้าที่ที่บริหารงานธุรการปฏิบัติหน้าที่การเงินและบัญชี แต่ไม่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่การจัดซื้อ จัดจ้างพัสดุกลับอ้างชื่อสํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว สั่งซื้อสินค้าหมึกเครื่องพิมพ์คอมพิวเตอร์รวมเป็นเงิน 23,500 บาท จากห้างหุ้นส่วน วี เอ็น เอ็น ซัพพลาย อันเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติในพฤติการณ์อาจทําให้ผู้อื่นเชื่อว่าจําเลยมีตําแหน่งหรือหน้าที่นั้น เป็นเหตุให้ห้างหุ้นส่วน วี เอ็น เอ็น ซัพพลาย ส่งสินค้าดังกล่าวให้จําเลย โดยที่สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้วไม่ได้สั่งซื้อ แล้วจําเลยกลับเอาสินค้าดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ของตนอันเป็นการแสวงหาประโยชน์อันมิควรชอบด้วยกฎหมายก่อให้เกิดความเสียหายแก่สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว และห้างหุ้นส่วน วี เอ็น เอ็น ซัพพลาย
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2551 เวลากลางวัน จําเลยอ้างชื่อสํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว สั่งซื้อหมึกเครื่องพิมพ์คอมพิวเตอร์เป็นเงิน 50,399.90 บาท จากห้างหุ้นส่วนจํากัด วินเนอร์ อิงค์ โปรดักส์ โดยที่สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว ไม่ได้สั่งซื้อ แล้วจําเลยกลับเอาสินค้าดังกล่าวเป็นประโยชน์ของตนอันเป็นเหตุให้สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว และห้างหุ้นส่วนจํากัด วินเนอร์ อิงค์ โปรดักส์เสียหาย
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2551 เวลากลางวัน จําเลยอ้างชื่อสํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้วสั่งซื้อหมึกเครื่องพิมพ์คอมพิวเตอร์ ราคา 28,200 บาท จากห้างหุ้นส่วน วี เอ็น เอ็น ซัพพลาย โดยที่สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว ไม่ได้สั่งซื้อ แล้วจําเลยเอาสินค้าดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ของตนอันเป็นการแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้วและห้างหุ้นส่วน วี เอ็น เอ็น ซัพพลาย
และเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2552 เวลากลางวัน จําเลยอ้างชื่อสํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว สั่งซื้อหมึกเครื่องพิมพ์คอมพิวเตอร์รวมเป็นเงิน 28,200 บาท จากห้างหุ้นส่วนจํากัด เพิ่มพูน พริ้นติ้ง โดยที่สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว ไม่ได้สั่งซื้อ แล้วจําเลยนําสินค้าดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ของตนอันเป็นการแสวงหาประโยชน์มิควรประโยชน์มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้วและห้างหุ้นส่วนจํากัดเพิ่มพูน พริ้นติ้ง
นับรวมยอดเงินที่จำเลยเบียดบังจากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว ไปทั้งสิ้น 990,000 บาท แต่มีการคืนเงินให้แล้ว 100,000 บาท เหลือยอดเงินอีก 890,000 บาท
เหตุทั้งหมดเกิดที่สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว ตําบลท่าเกษม อําเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147,157, 161 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2501 มาตรา 171, 192
ให้จําเลยคืนเงิน 490,000 บาท แก่สํานักงานคุมประพฤติจังหวัดสระแก้ว กรมคุมประพฤติผู้เสียหาย
จําเลยให้การรับสารภาพ
เบื้องต้น คดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 ลงมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ดังกล่าว
ส่วน นางวณิฎา หรือนางสาวเกษเกสร ศิริโฉม จำเลย ยังไม่มีข้อมูลยืนยันเป็นทางการว่า ในการอุทธรณ์ต่อสู้คดีนี้หรือไม่ ผลการอุทธรณ์เป็นอย่างไร
แต่ไม่ว่าผลการอุทธรณ์ หรือฎีกาจะออกมาเป็นอย่างไร
กรณี นางวณิฎา หรือนางสาวเกษเกสร ศิริโฉม นับเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ ให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐ กลุ่มเจ้าหน้าที่การเงินและบัญชี ไม่ให้เดินย้ำซ้ำรอยแบบเดียวกันอีกทั้งในปัจจุบันและอนาคตสืบไป