
"...แต่นายอุทัย ทองคุ้ม ประธานคณะทำงานกำหนดขอบเขตงาน (TOR) กลับมีบันทึกเสนอให้ทบทวนความเห็นของคณะกรรมการดำเนินการจ้างทั้งที่ไม่มีเหตุผลความจำเป็น และคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ได้เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการการจ้างโดยการประกวดแบบ คณะที่ 2 เพื่อทบทวนผลการพิจารณา จนกระทั่งกิจการร่วมค้า คาบิเน็ทอินจิเนียร์-อาวุธ เงินชูกลิ่น ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้รับจ้างออกแบบอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ตามสัญญาจ้างเลขที่ 006/2553 ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553 วงเงิน 25,800,000 บาท ตามที่คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า..."
ปัญหาการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่
กำลังถูกจับตามองมากขึ้น!
เมื่อสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า ในช่วงปี 2567 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติชี้มูลความผิดทางอาญาคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กับพวก ทุจริตจ้างออกแบบโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ วงเงิน 25.8 ล้านบาท เมื่อปี พ.ศ. 2552 อันเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้เสนอราคารายใดรายหนึ่ง
@ พฤติการณ์การกระทำความผิด
คดีนี้ มีการระบุพฤติการณ์การกระทำความผิดว่า ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2552 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ประกาศจ้างออกแบบก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ โดยการประกวดแบบตามเอกสารประกาศเชิญชวน เลขที่ 009/2552 ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้เสนองานโดยให้นิติบุคคลซึ่งไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมในฐานะนิติบุคคลจากสภาสถาปนิก และใบประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมในฐานะนิติบุคคลจากสภาวิศวกร แต่มีหุ้นส่วน กรรมการบริษัท หรือสมาชิกในคณะผู้บริหารนิติบุคคลจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง หรือผู้มีอำนาจบริหารของนิติบุคคล ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมหรือวิศวกรรมควบคุม เป็นผู้มีสิทธิเสนองานได้
แต่สภาสถาปนิกได้มีหนังสือลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2552 ถึงสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เสนอความเห็นให้ปรับแก้ไขข้อความเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ยื่นเสนองานตามเอกสารประกาศเชิญชวน เลขที่ 009/2552 เป็นนิติบุคคลที่เสนองานจะต้องได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมในฐานะนิติบุคคลจากสภาสถาปนิกด้วย ซึ่งคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ในฐานะผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้รับทราบข้อทักท้วงดังกล่าวแล้ว แต่กลับไม่สั่งการให้แก้ไขคุณสมบัติของผู้ยื่น เสนองานหรือยกเลิกประกาศจ้างออกแบบดังกล่าว และเห็นชอบให้ดำเนินการจัดจ้างต่อไป
ทั้งที่ทราบดีว่าการกำหนดคุณสมบัติของผู้ยื่นเสนองานดังกล่าวฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติสถาปนิก พ.ศ. 2543 และเอื้อประโยชน์ให้กิจการร่วมค้า คาบิเน็ทอินจิเนียร์-อาวุธ เงินชูกลิ่น ซึ่งไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุมหรือวิศวกรรมควบคุม ในฐานะนิติบุคคล เป็นผู้ผ่านคุณสมบัติให้เข้าเสนอราคาในขั้นตอนการพิจารณาคัดเลือกผู้ออกแบบ
คณะกรรมการดำเนินการจ้างได้พิจารณาคุณสมบัติของผู้ยื่นเสนองานรวม 4 รายแล้ว มีความเห็นเสนอให้ดำเนินการจัดจ้างกลุ่มบริษัทดีไซน์ดีเวลลอป จำกัด ซึ่งได้คะแนนข้อเสนอด้านเทคนิคสูงสุดเป็นลำดับที่ 1
แต่นายอุทัย ทองคุ้ม ประธานคณะทำงานกำหนดขอบเขตงาน (TOR) กลับมีบันทึกเสนอให้ทบทวนความเห็นของคณะกรรมการดำเนินการจ้างทั้งที่ไม่มีเหตุผลความจำเป็น และคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ได้เห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการการจ้างโดยการประกวดแบบ คณะที่ 2 เพื่อทบทวนผลการพิจารณา
จนกระทั่งกิจการร่วมค้า คาบิเน็ทอินจิเนียร์-อาวุธ เงินชูกลิ่น ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้รับจ้างออกแบบอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ตามสัญญาจ้างเลขที่ 006/2553 ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2553 วงเงิน 25,800,000 บาท ตามที่คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า

@ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา
@ มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมพิจารณาสำนวนไต่สวนและมีมติดังนี้
1. การกระทำของคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 12
2. การกระทำของนายอุทัย ทองคุ้ม มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
3. การกระทำของกิจการร่วมค้า คาบิเน็ทอินจิเนียร์-อาวุธ เงินชูกลิ่น และนายตระกูล เฮงบำรุง ผู้มีอำนาจลงนามผูกพันกิจการร่วมค้าฯ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.เห็นชอบให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินการทางวินัย ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ(2) และมาตรา 98แล้วแต่กรณีต่อไป
นอกจากนี้ ยังให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหาย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 82 วรรคสองรวมทั้งแจ้งข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับกระทำของกิจการร่วมค้าคาบิเน็ทอินจิเนียร์-อาวุธ เงินชูกลิ่น และนายตระกูล เฮงบำรุง ให้กรมบัญชีกลาง เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจให้เป็นผู้มีลักษณะเป็นการทิ้งงาน ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
สำหรับงานออกแบบก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่กรณีนี้ เกิดขึ้นในช่วงที่ สตง. เริ่มต้นทำโครงการเดิมบนที่ดินของกรมธนารักษ์ เนื้อที่ 15 ไร่ ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองปทุมธานี ก่อนที่จะย้ายการก่อสร้างมาที่ ย่านจัตุจักร และเกิดถล่มพังถล่มลงมาหลังเกิดแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา
ส่วน คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา เคยเป็นอดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และเคยถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีจัดให้มีการสัมมนา ที่ จ.น่าน วันที่ 31 ต.ค. 2546 ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีการสัมมนากันจริง แต่จัดสัมมนาเพื่อให้ข้าราชการที่มีรายชื่อเข้ารับการสัมมนานั้นได้ไปร่วมงานถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ที่จัดขึ้นในวันเดียวกันแล้วให้เบิกค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายต่างๆ ในงบเดียวกัน 294,440 บาท ทำให้ สตง.เสียหาย ช่วงปี 2562 ศาลฏีกา พิพากษาแก้โทษลดโทษเหลือจำคุกเป็นเวลา 9 เดือน ให้รอลงโทษเป็นเวลา 2 ปี
หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม สำนักข่าวอิศรา จะนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา