ผู้ถือหุ้นใหญ่ 42 ล. บริษัททุนจีนหมู่บ้านหรูอ้างทนายบ.อสังหาฯให้ช่วย-ได้ค่าจ้างหมื่นเศษ

tubchina

‘อิศรา’ตามสัมภาษณ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ 42 ล้าน บริษัท ฟาง ยี่ อินเตอร์เนชั่นแนล ทุนจีนในหมู่บ้านหรู ย่านกรุงเทพกรีฑา 15 หัวหมาก เจ้าตัวแจง ทนายความ บ.อสังหาฯ ติดต่อให้ช่วย ช่วงไปทำงานตกแต่งร้านหม่าล่าย่านอาร์ซีเอ ได้ค่าจ้างหมื่นบาทเศษ สนิทกันเลยไว้ใจช่วยกัน ไม่ทราบรายละเอียด

บริษัทของกลุ่มคนจีนเกือบ 40 บริษัทซึ่งมีที่ตั้งในหมู่บ้านซอยกรุงเทพกรีฑา 15 (ประชาร่วมใจ) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร (หมู่บ้านนาราสิริและหมู่บ้านเศรษฐสิริ)

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำข้อมูลมารายงานแล้ว 16 บริษัท ได้แก่

1.บริษัท โฮลดิ้ง กู๊ด (ไทยแลนด์) จำกัด 2.บริษัท มีสุข คันทรี จำกัด 3.บริษัท ทอฝัน เรียล แอสเสท จำกัด 4. บริษัท โอเพ็น ซมูทลิ จำกัด 5. บริษัท ยิบโซฟิลา เทคโนโลยี จำกัด 6.บริษัท โวดา เทคโนโลยี 7.บริษัท นาราวี โฮลดิ้ง จำกัด 8.บริษัท เวก้า เทคนิค จำกัด 9.บริษัท เฟิร์ส เซล จำกัด 10.บริษัท มงกุฎเพชรตะวัน จำกัด 11.บริษัท สิริแสงมณี จำกัด 12.บริษัท ฮัสดาว อินเตอร์เนชั่นแนลลิตี้ จำกัด 13.บริษัท ฟาง ยี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 14.บริษัท ซิน รอง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 15.บริษัท จู เสี่ยว จำกัด และ 16.บริษัท โรยัล เบลเล่ จำกัด เบื้องต้นพบว่าบริษัทดังกล่าวจดทะเบียนจัดตั้งโดยคนไทย ต่อมาเปลี่ยนแปลงกรรมการและผู้ถือหุ้น เป็นบุคคลสัญชาติจีนในสัดส่วนประมาณ 49% : 51% และแจ้งย้ายสำนักงานที่ตั้งแห่งใหม่เป็นบ้านในหมู่บ้าน ซอยกรุงเทพกรีฑา 15 (ประชาร่วมใจ) และผู้เกี่ยวข้องมีความเชื่อมโยงกัน

ราย บริษัท ฟาง ยี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด สำนักข่าวอิศรานำข้อมูลมารายงานแล้วว่า บริษัทแห่งนี้ จดทะเบียนจัดตั้ง วันที่ 26 สิงหาคม 2565 ทุน 4 ล้านบาท ประกอบการร้านขายปลีกของใช้อื่นๆในครัวเรือน ที่ตั้งเลขที่ 168 ห้อง DS022 หมู่ที่ 5 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ นายหวัง ฟางยี่ (MR. WANG FANGYI ต่อมาแก้ไขชื่อเป็นนายฟางยี่ หวัง-MR. FANGYI WANG) อายุ 30 ปี สัญชาติวานูอาตู และ นายณัฏกฤศฐ์ เจริญพงศ์ภูธนา อายุ 50 ปี เป็นกรรมการ นายหวัง ฟางยี่ ถือหุ้นใหญ่ และ คนไทย 3 คน ร่วมถือหุ้น ต่อมาวันที่ 22 ก.ย.2565 จดทะเบียนเพิ่มทุนเป็น 70 ล้านบาท และวันที่ 3 พ.ย.2565 จดทะเบียนเปลี่ยนแปลง นายฟางยี่ หวัง เป็นกรรมการเพียงคนเดียว (นายณัฏกฤศฐ์ เจริญพงศ์ภูธนา ออก) และ ย้ายสำนักงานที่ตั้งเลขที่ 69/1 ซอยกรุงเทพกรีฑา 15(ประชาร่วมใจ) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร

นายฟางยี่ หวัง (บอจ.5 ระบุสัญชาติจีน) ถือหุ้นใหญ่ เรื่อยมา ณ วันที่ 10 ส.ค. 2567 นายฟางยี่ หวัง ถือ 280,000 หุ้น คนไทย 2 คน นายรณกร ช่วยคล้าย นายณัฎฐ์ณธรณ์ ผ่องฤกษ์ คนละ 220,000 หุ้น, 200,000 หุ้น ตามลำดับ รวมทั้งสิ้น 700,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท

ข้อมูลงบการเงิน วันที่ 16 ส.ค.2567 นำส่งงบการเงินรอบปีบัญชีสิ้นสุด 31 ก.ค.2567 งบกำไรขาดทุน ไม่มีรายได้ (ไม่มีรายได้ 2 ปีติดต่อกัน) ค่าใช้จ่าย 877,312.25 บาท ขาดทุนสุทธิ 877,312.25 บาท งบดุล สินทรัพย์รวม 68,039,963.73 บาท (ที่ดินและอาคาร 66,645,963.73 บาท) หนี้สิน 18,000 บาท ขาดทุนสะสม 1,978,036.27 บาท (เรื่องเกี่ยวข้อง: เจาะทะลวงอีก 5 บริษัทกลุ่มทุนจีนในหมู่บ้านหรู -‘คนทำบัญชี’เดียวบ.คดีเหลียน เซิง )

สำนักข่าวอิศราสุ่มตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้ถือหุ้นบางราย ในรายของนายรณกร ช่วยคล้าย เป็นผู้ถือหุ้น บริษัท ฟาง ยี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จำนวน 420,000 หุ้น มูลค่า หุ้นละ 100 บาท หรือ 42 ล้านบาท ขณะที่ นายฟางยี่ หวัง ถือ 280,000 หุ้น หรือ 28 ล้านบาท จากทุนรวม 70 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 ส.ค.2566 ก่อนที่ นายรณกร ลดสัดส่วน ถือ 220,000 หุ้น (มูลค่า 22.2 ล้านบาท) เมื่อ 10 ส.ค. 2567 (ดูตารางและเอกสาร)

Tarangggg

ในช่วงก่อนวันหยุดสงกรานต์ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราเดินทางไปยังที่อยู่ของนายรณกร ช่วยคล้าย ตามเอกสารบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นในซอยลาดพร้าว 80 แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ มีลักษณะเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น (ดูภาพประกอบ)

ttytttttt

490998924 544292985052692 4690682419485403774 n

อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ผู้สื่อข่าว ลงพื้นที่ไม่มีใครอยู่บ้าน ผู้สื่อข่าวจึงฝากนามบัตรเอาไว้กับเพื่อนบ้าน ต่อมาไม่นาน นายรณกรได้ติดต่อมายังผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับกรณีการถือหุ้นฟาง ยี่ ว่าที่ไปที่มาของการถือหุ้นนั้นมาจากการไปรับเหมาของบริษัทคนจีน

“ในวันนั้น ผมเข้าไป มีคนขอให้ผมเป็นหุ้นส่วน เขาบอกว่าคนเดิมออกไป ผมพยายามถามรายละเอียดเขาก็ไม่ยอมบอก บอกว่า ไม่ได้ๆ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ก็อยากรู้ว่าบริษัทนั้นเป็นอย่างไรบ้าง จะได้แจ้งเขาถูก” นายรณกรกล่าว

ผู้สื่อข่าวจึงได้ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับคนทำบัญชีซึ่งเชื่อมโยงกับบริษัท เหลียน เซิงที่ถูก ปปง.ยึดทรัพย์ไป และถามต่อเกี่ยวกับคนจีนที่ให้นายรณกรมาเป็นผู้ถือหุ้น

นายรณกรกล่าวว่า การถือหุ้นดังกล่าวนั้นในส่วนของคนจีน ทราบว่ามีเพื่อนเขามาเปิดร้านหม่าล่าอยู่ย่านอาร์ซีเอ แต่คงต้องถามรายละเอียดกับเพื่อนที่คนไทยก่อน

เมื่อถามว่าถือหุ้นได้นานหรือยัง นายรณกรกล่าวว่าถือหุ้นมาได้ประมาณหนึ่งปีแล้ว โดยวันนั้นตัวเองเข้าไปตกแต่งร้านหม่าล่าที่ย่านอาร์ซีเอ ก็ได้รับการติดต่อมา

เมื่อถามเกี่ยวกับค่าตอบแทน นายรณกรกล่าวว่า ได้เงินมาประมาณหมื่นกว่าบาท อย่างไรก็ตาม ตาม ที่ตกลงกันไว้ก็คืออยู่ที่เดือนละ 5 พันบาท

“มันมีทนายความเป็นคนไทยอยู่คนหนึ่ง ผมจำไม่ได้ว่าชื่ออะไร เขาก็ให้มาเซ็น และผมถามรายละเอียด เขาก็ไม่ได้บอกอะไรมากมาย เขาบอกว่าไม่ได้ทำอะไรมากมาย ตอนนั้นผมก็กำลังรับเหมาอยู่ ก็คือสนิทกัน เลยมาช่วยกันหน่อย เราเห็นว่าเป็นคนไทยก็เลยไว้ใจ” นายรณกรกล่าว

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราจึงได้สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับทนายคนดังกล่าวเพิ่มเติม นายรณกรกล่าวว่าที่อยู่ของทนายนั้นอยู่ที่ย่านกรุงเทพกรีฑา แต่จำรายชื่อหมู่บ้านไม่ได้

“วันนั้นคุยกับทนายก็ยังไม่เคลียร์ ก็เห็นว่าเขา (ทนาย) ทำอสังหาริมทรัพย์ด้วย” นายรณกล่าว

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราจึงได้ฝากข้อความนายรณกร ไปถึงทนายความที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ติดต่อกลับมา อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครติดต่อกลับมาแต่อย่างใด

ทั้งหมดเป็นข้อมูลคำชี้แจงจากนายรณกร ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท ฟาง ยี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งมีที่ตั้งในหมู่บ้าน ซอยกรุงเทพกรีฑา 15(ประชาร่วมใจ ) หากมีความคืบหน้าสำนักข่าวอิศราจะรายงานเพิ่มต่อไป

เรื่องเกี่ยวข้องคดีบ.เหลียน เซิง และ กลุ่มทุนจีนก่อนหน้า

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage