“…เจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ หรือเลือกปฏิบัติเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนบางราย รวมไปถึงการที่เจ้าหน้าที่รัฐทำการปรับผู้ที่กระทำความผิด แต่ไม่นำเงินเข้าสู่รัฐเต็มจำนวน ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นผลสืบเนื่องจากการไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด จนเป็นช่องทางที่ก่อให้เกิดการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ…”
........................................
กรณีการร้องเรียนเกี่ยวกับการติดตั้ง ‘ป้ายโฆษณา’ ของผู้ประกอบการ เช่น ป้ายโฆษณาขายบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียม ตลอดจนป้ายโฆษณาซุ้มขายอาหาร โดยเฉพาะซุ้มขายใบกระท่อม บนพื้นที่บริเวณทางเท้าหรือเสาไฟฟ้า ริมถนนสาธารณะ เป็นหนึ่งในข้อร้องเรียนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากป้ายฯเหล่านั้น กีดขวางทางเท้าและบดบังทัศนวิสัย
แต่ทว่าหลังจากประชาชนได้ร้องเรียนเกี่ยวกับป้ายโฆษณาต่างๆ ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบพื้นที่ฯแล้ว ปรากฏว่าข้อร้องเรียนในหลายๆกรณี กลับไม่ได้รับการแก้ไข หรือถูกเพิกเฉย และเป็นปัญหาเรื้อรังมาจนถึงปัจจุบันนี้ (อ่านประกอบ : ครบ 1 เดือน! ‘ป้าย-ร้าน’บนทางเท้าสองฝั่ง ทล.บางใหญ่-บางปะอิน ยังอยู่เหมือนเดิม)
กระทั่งล่าสุด กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย (มท.) ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด โดยขอให้ทุกจังหวัดกำกับดูแลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2562 เรื่อง มาตรการป้องกันการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ ดังนี้
1.กำชับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับป้ายโฆษณานทางสางสารณะ
2.กำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรายงานผลการดำเนินการตามมาตรการป้องกันการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ มายังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นในรูปแบบ Google form ภายในวันที่ 26 ของทุกเดือน พร้อมทั้งแจ้งการรายงานผลการดำเนินการดังกล่าวให้จังหวัดทราบด้วย เพื่อที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจะได้นำข้อมูลไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) จึงขอนำเสนอสรุป ‘ที่มา’ และ ‘สาระสำคัญ’ ของ 'มาตรการป้องกันการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ' ของ ป.ป.ช. ที่ ครม. มีมติรับทราบ มีรายละเอียด ดังนี้
@มีกม.ควบคุม‘ป้ายโฆษณา’ แต่ไม่มีบังคับใช้อย่างเคร่งครัด
ที่มาและความสำคัญ
การติดตั้งป้ายโฆษณาเป็นสิ่งที่พบเห็นได้อย่างทั่วไปแทบทุกพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตเมืองสำคัญๆ เช่น กรุงเทพมหานคร นนทบุรี เป็นต้น ซึ่งป้ายโฆษณาเหล่านี้จะพบเห็นได้ทั้งในส่วนของพื้นที่เอกชน คือ ติดตั้งตามอาคารพาณิชย์ ดาดฟ้าอาคาร บ้านเรือน
หรือแม้แต่ในพื้นที่บนทางสาธารณะ เช่น บาทวิถี ริมถนน เกาะกลางถนน ซึ่งเป็นบริเวณที่กฎหมายห้ามไม่ให้มีการติดตั้งป้ายโฆษณาทุกประเภท ดังปรากฏเป็นข้อห้ามใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535 พ.ร.บ.การจราจรทางบก พ.ศ.2522 รวมทั้งการออกกฎกระทรวง ประกาศ และข้อบัญญัติต่างๆ ที่ออกตามพระราชบัญญัติเหล่านั้น
ถึงแม้จะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบในการกำกับ ควบคุมดูแลหลายหน่วยงาน ตามแต่ละพื้นที่ แต่ปัญหาการติดตั้งป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ ก็ยังคงปรากฏอยู่ทั่วไป ป้ายโฆษณาที่พบเห็นนั้น นอกจากจะทำให้บ้านเมืองดูไม่สะอาดและขาดความเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังส่งผลกระทบที่หลากหลายตามมา
อาทิ ทำให้ประชาชนที่สัญจรในบริเวณนั้นได้รับอันตราย หรือสุ่มเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายอันเกิดจากป้ายที่ไม่ได้มาตรฐาน ขาดความมั่นคงแข็งแรง หรือติดตั้งรุกล้ำออกมานอกแนวร่นของอาคาร กีดขวางทางเดิน บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ การเดินเท้าของประชาชนบนบาทวิถี หรือแม้แต่การติดตั้งป้ายโฆษณาที่มีความเข้มของแสงสูงเกินมาตรฐานหรือเป็นภาพเคลื่อนไหว ซึ่งทำให้รบกวน สมาธิต่อผู้ขับขี่อันก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้
จากข้อเท็จจริงดังที่กล่าวมานั้น ประเด็นสำคัญของปัญหาในเรื่องการติดตั้งป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ คือ เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย เนื่องจากการติดตั้งป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะเป็นเรื่องที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นข้อห้ามไว้อย่างชัดเจน ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนถือว่ากระทำผิดกฎหมาย หากแต่ยังไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
ดังนั้น เพื่อให้มีการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการติดตั้งป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะและการละเว้นการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงเห็นควรเสนอมาตรการป้องกันการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ เพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริต การกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม
การจัดให้มีมาตรการและกลไกที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนอย่างเข้มงวด และเสนอแนะให้มีการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือมาตรการใดที่เป็นช่องทางให้มีการทุจริต หรือประพฤติมิชอบ หรือเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลดีต่อราชการได้ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 32
รวมทั้งหากสามารถจัดการหรือป้องกันปัญหาป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะได้ นอกจากบ้านเมือง จะเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัยจากอันตราย ลดการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องได้แล้ว ยังส่งผลให้ประชาชนหรือนานาชาติรับรู้ถึงความจริงจังในการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งอาจส่งผลให้ประเทศไทยได้รับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index: CPI) ที่สูงขึ้น
@พบ‘จนท.รัฐ’มีพฤติการณ์การ‘ทุจริต’ อนุญาตติดตั้ง‘ป้ายโฆษณา’
เรื่องร้องเรียนการทุจริตเกี่ยวกับป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ
ข้อมูลการกล่าวหาร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ จากสำนักบริหารงานกลาง สำนักงาน ป.ป.ช.2 (ข้อมูล ณ วันที่ 14 ก.ค.2560) พบว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐมีพฤติการณ์การทุจริตในหลากหลายลักษณะ ทั้งการเลือกปฏิบัติในการอนุมัติ/อนุญาตในการติดตั้งป้ายโฆษณา เลือกปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เอื้อประโยชน์ให้กับภาคเอกชน และการจัดทำป้ายเพื่อประโยชน์แก่ตนเอง โดยมีรายละเอียดพฤติการณ์ ดังนี้
1.เจ้าหน้าที่ของรัฐเลือกปฏิบัติในการอนุมัติ/อนุญาตในการติดตั้งป้ายโฆษณา เช่น
-กรณีการออกใบอนุญาตให้ก่อสร้างป้ายโฆษณา LED โดยไม่ได้รับความยินยอมจากที่ดินข้างเคียง
-กรณีผู้บริหารท้องถิ่นและพนักงานส่วนท้องถิ่นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยเอื้อประโยชน์ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ติดตั้งป้ายโฆษณาหาเสียงในสถานที่ที่ไม่อนุญาตให้ติดตั้งในพื้นที่
2.เจ้าหน้าที่ของรัฐเลือกปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น
-กรณีการกลั่นแกล้งดำเนินคดีกับผู้สมัครรับเลือกตั้งบางรายในกรณีที่ไม่รื้อถอนป้ายโฆษณาหาเสียงในเวลาที่กำ หนด แต่ละเว้นไม่ดำเนินการใดๆ กับผู้สมัครรายอื่น
-กรณีละเว้นไม่ดำเนินการใดๆ กับบริษัทเอกชนที่จัดตั้งป้ายโฆษณาบนทางเท้า โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือกรณีละเว้นไม่ดำเนินการใดๆ กับผู้ที่ปิดแผ่นป้ายโฆษณาหาเสียงบริเวณที่เป็นทรัพย์สินของทางราชการ
-กรณีปล่อยปละละเลยให้มีการก่อสร้างป้ายโฆษณาทั้งที่มีการเพิกถอนใบอนุญาตแล้ว
3.เจ้าหน้าที่ของรัฐเอื้อประโยชน์ให้กับภาคเอกชน และ/หรือเรียกรับผลประโยชน์จากภาคเอกชน เช่น
-กรณีการอนุญาตให้เอกชนทำการก่อสร้างป้ายโฆษณาในสถานที่ราชการ และเรียกเก็บเงินผลประโยชน์จากเอกชนโดยไม่นำส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
-กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ดำเนินการแก้ไขการติดตั้งป้ายบนทางเดินสาธารณะ ซึ่งมีลักษณะเป็นการขัดขวางทางเดินเท้า อนุญาตให้ติดตั้งป้ายโฆษณาเป็นการเอื้อประโยชน์แก่เอกชน และได้รับผลตอบแทนจากการติดตั้งป้ายโฆษณาดังกล่าว
-กรณีหน่วยงานเจ้าของพื้นที่นำพื้นที่ที่อยู่ในความดูแลไปให้เอกชนเช่าและทำการก่อสร้างป้ายโฆษณา โดยฝ่าฝืนกฎหมาย เอื้อประโยชน์ให้ผู้เช่าเพียงบางราย และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ควบคุมดูแลให้ผู้เช่าปฏิบัติให้ถูกต้องตามสัญญาเช่า เช่น การเช่าช่วง แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ อันมีเจตนาเอื้อประโยชน์แก่เอกชน
-กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐข่มขู่เรียกรับเงินจากผู้ประกอบการเอกชน ที่ประกอบกิจการผลิตและติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณข้างถนนพื้นที่เขตประเวศ โดยอ้างว่าเป็นค่าปรับ ในข้อหาติดป้ายในที่สาธารณะ โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีของตน และมีการเรียกร้องเพิ่มจำนวนเงินขึ้นในเดือนต่อมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งไม่มีใบเสร็จรับเงินแต่อย่างใด
4.เจ้าหน้าที่ของรัฐจัดทำป้ายเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ตนเอง เช่น
-กรณีผู้บริหารท้องถิ่นทุจริตการก่อสร้างศาลาพักรอริมถนนและป้ายโฆษณา โดยใช้ภาพถ่ายของตนเองติดไว้เพื่อหาเสียง
-กรณีผู้บริหารท้องถิ่นใช้งบของทางราชการจัดทำป้ายโฆษณาเพื่อหาเสียงให้ตนเอง
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากพฤติการณ์การทุจริตใน 4 ลักษณะดังที่กล่าวไว้ในข้างต้นนั้น ยังพบว่ามีเรื่องร้องเรียนบางกรณีซึ่งเป็นการกระทำความผิดในหลายลักษณะร่วมกัน เช่น กรณีเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทบางรายในการติดตั้งป้ายโฆษณา แต่กลับดำเนินคดีกับผู้ที่ติดตั้งป้ายโฆษณารายอื่น
พฤติการณ์เช่นนี้ อาจทำให้เจ้าหน้าที่รัฐได้รับผลประโยชน์จากทั้งสองฝ่าย คือ ได้ทั้งผลประโยชน์จากการเอื้อ ประโยชน์ให้บริษัทรายนั้นได้ติดตั้งป้าย และได้รับผลประโยชน์จากการปรับผู้ที่ติดตั้งป้ายโฆษณารายอื่นด้วย
สถิติอุบัติเหตุการจราจรทางบก
จากข้อเท็จจริงดังที่ได้กล่าวมา จะเห็นได้ว่าป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะนั้น ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาที่มีความเกี่ยวเนื่องกันมากมาย และเป็นหนึ่งในสาเหตุของอุบัติเหตุบนท้องถนน
ข้อมูลจากสถิติคดีอุบัติเหตุการจราจรทางบก จำแนกตามสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุจากบุคคล สาเหตุจากสิ่งแวดล้อม และสาเหตุจากอุปกรณ์ที่ใช้ขับขี่ ทั่วราชอาณาจักร พ.ศ.2549-2558 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า อุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วงเวลาดังกล่าว เกิดขึ้นเฉลี่ยปีละ 63,320 คดี อันเกิดขึ้นจากหลากหลายสาเหตุ
แต่สาเหตุประการหนึ่ง คือ มีสิ่งบังตา คิดเป็นค่าเฉลี่ย 527 คดีต่อปี และมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี โดยปี พ.ศ.2556 มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเนื่องจากมีสิ่งบังตาสูงที่สุด คือ 934 คดี รวมคิดเป็นร้อยละ 0.83 ของค่าเฉลี่ยของสาเหตุอุบัติเหตุทั้งหมด
@สะท้อน 5 ปมปัญหาหลัก ติดตั้งป้ายโฆษณาบน‘ทางสาธารณะ’
ข้อพิจารณา
จากข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ และข้อมูลการกล่าวหาร้องเรียนที่เกี่ยวข้องการติดตั้งป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ รวมถึงข้อกฎหมายต่างๆ สามารถสรุปประเด็นข้อพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับปัญหาการติดตั้ง ป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะได้ ดังนี้
1.การบังคับใช้กฎหมาย
การติดตั้งป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะนั้น มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์ข้อปฏิบัติและข้อห้ามไว้อย่างชัดเจน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ ยังไม่มีการปฏิบัติตามกฎหมายและไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
ส่งผลให้มีการลักลอบติดตั้งป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะหลายพื้นที่ ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย ในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง และเป็นภาพสะท้อนถึงความศักดิ์สิทธิ์และการเคารพต่อกฎหมายบ้านเมืองในภาพรวม
ดังนั้น จึงควรกำหนดมาตรฐานในการบังคับใช้กฎหมายในแต่ละพื้นที่ให้มีความเท่าเทียมกัน และวางมาตรการในการตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งกำกับดูแลการติดตั้งป้ายโฆษณาไม่ให้ละเลยหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
2.ปัญหาเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตเรียกรับผลประโยชน์
ปัญหาที่เจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตเรียกรับผลประโยชน์จากการติดตั้งป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ เป็นประเด็นสืบเนื่องจากข้อเท็จจริง ข้อกล่าวหาร้องเรียน และข้อเท็จจริงจากสื่อมวลชนที่พบว่ามีการปล่อยปละละเลยให้เอกชนติดตั้งป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ อันเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์ หรือเลือกปฏิบัติเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนบางราย
รวมไปถึงการที่เจ้าหน้าที่รัฐทำการปรับผู้ที่กระทำความผิด แต่ไม่นำเงินเข้าสู่รัฐเต็มจำนวน ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นผลสืบเนื่องจากการไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด จนเป็นช่องทางที่ก่อให้เกิดการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ดังนั้น จึงควรเพิ่มบทลงโทษทางวินัยสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีหน้าที่รับผิดชอบที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมดูแลป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ
3.ความชัดเจนของเนื้อหาในกฎหมาย
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งป้ายโฆษณามีข้อกำหนดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ข้อปฏิบัติและข้อห้ามไว้อย่างครบถ้วน แต่ทว่ายังมีประเด็นที่ควรเพิ่มเติมให้มีความชัดเจน ดังนี้
(1) นิยามความหมายของคำว่า “ป้ายโฆษณา” ยังไม่มีการระบุอย่างชัดเจนว่าป้ายโฆษณา หมายถึงสิ่งใด ครอบคลุมถึงป้ายประเภทใดบ้าง หากแต่มีการกำหนดนิยามคำว่า “ป้าย” ไว้เฉพาะใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ซึ่งเป็นป้ายขนาดใหญ่ มีขนาดเกินหนึ่งตารางเมตร หรือมีน้ำหนัก รวมทั้งโครงสร้างเกินสิบกิโลกรัมเท่านั้น จึงทำให้ไม่ครอบคลุมไปถึงป้ายโฆษณาหรือใบปลิวที่มีขนาดเล็กๆ ซึ่งพบเห็นในที่สาธารณะจำนวนมาก ดังนั้น จึงควรมีการกำหนดนิยามของป้ายโฆษณาในกฎหมายให้ชัดเจน เพื่อใช้เป็นมาตรฐานกลางในการกำกับดูแลป้ายโฆษณาทุกประเภทและมีความเข้มงวดในทุกพื้นที่เท่าเทียมกัน
(2) ความเข้มของแสงที่ใช้ในป้ายโฆษณาซึ่งกำหนดไว้ในกฎกระทรวง ว่าด้วยการควบคุมป้ายหรือสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับติดหรือตั้งป้ายตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ.2558 ข้อ 17 ซึ่งยังไม่ได้มีการกำหนดมาตรฐานความเข้มของแสงไว้อย่างชัดเจน
อีกทั้งจากข้อเท็จจริงในปัจจุบันป้ายที่มีแสงสว่างในตัวเองยังเป็นระบบแสงที่ไม่ได้ปรับความเข้มของแสงตามความสว่างจากแสงธรรมชาติ ทำให้ในเวลากลางคืน ป้ายโฆษณาดังกล่าวจะสว่างจ้ากว่าในเวลากลางวัน ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการขับขี่ยานพาหนะ
ดังนั้น จึงควรปรับปรุงกฎหมาย โดยกำหนดค่ามาตรฐานความเข้มของแสงในป้ายโฆษณาที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชุมชนใกล้เคียงหรือผู้ขับขี่ยานพาหนะ และกำหนดให้ป้ายโฆษณาที่มีแสงสว่างในตัวเองมีระบบการปรับแสงสว่างอัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสเกิดอันตรายหรือเป็นอุปสรรคต่อผู้พบเห็น
4.ผลประโยชน์ทางธุรกิจของเจ้าของป้ายโฆษณาผิดกฎหมายมีสูงกว่าเมื่อเทียบกับบทกำหนดโทษที่จะได้รับ
จากกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มีข้อพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ซึ่งเจ้าของป้ายหรือสินค้าที่ปรากฏตามโฆษณาได้รับจากการติดตั้งป้ายโฆษณาเป็นมูลค่าที่สูงหากเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายและระยะเวลาที่ผู้ขออนุญาตต้องดำเนินการ (ค่าธรรมเนียมในการขออนุญาต ฉบับละ 200 บาท)
และค่าเช่าพื้นที่ในการโฆษณา เช่น ค่าเช่าป้ายโฆษณา LED บริเวณถนนศรีนครินทร์แยกอ่อนนุช (ตลาดศรีเอี่ยมสมบัติ) ขนาด 24 x 9.6 เมตร ราคา 250,500 บาท/ครั้ง/วัน หรือป้ายโฆษณา LED บริเวณสะพานข้ามวงเวียนหลักสี่-แจ้งวัฒนะ ขนาด 12.288 x 7.168 เมตร ราคา 95,296 บาท/ครั้ง/วัน
หรือค่าเช่าป้ายโฆษณา LED ห้าแยกปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ขนาด 12.48 x 7.68 เมตร ราคา 68,000 บาท/ครั้ง/วัน หรือป้ายโฆษณาที่ติดกับผนังตึก บริเวณถนนอโศก-ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ขนาด 10 x 10 เมตร ราคา 55,000 บาท/เดือน เป็นต้น
แสดงให้เห็นว่าค่าเช่าป้ายโฆษณามีอัตราค่อนข้างสูง แตกต่างกันไปตามขนาดของป้ายและบริเวณที่ติดตั้งป้ายโฆษณา รวมถึงบทลงโทษหากมีการลักลอบติดตั้งป้ายโฆษณาซึ่งผิดกฎหมาย ที่ได้กำหนดแนวทางไว้เพียงการแจ้งเตือน ให้ปลด รื้อ ถอน ขูด ลบหรือล้างข้อความหรือภาพนั้นภายในเวลาที่กำหนด หรือให้พนักงานเจ้าหน้าที่กระทำการรื้อถอนเอง โดยคิดค่าใช้จ่ายจากผู้โฆษณาตามที่ได้ใช้จ่ายจริง หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท
จากข้อมูลดังกล่าวเป็นเหตุให้ภาคเอกชนหรือผู้ประสงค์ติดตั้งป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ มีแนวโน้มที่จะไม่กระทำการตามกฎหมาย เหตุเพราะการปฏิบัติตามกฎหมาย ทำให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอันหมายถึงต้นทุนทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมในการขออนุญาต หรือค่าเช่าพื้นที่ในการโฆษณาที่มีอัตราสูง จึงยอมเสี่ยงถูกลงโทษตามกฎหมาย เพราะกฎหมายกำหนดอัตราโทษไว้ต่ำเมื่อเทียบกับความคุ้มค่าทางธุรกิจที่จะได้รับ
ดังนั้น จึงควรมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในเรื่องของอัตราค่าธรรมเนียมในการขออนุญาตติดตั้งป้ายโฆษณาและอัตราค่าปรับให้มีความเหมาะสม เพื่อให้เจ้าของป้ายเกิดความเกรงกลัว หรือความรู้สึกที่ไม่คุ้มค่าหากกระทำผิดกฎหมาย
และควรขยายขอบเขตความรับผิดชอบไปถึงเจ้าของสินค้าที่ปรากฏในโฆษณาต้องร่วมรับผิดชอบกับผู้ขออนุญาตติดตั้งป้ายโฆษณาด้วยในทุกกรณี แม้จะดำเนินการผ่านตัวแทน (Agent) ก็ตาม หากมีการลักลอบติดตั้งป้ายโฆษณาหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด หรือติดตั้งป้ายที่ไม่ได้มาตรฐานซึ่งอาจเกิดอันตรายแก่ประชาชนทั่วไป เพื่อสร้างให้เกิดความรับผิดรับชอบ (Accountability) ต่อสังคมส่วนรวม
5.การรับรู้ของประชาชนถึงสิทธิของตน
ประชาชนยังไม่รับรู้ถึงสิทธิของตนในการใช้ทางเท้า รวมถึงความคุ้มครองที่จะได้รับความปลอดภัยจากอันตรายที่เกิดจากป้ายโฆษณา ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่มักไม่ทราบถึงข้อกฎหมายและหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว อีกทั้งยังไม่มีสัญลักษณ์ที่แสดงว่าป้ายโฆษณานั้นๆ ดำเนินการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่อย่างไร
และช่องทางหรือหน่วยงานในการร้องเรียนไม่มีความชัดเจนและง่ายต่อการเข้าถึง ทั้งที่ปัญหาการติดตั้งป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะก็ปรากฏอย่างชัดเจน และประชาชนเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนโดยตรงจากปัญหาดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันมีแนวทางการใช้เทคโนโลยีเครือข่ายสังคมออนไลน์ในการนำมาใช้แจ้งเบาะแส ร้องเรียน และช่วยในการทำงานของภาครัฐ
เช่น การใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ในการแจ้งเบาะแสผู้กระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 และ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 ของเทศกิจ กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับความสนใจและมีประชาชนเข้ามาร่วมในการแจ้งเบาะแสเป็นจำนวนมาก จึงควรนำมาประยุกต์เพื่อสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชน
@ชงแนวทาง‘เร่งด่วน-ยาว’แก้ปัญหา‘ร้องเรียน-ทุจริต’ติดตั้งป้ายฯ
ข้อเสนอแนะ
จากการศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ข้อเท็จจริง ข้อกล่าวหาร้องเรียนการทุจริต หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท การทางพิเศษแห่งประเทศไทย) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควรมีแนวทางในการป้องกันการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ ดังนี้
มาตรการระยะเร่งด่วน
มาตรการทางการบริหาร (ควรดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน)
1.ผู้บริหารในแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรลงพื้นที่ตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ในสังกัดตามสายการบังคับบัญชาในการกำกับดูแลเรื่องการติดตั้งป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ หากเจ้าหน้าที่ที่กำกับดูแลเรื่องดังกล่าวละเลยหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ที่ติดตั้งป้ายโฆษณาให้ถือเป็นความผิดวินัยหรืออาญาตามแต่กรณี
2.ป้ายโฆษณาทุกประเภทต้องมีเลขทะเบียนควบคุมเป็นระบบเดียว ซึ่งสามารถบ่งบอกว่าหมายเลขนั้น หน่วยงานใดเป็นผู้ออกใบอนุญาตหรือกำกับดูแลป้ายโฆษณาในพื้นที่นั้นๆ เพื่อสร้างให้เกิดความเข้มงวดในการกำกับดูแลและจัดระเบียบป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ รวมทั้งเป็นข้อมูลในการดำเนินการกับผู้ที่ติดตั้งป้ายโฆษณาผิดกฎหมายและหน่วยงานที่ออกใบอนุญาตผิดกฎหมายด้วย
3.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจัดให้มีช่องทางที่เหมาะสมสำหรับแจ้งเบาะแสป้ายโฆษณาหรือสิ่งอื่นใดที่รุกล้ำทางสาธารณะหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยอาจใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือเครือข่ายสังคมออนไลน์ อีกทั้งหน่วยงานนั้น จะต้องมีแนวทางการจัดการที่ชัดเจนและรายงานผลการดำเนินการ ภายหลังได้รับการแจ้งเบาะแสให้ประชาชนผู้แจ้งเบาะแสรับทราบด้วย
4.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจัดพื้นที่เฉพาะสำหรับการติดป้ายโฆษณา โดยไม่มีค่าธรรมเนียมหรือค่าขออนุญาต โดยรวมเป็นศูนย์กลางในสถานที่ที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่และให้มีการบริหารจัดการที่ดี เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและลดโอกาสในการที่เจ้าหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์
5.ในกรณีที่หน่วยงานภาครัฐจัดจ้างให้ภาคเอกชนดำเนินการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์หรือรณรงค์เพื่อประโยชน์สาธารณะ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรกำหนดขนาดมาตรฐานของชื่อหรือสัญลักษณ์ของบริษัทเอกชนที่ปรากฏบนป้ายโฆษณา ให้มีขนาดตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ที่ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างเด่นชัด หรือดึงดูดความสนใจได้ เทียบเท่ากับข้อความประชาสัมพันธ์หรือข้อความรณรงค์ที่ปรากฏบนป้ายนั้นๆ เพื่อป้องกันการโฆษณาแฝงของภาคเอกชนที่อาจเกิดขึ้นมาตรการทางกฎหมาย (ควรดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปี)
6.กำหนดนิยามของคำว่าป้ายโฆษณาให้ชัดเจน รวมถึงกำหนดลักษณะ รูปแบบ และขนาดของป้ายโฆษณาให้เป็นแนวทางเดียวกัน เพื่อใช้เป็นมาตรฐานกลางในการควบคุมดูแลเรื่องป้ายโฆษณาในแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
7.กำหนดค่ามาตรฐานความเข้มของแสงบนป้ายโฆษณาที่ไม่ก่อให้เกิดอันตราย รวมทั้งกำหนดให้ป้ายโฆษณาที่มีแสงสว่างในตัวเองต้องมีระบบการปรับความเข้มของแสงอัตโนมัติตามแสงธรรมชาติ
8.ปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมการขออนุญาตติดตั้งป้ายโฆษณาให้มีความเหมาะสมกับปัจจุบัน โดยกำหนดกรอบเป็นช่วงอัตรา และให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณาให้เหมาะสมกับพื้นที่ของตน โดยพิจารณาทั้งจากขนาดของป้าย พื้นที่ที่ติดตั้งป้าย แล้วกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมให้มีความเหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงที่จะเป็นรายได้ของรัฐ เพื่อนำมาพัฒนาดูแลรักษาพื้นที่นั้นๆ อย่างเหมาะสม
9.ปรับบทลงโทษเป็นลักษณะของอัตราก้าวหน้า คือ ปรับในอัตราที่สูงขึ้นตามจำนวนครั้งที่กระทำความผิด ซึ่งหากกระทำผิดเกินจำนวนครั้งที่กำหนดให้ระงับสิทธิในการติดตั้งป้ายโฆษณาในที่สาธารณะทุกกรณี
10.กรณีไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นผู้ติดตั้งป้ายโฆษณาผิดกฎหมาย ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ที่ได้รับประโยชน์จากป้ายโฆษณานั้นเป็นผู้ติดตั้ง เว้นแต่ผู้นั้นจะพิสูจน์ได้ว่าถูกกลั่นแกล้งหรือไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำดังกล่าว
มาตรการระยะยาว (ควรดำเนินการอย่างต่อเนื่อง)
1.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจัดเวทีเพื่อให้ความรู้ทางกฎหมายแก่สมาคมโฆษณา สมาคมคอนโดมิเนียม หรือสมาคมภาคธุรกิจเอกชนอื่นๆ ในพื้นที่นั้น ซึ่งมีความประสงค์จะติดตั้งป้ายโฆษณาในบริเวณดังกล่าว เพื่อขอความร่วมมือและเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูลระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ กับเจ้าของป้ายโฆษณาได้มีการรับทราบและมีความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน
2.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้เครือข่ายประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการติดตั้งป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ เพื่อความสะอาดเรียบร้อยของบ้านเมือง
เหล่านี้เป็นรายละเอียดของ ‘มาตรการป้องกันการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับป้ายโฆษณาบนทางสาธารณะ’ ของ ป.ป.ช. ที่ ครม. มีมติรับทราบเมื่อปี 2562 แต่ดูเหมือนว่า ในปัจจุบันนี้มีการเพิกเฉยต่อการปฏิบัติตามมาตรการฯ จนกระทั่ง ‘กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น’ ต้องมีหนังสือสั่งการไปยัง ‘ทุกจังหวัด’ กำชับให้ ‘ท้องถิ่น’ กวดขันในการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว !
อ่านประกอบ :
ครบ 1 เดือน! ‘ป้าย-ร้าน’บนทางเท้าสองฝั่ง ทล.บางใหญ่-บางปะอิน ยังอยู่เหมือนเดิม
คราวนี้ถ.วงแหวนกาญจนาฯ! ซุ้มใบกระท่อม-ร้านอาหาร-ชิ้นส่วนรถ-ของเก่า บนทางเท้าพรึ่บ
โผล่อีก!ร้องตั้งร้านยึดทางเท้าถ.รัตนาธิเบศวร์วัดบางแพรก จ.นนทบุรี-ป้ายขายบ้านพรึ่บ
ส่งภาพฟ้อง!ร้านต้นไม้ยึดทางเท้าริมถนนกาญนาฯ จ.นนทบุรี-จนท.แจงจะตรวจสอบ