
"...โครงการสวนสัตว์แห่งใหม่ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ โดยจะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและการเรียนรู้ ผ่านการส่งเสริมให้นักเรียนและประชาชนเข้ามาศึกษาและเยี่ยมชม พร้อมทั้งมีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด 'สวนสัตว์สีเขียว (Green Zoo) ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก..."
โครงการก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ พื้นที่ทุ่งน้ำรังสิด คลอง 6 บนที่ดินพระราชทาน 300 ไร่ ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ทดแทนสวนสัตว์เขาดินฯ (สวนสัตว์ดุสิต) เดิมที่แออัด ปัจจุบันมีความคืบหน้าแล้วกว่า 50% ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 ในกรอบวงเงินงบประมาณรวม 10,974,647,858 ล้านบาท
สวนสัตว์แห่งใหม่นี้จะได้รับการพัฒนาให้เป็น สวนสัตว์แห่งอนาคต โดยมุ่งเน้นการอนุรักษ์สัตว์ป่าและการเรียนรู้ระบบนิเวศในรูปแบบใหม่ ภายใต้แนวคิด Biodiversity Park จำลองถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์แต่ละชนิดอย่างใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด เพื่อส่งเสริมความเข้าใจด้านความหลากหลายทางชีวภาพ และสร้างความสมดุลระหว่างคุณภาพชีวิตของสัตว์กับประสบการณ์ของผู้เข้าชม
การออกแบบสวนสัตว์ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิประเทศของทุ่งรังสิต ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึงของภาคกลางโดยนำมาปรับใช้เป็นภูมิทัศน์ที่กลมกลืนกับธรรมชาติ เพื่อพัฒนาเป็นส่วนจัดแสดงสัตว์รูปแบบใหม่ ที่ไม่มีสิ่งกั้นขวางสายตาเปิดโอกาสให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสสัตว์ป่าอย่างใกล้ชิด เสมือนเข้าไปอยู่ในถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ ตามแนวความคิดที่เชื่อมโยง 'คน - สัตว์ - ธรรมชาติ' เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ
การจัดแสดงสัตว์ในแต่ละโซนจะถูกออกแบบให้สัตว์สามารถมองเห็นกันได้เหมือนอยู่ในพื้นที่เดียวกันตามธรรมชาติ โดยใช้แนวกั้นธรรมชาติ เช่น คูแห้ง คูน้ำ หรือระดับพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อแบ่งโซนอย่างปลอดภัยไม่ให้สัตว์ข้ามเขตกันได้ ทั้งยังคงบรรยากาศที่เสมือนจริงและไม่กระทบต่อประสบการณ์ของผู้เข้าชม
โดยโซนหลักจะครอบคลุมทั้งสัตว์บก สัตว์น้ำ และสัตว์ปีก โดยแบ่งออกเป็นโซนตามภูมิภาค เช่น เอเชีย แอฟริกา อเมริกาใต้ และโซนสัตว์พื้นถิ่นของไทย นอกจากนี้ยังมีโซนกิจกรรมเด็ก โซนสัมผัสสัตว์อย่างใกล้ชิด (Petting zoo), ศูนย์การเรียนรู้ธรรมชาติ นิทรรศการเชิงวิทยาศาสตร์ และพื้นที่สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง




เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2568 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะสื่อมวลชน เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมการดำเนินโครงการก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ โดยมี รศ.ดร.เจษฏ์ โทณะวณิก ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย นางจงกลนี แก้วสด รองผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย รักษาการแทน ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหาร พนักงาน ให้การต้อนรับ
ดร.เฉลิมชัย เปิดเผยว่า แนวคิดการออกแบบของโครงการก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ จัดทำเป็นสวนสัตว์ที่ทันสมัยระดับนานาชาติ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ครบถ้วนในระดับสากล เพื่อเป็นแหล่งเร้ชีวิตสัตสัตว์ป่าทั้งในและบอกถิ่นอาศัย ระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติ ที่สมบูรณ์แบบ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการอนุรักษ์ ศึกษาและวิจัย เพาะขยายพันธุ์สัตว์ป่า เพื่อเป็นพื้นที่อำนวยประโยชน์แก่สังคมโดยรวมคืนสู่ธรรมชาติ และเพื่อเป็นแพล่งนันทนาการที่รองรับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โครงการก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่ ในส่วนเฟสที่ 1 ได้ก่อสร้างตั้งแต่ 12 เมษายน 2566 จำนวนเงิน 5,545,332,100 บาท คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2569 ซึ่งเตรียมเปิดเฟสแรกในปี 2571 ทั้งนี้ พื้นที่ที่เปิดจะเป็นโซนสวนสาธารณะและอาคารเฉลิมพระเกียรติ แสดงผลงาน ของรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 โดยในเฟสแรก จะเปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรีก่อน
สามารถเข้าชมสัตว์จากแอฟริกา และสัตว์ในเอเชียก่อน เช่น ช้างไทย ยีราฟ ตัวโอคาพี ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างคล้ายสัตว์หลายชนิดในตัวเดียวกัน มังกรโคโมโด เป็นต้น
ในขณะที่เฟส 2 จำนวนเงินก่อสร้าง 4,340,156,437 บาท จะเริ่มเปิดประมูลในปี 2569 จะมีสัตว์จากออสเตรเลียและอเมริกาใต้ ซึ่งคาดว่าจะมีสัตว์กว่า 1,000 ตัว จาก 100 ชนิด และจะสามารถเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้อย่างเต็มรูปแบบในปี 2572
"ขณะนี้ได้เสนอของบประมาณปี 2569 สำหรับก่อสร้างเฟสที่ 2 กว่า 4,300 ล้านบาท ที่จะพิจารณาในปลายเดือนนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ คาดว่าโครงการนี้จะดำเนินไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยทางสวนสัตว์จะค่อย ๆ นำเสนอสัตว์อีกหลายชนิด ให้สังคมได้เข้ามาเยี่ยมชม ซึ่งหากทำสำเร็จก็จะกลายเป็นสวนสัตว์ที่ทันสมัยตามมาตรฐานระดับโลกและเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน" ดร.เฉลิมชัย กล่าว
ดร.เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า โครงการสวนสัตว์แห่งใหม่ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ โดยจะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและการเรียนรู้ ผ่านการส่งเสริมให้นักเรียนและประชาชนเข้ามาศึกษาและเยี่ยมชม พร้อมทั้งมีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด 'สวนสัตว์สีเขียว (Green Zoo) ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
สวนสัตว์แห่งนี้จะเป็นพื้นที่สาธารณะ ที่ประชาชนสามารถมาใช้พักผ่อนและออกกำลังกาย อีกทั้งยังเป็นศูนย์ข้อมูลด้านการอนุรักษ์และวิจัยสัตว์ป่าทั้งในและนอกถิ่นอาศัย และในด้านการท่องเที่ยว สวนสัตว์แห่งใหม่นี้จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยดึงดูดนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจในระดับชุมชน







ด้าน รศ.ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการสวนสัตว์แห่งใหม่นี้ แตกต่างจากสวนสัตว์อื่นๆ โดยจะมีการใช้พื้นที่อย่างเต็มศักยภาพมากที่สุด ต่างจากพื้นที่สวนสัตว์เดิมๆ ที่จะมีการก่อสร้างแยกเป็นส่วนๆ ทำให้ใช้พื้นที่ได้ไม่เต็มที่ แม้ว่าจะมีพื้นที่จำนวนมาก
สำหรับแนวคิดด้านการออกแบบสวนสัตว์แห่งใหม่ จะเลียนให้เหมือนธรรมชาติ สัตว์ทุกตัวสามารถมองเห็นกันได้ ส่วนผู้เข้าชมก็สามารถสังเกตศึกษาพฤติกรรมสัตว์ตามธรรมชาติผ่านมุมมองการแอบมอง ส่องสัตว์ ซึ่งจะไม่สร้างความตื่นตกใจให้กับสัตว์ คาดว่าเมื่อแล้วเสร็จ จะเป็นสวนสัตว์ที่มากกว่าการชมสัตว์ แต่จะเป็นแหล่งเรียนรู้ระดับสากลให้กับเยาวชนไทยอีกด้วย

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, รศ.ดร.เจษฏ์ โทณะวณิก ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย, นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ขวา)
สวนสัตว์แห่งใหม่นี้ จึงไม่ใช่เพียงสถานที่ชมสัตว์ แต่เป็น 'พื้นที่แห่งการเรียนรู้ มีชีวิต' ที่เชื่อมโยงผู้คนให้เข้าใจและเห็นคุณค่าของธรรมชาติ เป็นห้องเรียนสิ่งแวดล้อมในระดับสากล ที่เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย (Lifelong Learning) โดยภายในโครงการยังมีการบริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ครอบคลุมตั้งแต่ระบบจำหน่ายและจองตัวล่วงหน้าไปจนถึงระบบบริหารจัดการสวนสัตว์ พร้อมด้วยศูนย์ข้อมูลที่รองรับการจัดเก็บและปกป้องข้อมูลของสวนสัตว์อย่างปลอดภัย
'สวนสัตว์แห่งใหม่ของประเทศไทย' แห่งนี้จึงเป็นต้นแบบใหม่ของการอนุรักษ์และการเรียนรู้ ที่ผสานเทคโนโลยี นิเวศวิทยา และประสบการณ์เสมือนจริงไว้ในที่เดียว





Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา