
“…นอกจากนี้ พบว่าอาชญากรซึ่งกระทำความผิดมูลฐานและการฟอกเงินใช้นิติบุคคล องค์กรไม่แสวงหากำไร หรือทรัสต์บังหน้าเพื่อซุกซ่อนเงิน หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จึงควรกำหนหนดมาตรการความโปร่งใสของผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงของนิติบุคคลและทรัสต์ดังกล่าวเพื่อป้องกันการกระทำความผิดมูลฐาน และการฟอกเงินซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้านการต่อต้านการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และทำให้การตัดวงจรการประกอบอาชญากรรมเกี่ยวกับการฟอกเงินมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้...”
สืบเนื่องจากการนำเสนอข่าวของสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) อย่างต่อเนื่องกรณีบริษัทของกลุ่มคนจีนเกือบ 40 บริษัทซึ่งมีที่ตั้งในหมู่บ้านซอยกรุงเทพกรีฑา 15 (ประชาร่วมใจ) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร (หมู่บ้านนาราสิริและหมู่บ้านเศรษฐสิริ) ซึ่งล่าสุดมีหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัท ฟาง ยี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่ม 40 บริษัทให้สัมภาษณ์ยอมรับกับสำนักข่าวอิศราว่าถูกว่าจ้างจากคนรู้จักที่เป็นทนายความให้มาถือหุ้นให้ โดยให้ค่าตอบแทนเดือนละ 5 พันบาท
อ่านข่าวประกอบ : ผู้ถือหุ้นใหญ่ 42 ล. บริษัททุนจีนหมู่บ้านหรูอ้างทนายบ.อสังหาฯให้ช่วย-ได้ค่าจ้างหมื่นเศษ
ล่าสุดกรณีโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ถล่ม ซึ่งจากการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมสสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในเบื้องต้นพบว่า มีคนไทย 3ราย ถือหุ้นเข้าข่ายลักษณะ ‘นอมินี’ ในบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด รวมถึงยังมีผลการศึกษาและลงพื้นที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินพบการเข้าถือครองที่ดิน-อสังหาริมทรัพย์ของคนต่างชาติ ทั้งในรูปแบบของนอมินีที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
จากหลายเหตุการณ์ดังกล่าว หน่วยงานภาครัฐได้ออกมาบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นมากขึ้น รวมถึงการแก้ไขกฎหมาย ที่มี กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นหน่วยงานหลัก ซึ่งได้ผลักดันร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568
@ เร่งเข้า ครม.-สภา พิจารณา 3 วาระรวด
นายนภิทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา ว่า หลังจากร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... สิ้นสุดการเปิดรับฟังความคิดเห็นแล้วจะนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโดยเร็ว และเมื่อเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรจะขอให้พิจารณาเห็นชอบใน 3 วาระรวด เพราะเป็นกฎหมายสำคัญและเร่งด่วน
สำนักข่าวอิศราขอนำร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ฉบับเปิดรับฟังความคิดเห็น ประกอบด้วย 13 มาตรา โดยมีรายละเอียดและสาระสำคัญของกฎหมายดังต่อไปนี้
บันทึกหลักการและเหตุผล ประกอบร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่่ ..) พ.ศ. ....
หลักการ
แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ดังต่อไปนี้
(1) กำหนดให้การให้สินบนเจ้าพนักงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ และความผิดเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน และร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดมูลฐาน เพิ่มบทนิยามคำว่า “ปกติธุระ” และกำหนดอำนาจในการตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อกำหนดความผิดมูลฐานเพิ่มเติมตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 3 เพิ่มคำนิยามในมาตรา 3 และเพิ่มมาตรา 3/1)
(2) กำหนดผู้มีหน้าที่แจ้งข้อมูลผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการแจ้ง การกำหนดให้สำนักงานมีหน้าที่และอำนาจในการควบคุมและกำกับการแจ้ง ตลอดจนการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ (เพิ่มหมวด 2/1 ข้อมูลผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง มาตรา 23/1 มาตรา 23/2 มาตรา 23/3 มาตรา 23/4 มาตรา 23/5 มาตรา 23/6 มาตรา 23/7 และมาตรา 23/8)
(3) กำหนดให้คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมมีอำนาจประกาศกำหนดศาลชั้นต้นอื่น นอกจากศาลแพ่งมีอำนาจพิจารณาคดีการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินในการดำเนินการทางศาล ตลอดจนเงื่อนไขการอุทธรณ์และฎีกา (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 59)
(4) แก้ไขเพิ่มเติมบทกำหนดโทษ (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 61 เพิ่มมาตรา 62/1 แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 63 และแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 64/1)
เหตุผล
โดยที่ความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ยังไม่ครอบคลุมความผิดเกี่ยวกับการให้สินบนเจ้าพนักงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศทำให้มีช่องว่างในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
อีกทั้ง ปัจจุบันพบว่ามีบุคคลสัญชาติไทยจำนวนมากให้การช่วยเหลือ สนับสนุน และร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและสร้างความเสียหายแก่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งควรกำหนดกรอบความผิดมูลลูฐานบางมูลฐานให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ประกอบกับมีแนวโน้มว่า มีอาชญากรรมร้ายแรงประเภทอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อระบบเศรษฐกิจและสังคม จึงควรให้ฝ่ายบริหารมีอำนาจกำหนดความผิดมูลฐานเพิ่มเติมให้เท่าทันต่อสถานการณ์และภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ๆ และเนื่องจากปัจจุบัน มีปริมาณคดีการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก การกำหนดให้การดำเนินการทางศาลต้องยื่นต่อศาลแพ่งเพียงศาลเดียวทำให้คดีมีความล่าช้า จึงควรกำหนดให้คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมประกาศเขตอำนาจศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เพิ่มเติม เพื่อให้การพิจารณาพิพากษาคดีดังกล่าวรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ปัจจุบันคดีการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นกรณีที่ต้องนำทรัพย์สินไปคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย การจะกำหนดให้คดีดังกล่าวสิ้นสุดในชั้นอุทธรณ์จะทำให้กระบวนการคุ้มครองสิทธิรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยไม่ได้ตัดสิทธิที่จะฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย จึงควรมีการกำหนดหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขในการอุทธรณ์ และฎีกาเป็นการเฉพาะที่แตกต่างไปจากประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
นอกจากนี้ พบว่าอาชญากรซึ่งกระทำความผิดมูลฐานและการฟอกเงินใช้นิติบุคคล องค์กรไม่แสวงหากำไร หรือทรัสต์บังหน้าเพื่อซุกซ่อนเงิน หรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จึงควรกำหนหนดมาตรการความโปร่งใสของผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงของนิติบุคคลและทรัสต์ดังกล่าวเพื่อป้องกันการกระทำความผิดมูลฐาน และการฟอกเงินซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้านการต่อต้านการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และทำให้การตัดวงจรการประกอบอาชญากรรมเกี่ยวกับการฟอกเงินมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
@ เปิดร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. ปปง. รายมาตรา
ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา 26 ประกอบกับมาตรา 32 มาตรา 37 และมาตรา 40 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
เหตุผลและความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อให้มาตรการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมีประสิทธิภาพ สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์และรูปแบบการฟอกเงินที่ซับซ้อนมากขึ้นซึ่งการตราพระราชบัญญัติตินี้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา 26 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแล้ว
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....”
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวับวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (5/1) ของบทนิยามคำว่า “ความผิดมูลฐาน” ในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558
“(5/1) ความผิดเกี่ยวกับการให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศ หรือเจ้าหน้าที่ขององค์การระหว่างประเทศ ตามกฎหมาย ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือเจ้าพนักงานตามกฎหมายอื่น”
มาตรา 4 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (22) ของบทนิยามคำว่า “ความผิดมูลฐาน” ในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้เพิ่มเติมโดยพระระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558
“(22) ความผิดเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุน หรือร่วมประกอบธุรกิจกับคนต่างด้าวอันเป็นธุรกิจที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ หรือร่วมประกอบธุรกิจกับคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียว หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วน หรือบริษัท จำกัด หรือนิติบุคคลใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย หรือคนต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทย หรือนิติบุคคคลที่มิใช่คนต่างด้าวให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุน หรือร่วมประกอบธุรกิจกับคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจหรือร่วมประกอบธุรกิจกับคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียว หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย หรือความผิดเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจโดยไม่มีใบอนุญาต ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว”
@ ให้อำนาจออก พ.ร.ฎ.กำหนดโทษจำคุกสามปีขึ้นไป - โทษสถานหนักกว่านั้น
มาตรา 5 ให้เพิ่มบทนิยามคำว่า “ปกติธุระ” ระหว่างบทนิยามคำว่า “ความผิดมูลฐาน” กับบทนิยามคำว่า “ธุรกรรม” ในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
“ “ปกติธุระ” หมายความว่า การกระทำความผิดตั้งแต่สองครั้งขึ้นไป ไม่ว่าความผิดนั้นจะกระทำโดยต่อเนื่องหรือไม่ หรือการกระทำความผิดเพียงหนึ่งครั้ง แต่โดยพฤติการณ์น่าเชื่อว่าผู้กระทำมีเจตนาจะกระทำความผิดเช่นว่านั้นต่อไป ทั้งนี้ไม่ว่าการกระทำผิดดังกล่าวจะเป็นการกระทำความผิดต่อบุคคคลคนเดียวหรือต่อบุคคลหลายคน และผลจากการกระทำความผิดนั้น ทำให้ผู้กระทำได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด”
มาตรา 6 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 3/1 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
“มาตรา 3/1 ในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อผูกพันที่ประเทศไทยมีอยู่ตามข้อตกลงหรือสนธิสัญญาระหว่างประเทศ จะตราพระราชกฤษฎีกาเพื่อกำหนดความผิดทางอาญาที่กฎหมายกำหนดโทษจำคุกตั้งแต่สามปีขึ้นไป หรือโทษที่สถานหนักกว่านั้น และความผิดนั้นมีผลทำให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัตินี้เพิ่มเติมก็ได้”
มาตรา 7 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นหมวด 2/1 ข้อมูลผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง มาตรา 23/1 มาตรา 23/2 มาตรา 23/3 มาตรา 23/4 มาตรา 23/5 มาตรา 23/6 มาตรา 23/7 และมาตรา 23/8 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
“หมวด 2/1 ข้อมูลผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง
มาตรา 23/1 ในหมวดนี้
“บุคคลซึ่งตกลงกัน” หมายความว่า บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ซึ่งบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลอื่นตกลงให้เป็นผู้ครอบครอง ใช้ จำหน่าย หรือจัดการทรัพย์สินแทน เพื่อประโยชน์ของบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลอื่นนั้น และให้หมายความรวมถึงทรัสต์ หรือกองทรัพย์สินอื่นที่จัดตั้งขึ้นเพื่อจัดการทรัพย์สินของบุคคลอื่นในประเทศไทยด้วย
“ผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง” หมายความว่า บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของ ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม ในกิจการของนิติบุคคลหรือบุคคลซึ่งตกลงกัน หรือมีอำนาจควบคุม หรือครอบงำการประกอบกิจการของนิติบุคคลหรือบุคคลซึ่งตกลงกันนั้น
“องค์กรไม่แสวงหากำไร” หมายความว่า สมาคมหรือมูลนิธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือนิติบุคคลอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา 23/2 เมื่อบุคคลดังต่อไปนี้ ทำธุรกรรมกับสถาบันการเงิน หรือผู้ประกอบอาชีพตามมาตรา 16 ให้มีหน้าที่แจ้งข้อมูลผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงที่มีลักษณะตามที่กำหนดในกฎกระทรวงต่อสำนักงาน
(1) ห้างหุ้นส่วนจำกัด
(2) บริษัทจำกัด
(3) บริษัทมหาชนจำกัด
(4) บุคคลซึ่งตกลงกัน
(5) องค์กรไม่แสวงหากำไร
(6) บุคคลอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ให้บุคคลผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงตามวรรคหนึ่งมีหน้าที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงของตนแก่บุคคลตามวรรคหนึ่งด้วย
บุคคลตามวรรคหนึ่งอาจได้รับยกเว้นไม่ต้องแจ้งข้อมูลผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงต่อสำนักงาน ทั้งนี้ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา 23/3 ในกรณีที่ข้อมูลผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงเปลี่ยนแปลงไป ให้บุคคลตามมาตรา 23/2 วรรคหนึ่ง มีหน้าที่แจ้งข้อมูลดังกล่าวต่อสำนักงานทราบเพื่อให้ถูกต้อง ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน
เมื่อได้แจ้งข้อมูลผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงต่อสำนักงานแล้ว ให้บุคคคลตามมาตรา 23/2 วรรคหนึ่ง เก็บรักษาข้อมูลนั้นไว้เป็นหลักฐาน โดยอาจจัดเก็บเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้
ในกรณีที่ความปรากฏต่อบุคคลตามมาตรา 23/2 วรรคหนึ่งว่าข้อเท็จจริงที่ได้แจ้งไปดังกล่าวมีการผิดหลงในสาระสำคัญ ให้บุคคลนั้นแจ้งข้อมูลที่ถูกต้องต่อสำนักงานโดยเร็ว
มาตรา 23/4 การแจ้งข้อมูลตามมาตรา 23/2 วรรคหนึ่ง มาตรา 23/2 วรรคหนึ่งและวรรคสามให้เป็นไปตามแบบ รายการ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาที่คณะกรรมการกำหนด
มาตรา 23/5 บุคคลตามมาตรา 23/2 วรรคหนึ่ง อาจแต่งตั้งตัวแทนหรือมอบอำนาจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใด ดำเนินการแจ้งข้อมูลผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงก็ได้ บุคคลดังกล่าวยังต้องรับผิดหากตัวแทนหรือผู้รับมอบอำนาจมิได้ดำเนินการให้ถูกต้องครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในหมาดนี้
มาตรา 23/6 ในกรณีที่ความปรากฏแก่สำนักงานว่าบุคคลตามมาตรา 23/2 วรรคหนึ่งมิได้ปฏิบัติโดยถูกต้องครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในหมวดนี้ ให้เลขาธิการหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากเลขาธิการมีอำนาจสั่งให้บุคคลตามมาตรา 23/2 วรรคหนึ่งนั้นปฏิบัติหรือแกไขให้ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนด
มาตรา 23/7 เมื่อบุคคลตามมาตรา 23/2 วรรคหนึ่ง เลิกประกอบกิจการหรือยุติการดำเนินงานในราชอาณาจักร ให้มีหน้าที่แจ้งข้อมูลดังกล่าวต่อสำนักงาน ในกรณีนี้ให้สำนักงานเก็บรักษาข้อมูลผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงไว้ต่อไปเป็นเวลาห้าปีนับจากวันที่เลิกประกอบกิจการหรือยุติการดำเนินงานแล้วแต่กรณี
มาตรา 23/8 การรับหรือส่งข้อมูลหรือใช้ประโยชน์จากข้อมูลผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงตามหมวดนี้เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่น ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง”
@ พิจารณาคดีสองศาล-ศาลอุทธรณ์ให้เป็นที่สุด
มาตรา 8 ให้ยกเลิกความในมาตรา 59 แห่งพระราชบัญญัติปองกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 59 การดำเนินการทางศาลตามหมวดนี้ ให้ยื่นต่อศาลแพ่ง หรือศาลชั้นต้นอื่นที่คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมประกาศกำหนด โดยให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม
เพื่อให้การดำเนินการตามวรรคหนึ่งเป็นไปโดยสะดวก รวดเร็ว และเที่ยงธรรม ประธานศาลฎีกาอาจออกข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินการใด ๆ ได้ตามความจำเป็น ข้อกำหนดดังกล่าวเมื่อได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาและประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
การอุทธรณ์คำสั่งของศาลตามวรรคหนึ่ง ให้อุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์อื่นที่คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรมประกาศกำหนด
เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งเป็นประการใด ให้เป็นที่สุด ห้ามมิให้คู่ความฝ่ายใดฎีกา เว้นแต่จะฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
การดำเนินการทางศาลตามหมวดนี้ ให้พนักงานอัยการได้รับยกเว้นค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวง”
@ อายุความ 15 ปี-แจ้งเท็จคุกสูงสุด 2 ปี
มาตรา 9 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสามของมาตรา 61 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
“ความผิดตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ถ้ามิได้ฟ้องต่อศาลภายในสิบห้าปีนับแต่วันกระทำความผิด เป็นอันขาดอายุความ”
มาตรา 10 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 62/1 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
“มาตรา 62/1 บุคคลตามมาตรา 23/2 วรรคหนึ่ง ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา 23/2 หรือมาตรา 23/3 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท และปรับอีกวันละไม่เกินห้าพันบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
บุคคลตามมาตรา 23/2 วรรคหนึ่งผู้ใดมิได้ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตามคำสั่งตามมาตรา 23/6 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท และปรับอีกวันละไม่เกินหนึ่งพันบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง
ในกรณีที่การกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง เกิดจากการสั่งการหรือการกระทำของกรรมการหรือผู้จัดการ หรือบุคคลใดซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของบุคคลตามมาตรา 23/2 วรรคหนึ่ง หรือในกรณีที่บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องสั่งการหรือกระทำการ ละเว้นไม่สั่งการ หรือไม่กระทำกาการจนเป็นเหตุให้บุคคลตามมาตรา 23/2 วรรคหนึ่งนั้นกระทำความผิด ผู้นั้นต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นด้วย”
มาตรา 11 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสองของมาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558
“ผู้ใดแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จหรือปกปิดความจริงที่ต้องแจ้งตามมาตรา 23/2 วรรคหนึ่ง หรือ มาตรา 23/3 วรรคหนึ่งหรือวรรคสาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
มาตรา 12 ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของมาตรา 64/1 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติปองกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2556 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 64/1 ความผิดตามมาตรา 62 มาตรา 62/1 มาตรา 63 และมาตรา 64 ให้คณะกรรมการเปรียบเทียบที่คณะกรรมการแต่งตั้งมีอำนาจเปรียบเทียบได้”
มาตรา 13 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
นายกรัฐมนตรี
เรื่องเกี่ยวข้องคดีบ.เหลียน เซิง และ กลุ่มทุนจีนก่อนหน้า
- ปปง.ยึดทรัพย์ 2,561 ล.! คดีเงินดิจิทัล บ้านหรู 20 บ. - สนามบินน้ำด้วย 11 หลัง 1,450 ล.(1)
- เปิดโฉมที่ดิน-บ้านหรู 11 แปลง 1,450 ล. โครงการดังสนามบินน้ำ จ.นนทบุรี ถูกปปง.ยึด(2)
- ขุด บ.เหลียนเซิง ปปง.ยึดทรัพย์ 1,600 ล. ทุนจีนหุ้นใหญ่ - 3 คนโดนอายัดเงินฝาก 127 ล.(3)
- ตามไปดู บ.เหลียนเซิง คดียึดทรัพย์ 2,561 ล.ที่ตั้งเขตบางรักปิดตัว-จ.นนทบุรี งานก่อสร้างลด(4)
- ปริศนา!หญิงผู้ถือหุ้น บ.เหลียนเซิง 225 ล.แจ้งที่อยู่'ห้องพัก'แฟลต ทร.- ยังติดต่อแจงไม่ได้(5)
- ที่แท้เป็นเมียพันจ่าเอก! ทร.แจงปมหญิงถือหุ้น บ.เหลียนเซิง 225 ล.แจ้งที่พักแฟลตทหารเรือ(6)
- พบ ‘เมียจ่าทร.’ ถือหุ้นเครือข่ายเหลียนเซิง 3 แห่ง 5 ล. - ล่าสุด บ.อสังหาฯ 2 ล. สีลม(7)
- เจาะไส้ใน บ.เหลี่ยนฟาฯ ทุนจีนซ้อนทุนจีน ถือหุ้น 765 ล. โครงการบ้านหรูจ.นนทบุรี(8)
- กรมพัฒน์ฯ ตรวจเจอเองข้อสงสัยตั้ง บ.เหลียนเซิง เรียกชี้แจงไม่ยอมมา - ส่ง DSI สอบแล้ว(9)
- ตามไปดู บ.'เมียจ่าทร.' ย่านสีลม หลัง ปปง.อายัดทรัพย์ 'เหลียนเซิง' ไม่พบป้ายชื่อแล้ว(10)
- เจาะบ.จิน หวง กรุ๊ป 'เมียจ่าทร.' ชาวตุรกี-จีน-กัมพูชาร่วมหุ้น! 3 คนโดนอายัดเงิน 117 ล.(11)
- เปิดชื่อเจ้าของโฉนด อ.บางพลี โดน ปปง.ยึด 65 ล.! บ.ซื้อขายที่ดิน-คนเตอร์กิซหุ้นใหญ่(12)
- เปิดภาพคฤหาสน์หลังโต! บ.เพอร์เฟค ซันเดย์ อ.บางพลี โดน ปปง.ยึด 65 ล. กำลังก่อสร้าง(13)
- ก่อนย้ายมาคฤหาสน์หลังโต! บ.เพอร์เฟค ซันเดย์ ปปง.ยึดทรัพย์ 65 ล.ที่อยู่ ห้องเช่าคอนโด(14)
- เผยโฉมหนังสือรับรองเงินฝาก บ.เหลียนเซิง 5 ล. ก่อนโดนปปง.อายัดเหลือ 120.5 ล.(15)
- ถือหุ้นไขว้-หญิงไทยก่อตั้ง โอนให้เตอร์กิซ! ขุด บ.เจ้าของบ้านหรู 65 ล. คดีฟอกเงิน(16)
- เปิดบ้านที่ดิน 3 หลัง 68 ล้าน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ปปง.ยึดลอตเดียว‘เหลียน เซิง’(17)
- ประกาศขายด่วน! ตามไปดูบ้าน 3 หลัง 68 ล. ปปง.ติดป้ายอายัดลอตเดียวคดีฟอกเงิน 'เหลียนเซิง'(18)
- ขุดลึก 3 บ.เจ้าของที่ดิน 68 ล้าน อ.ปากเกร็ดคดีฟอกเงิน ก่อตั้งบนเกาะสมุย โอนหุ้นให้คนจีน(19)
- ผู้ติดประกาศขายบ้านที่ปากเกร็ดแจง ไม่ทราบเหตุ ปปง.ยึดทรัพย์ ลอตเดียวกับ บ.เหลียนเซิง(20)
- ส่องบ้านที่ดิน 2 แปลง 83 ล.ย่านเขตสะพานสูง โดนปปง.ยึด-กลุ่มทุนจีนเจ้าของ(อีกแล้ว)(21)
- ตามขุด 2 บ.เจ้าของบ้านที่ดิน 83 ล.พระราม 9 ก่อตั้ง อ.บางละมุง โอนหุ้นให้คนจีน (22)
- รอชี้แจง ปปง.! เปิดบ้านที่ดิน 2 แปลง 83 ล.คนจีนเจ้าของ ยันไม่เกี่ยวข้อง 'เหลียน เซิง' (23)
- ปปง.มีมติส่งทรัพย์สิน 5 พันล.คดีเหลียน เซิง ให้อัยการยื่นเรื่องต่อศาลยึดเป็นของแผ่นดิน(24)
- ส่องชัดๆ!ที่ดินบ้านลอตใหญ่ 12 แปลง 5 ล.คดีฟอกเงิน 12 บริษัทถือครอง ทุนจีนเจ้าของ(25)
- เปิดภาพล่าสุดบ้านหรู สนามบินน้ำ 1,450 ล. ยังคงก่อสร้าง หลัง ปปง.ส่งศาลยึดทรัพย์(26)
- ขุดสุดลึก 6 บ.เจ้าของบ้านที่ดินหรูย่านหัวหมาก กลุ่มเดียวกันจัดตั้ง ก่อนโอนหุ้นให้คนจีน(27)
- ก่อนโอนหุ้นให้คนจีน!พบอีก 5 บ.เจ้าของบ้านที่ดินหรูหัวหมาก เครือข่ายเดียวกัน -รวม 11 แห่ง(28)
- ที่ดินบ้านหรู 4 ล. หัวหมาก โดน ปปง.ยึด ชื่อ บ.คนไทยถือครอง-เชื่อมโยงกลุ่มทุนจีนอีก (29)
- 'อิศรา' ตะลุยที่ดิน-บ้านหรูย่านหัวหมาก! เปิดชื่อ 'ปีเตอร์' คีย์แมนตั้งบริษัทเอื้อทุนจีน(30)
- ขมวดภาพรวม 20 บ.เจ้าของบ้านหรู 30 หลัง คดี บ.เหลียน เซิง กลุ่มทุนจีน-พวก ยึดเรียบ(31)
- INFO:ขมวดภาพรวม 20 บริษัทเจ้าของบ้านหรู 30 หลัง คดี บ.เหลียน เซิง ทุนจีน-พวก ยึดเรียบ(32)
- ข้อมูลใหม่! พบอีก 38 บริษัททุนจีนอยู่ในหมู่บ้านหรูดัง โมเดลเดียว‘คดีเหลียน เซิง’(33)
- ขุดลึก 4 บ.ทุนจีนหมู่บ้านดัง -สาววัย 23 ปีก่อตั้งด้วยก่อนโอนหุ้น - 2 แห่งจดใน จ.ชลบุรี(34)
- รื้อเครน หยุดก่อสร้างแล้ว! ภาพล่าสุด โครงการบ้านหรู บ.ทุนจีน 1,450 ล. สนามบินน้ำ (35)
- เปิดชุดใหม่! อีก 5 บริษัททุนจีนในหมู่บ้านหรู รูปแบบเดิม คนไทยจดฯก่อตั้งก่อนโอนหุ้น (36)
- ตามสัมภาษณ์‘สาว’กก./ผู้ถือหุ้น 95.5 ล้าน 2 บ.ทุนจีนบ้านหรู อยู่ทาวน์เฮ้าส์-ไม่สะดวกชี้แจง (37)
- เจาะทะลวงอีก 5 บริษัทกลุ่มทุนจีนในหมู่บ้านหรู -‘คนทำบัญชี’เดียวบ.คดีเหลียน เซิง (38)

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา