
“...ประกาศฉบับฯนี้ จะเป็น กัญชาทางการแพทย์ อย่างสมบูรณ์ และ กระทรวง สธ. จะดำเนินมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เพื่อปิดร้านค้าที่กระทำผิดเงื่อนไขในประกาศนี้ และจะมีการพิจารณาการขออนุญาต รายใหม่ ให้ยากขึ้น เนื่องจากกลิ่นและควันของกัญชา ถือเป็นเหตุรำคาญ ประกอบกับมีผู้ร้องเรียนมาเป็นจำนวนมาก ...”
เป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา!
กรณีกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ภายใต้การกำกับดูของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ดึงกัญชากลับไปอยู่ในควบคุมทางกฏหมาย ไม่เสรีอีกต่อไปแล้ว
ในทางการเมืองมีการวิเคราะห์กันว่า การดึงกัญชากลับไปอยู่ในควบคุมทางกฏหมายดังกล่าว เป็นหนึ่งในมาตรการตอบโต้ของ พรรคเพื่อไทย เพื่อเอาคืนพรรคภูมิใจไทย ที่ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลไปเป็นแนวรบแถวหน้าพรรคฝ่ายค้าน
เพราะต้องไม่ลืมว่า นโยบายกัญชาเสรี เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของพรรคภูมิใจไทย ที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งและมีการผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมได้ ตามสโลแกนที่ประกาศไว้ว่า "พูดแล้วทำ"
ณ วันนี้ กัญชาถูกดึงกลับไปอยู่ภายใต้การควบคุมทางกฏหมายไม่เสรีอีกแล้ว "พรรคภูมิใจไทย" ย่อมได้รับผลกระทบต่อเรื่องนี้อย่างมาก
ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร ที่ในเมื่อ กระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การกำกับดูแล ของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สธ. จากพรรคไทย ออกมาเดินเครื่องดึงกัญชากลับไปอยู่ในควบคุมทางกฏหมาย
พรรคภูมิใจไทย จะออกมาเคลื่อนไหวตอบโต้ทันที
ทั้งนี้ หนึ่งในประเด็นสำคัญที่พรรคภูมิใจไทย หยิบยกขึ้นมาตอบโต้เป็นเรื่องแรก คือ รายละเอียดในประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา พ.ศ.2568) ที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ลงนามวันที่ 23 มิ.ย.2568 เป็นการก๊อปปี้ ประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา พ.ศ.2565) และลงประกาศเมื่อวันที่ 11พ.ค.2565 ลงนามโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรมว.สาธารณสุข

@ศุภชัย ใจสมุทร
นายศุภชัย ใจสมุทร แกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกมาเปิดประเด็นเรื่องนี้ว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา พ.ศ.2568) ที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ลงนามวันที่ 23 มิ.ย.2568 พรรคเพื่อไทย (พท.) บอกว่า ประกาศนี้ คือการทำทันที และทำให้กัญชาไม่เสรีอีกต่อไป สิ่งที่จะบอกกคือ เมื่อปี 2565 มีประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา พ.ศ.2565) และลงประกาศเมื่อวันที่ 11พ.ค.2565 ลงชื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข (ในขณะนั้น) ประกาศทั้ง 2 ฉบับนี้ เหมือนกันประมาณ 90%
"แน่นอนว่าของนายสมศักดิ์ มีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง 5% หรือ 10% แต่ที่กำลังจะบอกว่า ที่กล่าวหาว่า พรรคภูมิใจไทยปล่อยให้มีกัญชาเสรี ถามว่าเสรีตรงไหน เมื่อปี 2565 ก็ควบคุมแล้ว ควบคุมเหมือนที่ท่านอ้างว่า วันนี้ท่านควบคุมไม่เสรีแล้ว ก็เป็นข้อความเหมือนกันเป๊ะๆ อยู่ ก็พูดกันตรงนี้ไปๆ มาๆ ผมว่าเป็นความไม่รู้ ความไม่เข้าใจของพรรคเพื่อไทย ว่าจริงๆ สิ่งที่ท่านแอบอ้างนี้ เขาทำมาก่อนท่านแล้ว เขาที่คุณกล่าวหานั่นแหละ ว่าปล่อยให้กัญชาเสรี ไม่มีหรอ"
"พรรคภูมิใจไทย เรามีนโยบายกัญชาทางการแพทย์ ประกาศนี้ก็เป็นประกาศควบคุมเพื่อให้เกิดประโยชน์ในทางการแพทย์ และไม่อนุญาตให้มีการสูบเหมือนประกาศของท่านที่ไม่อนุญาตให้สูบ ประกาศเรื่องการที่ห้ามการจำหน่ายด้วยเครื่องกด ตู้กด ห้ามโฆษณา ห้ามจำหน่ายสมุนไพรควบคุม ในสถานที่ ไม่ว่าวัด สถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา หอพัก สวนสาธารณะ สวนสนุก โรงเรียน เหมือนกันหมด เหมือนกันเป๊ะเลย"
"ท่านลอกของนายอนุทิน ท่านนี่เป็นนักก๊อป เพราะฉะนั้นวันนี้อย่ามาอ้าง แต่ท่านคิดว่าท่านทำตามหน้าที่แล้วก็ไปสิ ควบคุมร้านเถื่อนอะไรทั้งหลาย เราสนับสนุน แต่ไม่ใช่ว่าถึงเวลาแล้วนี่บอกว่าตัวเองทำดีกว่าคนอื่น เขาทำดีมานานแล้ว แต่อย่าใส่ร้ายกัน มันไม่ใช่เป็นวิธีการ สิ่งที่ผมถามคำถาม ท่านจะตอบไม่ได้เลย 2 ปีที่ผ่านมานี้ ถ้าเห็นว่ามีปัญหาทำไมไม่จัดการ วันนี้ท่านยังตอบไม่ได้เลย ท่านก็บอกว่านี่ปัญหาที่เกิดขึ้นมาเพราะภูมิใจไทย แต่ถามว่าเมื่อท่านมีดาบอยู่ในมือ ทำไมไม่ทำ ท่านต้องตอบสังคมให้ได้" นายศุภชัย กล่าว
น่าสนใจว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุขควบคุมกัญชา ในยุคของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร?

@ ตรีชฎา ศรีธาดา
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบเรื่องนี้ ไปยัง น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง ได้รับคำชี้แจงว่า มีเรื่องที่ขอชี้แจงทำความเข้าใจกับสังคมเกี่ยวกับประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม(กัญชา) พ.ศ. 2568 ที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง สธ.ลงนามเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมาและเริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว เป็นการยกเลิกประกาศฉบับเดิมที่มีผลบังคับใช้ก่อนหน้านี้
ประเด็นสำคัญ มีดังนี้
1. ประกาศฉบับเดิม ใครจะซื้อก็ได้ ไม่ต้องมีใบสั่งจ่าย ยกเว้นเด็ก สตรีมีครรภ์ หญิงให้นมบุตรและนักศึกษาไม่ได้กำกับว่า การใช้ต้องใช้ทางการแพทย์ผ่านใบสั่งแพทย์ ทำให้มีการใช้ในเชิงสันทนาการเยอะ ประกาศฉบับใหม่ต่างจากเดิมเข้มงวดมากขึ้น มีเจตนาที่ชัดเจนว่า ต้องการทำให้เข้าถึงกัญชายากขึ้น แม้กระทั่งบุคคลทั่วไปยังไม่สามารถที่จะซื้อกัญชาได้โดยเสรี แต่ต้องผ่านการพิจารณาจากแพทย์ ในการออกใบสั่งแพทย์คนเข้าถึงได้คือทางการแพทย์เท่านั้น
การจำหน่ายกัญชาในร้าน ต้องมีใบสั่งจ่าย จาก แพทย์ ,แพทย์แผนไทย, แพทย์แผนจีน, ทันตแพทย์, เภสัชกร หรือหมอพื้นบ้าน ถ้าดูจากสถานประกอบกิจการที่ขึ้นทะเบียนขออนุญาตใช้กัญชาทั้งหมดประมาณ 1.8 หมื่นแห่ง เป็นสถานพยาบาลเพียง 19 แห่งเท่านั้น ก่อนประกาศใช้ประกาศฉบับใหม่ การเปิดรับฟังความคิดเห็น 25 วัน (22 พฤษภาคม - 15 มิถุนายน 2568) มีผู้แสดงความเห็นกว่า 1.6 หมื่นคน เห็นด้วย 59 % ไม่เห็นด้วย 41 %
2. ประกาศฉบับใหม่ กำหนด ช่อดอกกัญชาที่จะขายคนทั่วไป ช่อดอกกัญชา ที่อนุญาตให้จำหน่ายได้จะต้อง ผ่านการรับรองมาตรฐานการเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยวที่ดี จากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ไม่มีการคุมมาตรฐานแปลงเพาะปลูก แปลงเพาะปลูกเถื่อน ส่งเข้าร้านขาย ช่อดอกไม่ได้คุณภาพ ไม่ได้ใช้ทางการแพทย์ ใช้สูบเชิงสันทนาการมากกว่า
3. ส่วนขั้นตอนที่กัญชาจะถูกนำกลับไปเป็นยาเสพติด โดยต้องแก้ประกาศกระทรวงสธ. เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการป.ป.ส. ที่ผ่านมา สธ. ได้ดำเนินการ คือ เดือนพฤษภาคม 2567 คณะกรรมการยาเสพติดเห็นชอบให้แก้ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 พ.ศ. 2565 ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 และมอบอนุกรรมการยกร่างกฎหมาย
จากนั้น เดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2567 นำร่างประกาศเผยแพร่รับฟังความเห็น มีผู้ร่วมแสดงความเห็นกว่า 1 แสนราย เห็นด้วยไม่น้อยกว่า 80 % เดือนมิถุนายน 2567 กระทรวง สธ. เสนอร่างประกาศเข้าที่ประชุม ป.ป.ส. ปัจจุบันร่างประกาศนี้ถูกส่งกลับจากป.ป.ส. ให้กระทรวง สธ.ยืนยันอีกครั้ง แต่ยังไม่ได้ยืนยันกลับมา
4. การผลักดันร่างพ.ร.บ. กัญชา กัญชง พ.ศ…กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกได้นำร่างพ.ร.บ.เปิกรับฟังความคิดเห็นในช่วงเดือนกันยายน 2567 ปัจจุบัน กระทรวง สธ.เสนอร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวไปที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังไม่มีการบรรจุวาระเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อเห็นชอบหลักการและดำเนินการ ตามกระบวนการที่จะให้สภาพิจารณาเพื่อออกเป็นกฎหมายมาใช้บังคับ

น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา ยังยืนยันด้วยว่า “ประกาศฉบับฯนี้ จะเป็น กัญชาทางการแพทย์ อย่างสมบูรณ์ และ กระทรวง สธ. จะดำเนินมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เพื่อปิดร้านค้าที่กระทำผิดเงื่อนไขในประกาศนี้ และจะมีการพิจารณาการขออนุญาต รายใหม่ ให้ยากขึ้น เนื่องจากกลิ่นและควันของกัญชา ถือเป็นเหตุรำคาญ ประกอบกับมีผู้ร้องเรียนมาเป็นจำนวนมาก อาจต้องได้รับความยินยอมจาก องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นมาด้วย จึงจะสามารถยื่นขออนุญาตได้ หรือหากอยู่ในหมู่บ้านจัดสรร หรืออาคารชุด ต้องมีใบยินยอมจากนิติบุคคลเป็นต้น ในระยะยาว อาจต้องมีผู้ประกอบวิชาชีพที่ ที่สามารถสั่งจ่ายได้ มาปฏิบัติงานประจำร้าน”
พิจารณาจากคำชี้แจงของ น.ส.ตรีชฎา จะพบว่าประกาศทั้ง 2 ฉบับ มีความแตกต่างอยู่ตรงที่แหล่งเพาะปลูกที่ต้องผ่านการรับรองมาตรฐาน จากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กับการขายที่ต้องมีใบสั่งจ่ายแพทย์
ตอกย้ำให้เห็นว่า การออกประกาศใหม่เรื่องกัญชา ไม่ใช่แค่การดึงกลับไปภายใต้กฎหมายเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการดึงกัญชากลับไปอยู่ในอำนาจของกระทรวงสาธารณสุข หรือเบื้องหลังคือพรรคเพื่อไทย นั่นเอง
ศึกการเมืองเรื่องกัญชา "ยกแรก" ดูเหมือน พรรคเพื่อไทย จะได้เปรียบ เพราะมีหลายฝ่ายออกมาให้การสนับสนุน เนื่องจากมุมมองของคนในสังคมไทย ยังเป็นว่า กัญชาเป็นสิ่งเสพติดอยู่
ส่วน จะมี "ยกสอง" ตามมาอีกหรือไม่ พรรคภูมิใจไทย จะหยิบยกประเด็นอะไรขึ้นมาตอบโต้อีก
ติดตามดูกันต่อไปแบบห้ามกะพริบตาโดยเด็ดขาด

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา