“…ดังนั้น เพื่อให้มีรถยนต์ใช้ในราชการกรมการขนส่งทางรางเพียงพอสำหรับใช้สนับสนุนการปฏิบัติงานตามภารกิจทั้งติดต่อราชการภายในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล หรือในต่างจังหวัด ประกอบกับอัตรากำลังเพิ่มขึ้นทุกปีทั้งข้าราชการและพนักงานราชการ ซึ่งมีภาระงานที่ต้องปฏิบัติเป็นจำนวนมากทั้งงานตามนโยบายและงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางรางมีรถยนต์ส่วนกลางไม่เพียงพอสำหรับใช้สนับสนุนการปฏิบัติงานตามภารกิจและมีภารกิจที่ต้องเดินทางเพื่อไปฏิบัติงานหรือติดต่อราชการ...จึงจำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนกลางเพื่อรองรับการปฏิบัติงานตามภารกิจดังกล่าวเพียงพอกับการใช้งานอย่างต่อเนื่อง และไม่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ…”
หมายเหตุ : สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สืบเนื่องจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ที่มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม ในฐานะผู้ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี มีมติอนุมัติให้กรมการขนส่งทางรางเปลี่ยนแปลงรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 รายการค่าเช่ารถยนต์พร้อมพนักงานขับรถยนต์ 5 คัน และรายการค่าเช่ารถยนต์พร้อมพนักงานขับรถยนต์ 3 คัน รายการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณ 5 ปี (ปี 2568-2573) วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 15,105,000 บาท เหลือ 11,025,000 บาท
สำนักข่าวอิศราได้นำเสนอเหตุผลความจำเป็นของการขออนุมัติเปลี่ยนแปลงโครงการ ที่กระทรวงคมนาคม ให้ไว้ในหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ คค (ปคร.) 0901.2/163 ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ที่เข้าสู่ครม.นัดพิเศษ เมื่อวันที่ 3 ก.ค.68 เห็นชอบไปแล้วนั้น

อ่านประกอบ :
- เปิดมติครม.นัดพิเศษ เหตุผล-ความจำเป็น เปลี่ยนแปลงโครงการเช่ารถยนต์ 'ไม่มีคนขับ'
- ครม.นัดพิเศษไฟเขียวปรับค่าเช่ารถกรมการขนส่งทางราง 15 เหลือ 11 ล. ตัดคนขับ-ไปหาเอง
การนำเสนอในครั้งนี้จะพาไปตรวจสอบรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ โครงการเช่ารถยนต์พร้อมพนักงานขับรถยนต์ (รถเก๋ง 5 คัน) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 – 2575 ระยะเวลา 60 เดือน วงเงิน 9,120,000 บาท เกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกโดยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยพิจารณาจากเกณฑ์ราคา ‘ราคารวมต่ำสุด’ โดยผู้เสนอราคาจะต้องเสนอรายละเอียดครบทุกรายการ ตามขอบเขตของงาน (TOR) เหตุไฉนถึงไม่มีผู้เข้าร่วมเสนอราคา
หลักการและเหตุผล
เนื่องด้วยในปึงบประมาณ พ.ศ. 2563 กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้ดำเนินการเช่ารถยนต์พร้อมพนักงานขับรถยนต์ (รถนั่งส่วนกลาง) จำนวน 3 ค้น (ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 – 2568 ระยะเวลา 60 เดือน) สัญญาเลขที่ 6/63/2563 ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 ระยะเวลาการเช่าตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 โดยสัญญาจ้างดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568
ดังนั้น เพื่อให้มีรถยนต์ใช้ในราชการกรมการขนส่งทางรางเพียงพอสำหรับใช้สนับสนุนการปฏิบัติงานตามภารกิจทั้งติดต่อราชการภายในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล หรือในต่างจังหวัด ประกอบกับอัตรากำลังเพิ่มขึ้นทุกปีทั้งข้าราชการและพนักงานราชการ ซึ่งมีภาระงานที่ต้องปฏิบัติเป็นจำนวนมากทั้งงานตามนโยบายและงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางรางมีรถยนต์ส่วนกลางไม่เพียงพอสำหรับใช้สนับสนุนการปฏิบัติงานตามภารกิจและมีภารกิจที่ต้องเดินทางเพื่อไปฏิบัติงานหรือติดต่อราชการทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล หรือในต่างจังหวัด จึงจำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนกลางเพื่อรองรับการปฏิบัติงานตามภารกิจดังกล่าวเพียงพอกับการใช้งานอย่างต่อเนื่อง และไม่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ
จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการเช่ารถยนต์ราชการส่วนกลาง จำนวน 5 คัน โดยมีงบประมาณผูกพันประจำปี พ.ศ. 2568 - 2573 เป็นค่าเช่ารถยนต์พร้อมพนักงานขับรถยนต์ (รถเก๋ง 5 คัน) (ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 - 2573 ระยะเวลา 60 เดือน) ในวงเงิน 9,120,000 บาท (เก้าล้านหนึ่งแสนสองหมื่นบาทถ้วน)
วัตถุประสงค์
เพื่อเช่ารถยนต์พร้อมพนักงานขับรถยนต์ (รถยนต์ไฟฟ้า) (รถเก๋ง 5 คัน) และใช้ในราชการประจำส่วนกลางในการปฏิบัติงานหรือติดต่อราชการทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล หรือในต่างจังหวัดและทดแทนรถนั่งส่วนกลาง ที่จะสิ้นสุดสัญญาเช่าในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2568
@ เปิดสเปครถยนต์เช่าพร้อมคนขับ
รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของรถยนต์ไฟฟ้า ประเภทแบตเตอรี่ (BEV) จำนวน 5 คน
สมรรถนะ
-
ขนาดความจุของแบตเตอรี่มากกว่า 50 กิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh)
-
กำลังมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 150 กิโลวัตต์
-
สามารถวิ่งได้ไม่น้อยกว่า 380 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง
-
แรงบิดสูงสุดไม่น้อยกว่า 220 นิวตันเมตร
ลักษณะทั่วไป
-
รถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle,BEV) สีขาว
-
เป็นรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ไม่เคยใช้งานมาก่อน และมีสภาพพร้อมใช้งานได้ทันที
-
พวงมาลัยติดตั้งด้านขวา และมีระบบช่วยผ่อนแรง (พวงมาลัย Power)
-
สามารถชาร์จไฟได้ทั้งแบบปกติ (Normal Charge) และแบบเร็ว (Quick Charge)
-
รถยนต์ไฟฟ้านั่ง 4 ประตู หรือ 5 ประตู
-
ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานภายนอกตามที่กฎหมายกำหนด มีกระจกมองข้างซ้าย-ขวา กระจกหน้าต่างระบบไฟฟ้า และที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้า 1 คู่
-
ติดตั้งระบบปรับอากาศ ตามมาตรฐานจากโรงงานผู้ผลิต
-
ติดตั้งเครื่องเสียงจอสัมผัสรองรับ Bluetooth หรือ USB ที่มาพร้อมกับระบบ Apple Carplay และ Android Auto พร้อมลำโพงด้านหน้าและห้องโดยสารด้านหลัง
-
ติดตั้งกล้องด้านหลังทำงานอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลังและแสดงภาพที่จอบริเวณคอนโซลหน้า
-
ฟิล์มเซรามิกกรองแสดงกระจกเต็มบานรอบคัน ชนิดกันความร้อนและลดรังสียูวีระดับความเข้ม กระจกด้านหน้าไม่น้อยกว่า 40 % กระจกด้านข้างรวมถึงกระจกด้านหลังไม่น้อยกว่า 60 % และกระจกด้านบนหลังคาไม่น้อยกว่า 80 % (ถ้ามี)
ระบบห้ามล้อ
-
ล้อหน้า – หลังแบบดิสก์เบรก
-
มีระบบป้องกันล้อล็อค (ABS)
ระบบความปลอดภัย
-
ถุงลมนิรภัยอย่างน้อยคู่หน้า
-
ติดตั้งเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ตามมาตรฐานจากโรงงานผู้ผลิต
-
ประตูทุกบานปิดล็อคด้วยระบบเซ็นทรัลล็อค (Central Lock)
-
มีค้อนทุบกระจกที่มีปลายด้ามเป็นมีดสำหรับตัดสายเข็มขัดนิรภัยอย่างน้อย 1 อัน
อุปกรณ์
เครื่องอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าแบบใช้สาย ชนิดอัดประจุไฟฟ้าแบบปกติด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Normal Charger) พร้อมอุปกรณ์ตู้เหล็กกันน้ำพร้อมขาตั้งมีหลังคาครอบและกุญแจล็อกได้ จำนวน 1 เครื่องต่อรถยนต์เช่า จำนวน 1 คัน มิเตอร์ไฟ จำนวน 1 ตัว และระบบป้องกันกระแสไฟฟ้า (Protection System) พร้อมติดตั้งให้กับกรมการขนส่งทางราง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
โดยอุปกรณ์ที่จะนำมาติดตั้งต้องเป็นไปตามมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับบริภัณฑ์จ่ายไฟยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการอัดประจุไฟฟ้าสำหรับประเภทบ้านอยู่อาศัย อาคารชุด อาคารสำนักงาน และลักษณะที่คล้ายกันของการไฟฟ้านครหลวง หรือมาตรฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และผู้ให้เช่าจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันกำหนดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) คุณสมบัติเฉพาะของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า (AC Normal Charger) รองรับ Single Phase up to 7.4 kw/32A หรือ Three Phase up to 22 kw/32A
อื่นๆ
-
มีเครื่องมือประจำรถ จำนวน 1 ชุด ตามมาตรฐานจากโรงงาน
-
มีสัญญาณแตร ไฟส่องสว่าง และไฟสัญญาณจราจรครบถ้วนถูกต้องตามกฎหมาย
-
มีกล้องบันทึกหน้าและหลังติดตั้งภายในห้องโดยสาร พร้อมการ์ดหน่วยความจำขนาดไม่น้อยกว่า 32 GB
ผู้ให้เช่าเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ค่าภาษีรถประจำปี ค่าเบี้ยประกันภัย ค่าตรวจสภาพรถยนต์ และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตลอดอายุสัญญา
ในกรณีที่กรมการขนส่งทางรางได้สำรองจ่ายค่าใช้จ่ายข้างต้น (บำรุงรักษา ภาษีประจำปี เบี้ยประกันภัย ฯลฯ) และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่า เช่น ค่าปะยาง ค่าเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟส่องสว่าง ค่าจัดทำป้ายทะเบียน ค่าอะไหล่สิ้นเปลืองหรือค่าซ่อมแซมรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) เช่าอื่น ๆ เพื่อให้ใช้งานได้ตามปกติและถูกต้องตามกฎหมาย ฯลฯ ผู้ให้เช่าจะต้องคืนเงินสำรองจ่ายดังกล่าวให้กรมการขนส่งทางราง ภายใน 3 วันทำการ นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากกรมการขนส่งทางราง
ผู้ให้เช่าต้องส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) จำนวน 5 คัน พร้อมส่งมอบส่งมอบเอกสารเกี่ยวกับทะเบียนรถยนต์ การประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น คู่มือการใช้ประจำรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) เป็นต้น
รถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่าต้องมีอุปกรณ์ดับเพลิง และอุปกรณ์อุดการรั่วซึมของยางชั่วคราว โดยยางรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ต้องเป็นยางเรเดียลที่ได้มาตรฐานทั้ง 4 เส้น หรือรองรับรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตอรี่ (BEV) มีลายดอกยางชนิดเดียวกัน และเมื่อผ่านการใช้งานทุก ๆ ระยะทาง 40,000 กิโลเมตร หรือทุก ๆ 2 ปี (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งจะถึงก่อน) นับแต่วันส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) หรือยางเส้นใดเส้นหนึ่งมีสภาพความลึกของดอกยางต่ำกว่า 3 มิลลิเมตร หรือหากกรมการขนส่งทางรางเห็นว่าสภาพยางไม่ปลอดภัยในการใช้งาน ผู้ให้เช่าต้องเปลี่ยนยางรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี (BEV) ที่เช่าให้อยู่ในสภาพใหม่และมีอายุไม่เกิน 6 เดือน นับจากวันผลิต โดยห้ามใช้ยางหล่อดอก และต้องเป็นยี่ห้อเดิมที่มีคุณภาพเทียบเท่าหรือสูงกว่า
ในวันส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่าครั้งแรกตามสัญญาผู้ให้เช่าต้องส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่มีค่าสุขภาพของแบตเตอร์ (State of Health , SOH) 100 % และมีค่าระดับพลังงานที่เหลือยู่ในแบตเตอรี่ (State of Charge, SOC) ไม่ต่ำกว่า 80 %
กรณีนำรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่าไปบำรุงรักษา ตรวจสภาพหรือซ่อมแซม และเมื่อนำรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่าคันดังกล่าวมาส่งคืนกรมการขนส่งทางรางตามสถานที่ที่กรมการขนส่งทางรางกำหนดเรียบร้อยพร้อมใช้งานได้ ผู้ให้เช่าต้องส่งมอบรถที่มีพลังงานไฟฟ้าให้อยู่ในระดับไม่น้อยกว่าระดับเดิมก่อนที่จะนำไปบำรุงรักษา ตรวจสภาพ หรือช่อมแชม
รถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่าทุกคันจะต้องติดตราสัญลักษณ์และชื่อของกรมการขนส่งทางราง ตามแบบที่กรมการขนส่งทางรางกำหนด หากมีการส่งคืนรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่าไม่ว่ากรณีใด ๆ ผู้ให้เช่าจะต้องทำการลบตราสัญลักษณ์และชื่อของกรมการขนส่งทางรางออกจากตัวรถทันที
ความบกพร่องในรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) เช่า
1.หากรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) คันที่เช่าไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ผู้ให้เช่าจะต้องดำเนินการนำรถยนต์ไฟฟ้าคันอื่นที่มีคุณลักษณะเฉพาะไม่ต่ำกว่าที่กรมการขนส่งทางรางกำหนดมาทดแทนโดยเร็วที่สุดนับจากวันที่ได้รับแจ้ง
2.ผู้ให้เช่ามีหน้าที่ตรวจสภาพ บำรุงรักษา หรือซ่อมแชมรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ตามที่คู่มือการใช้ประจำรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) กำหนด รวมทั้งในกรณีชำรุด หรือเกิดอุบัติเหตุ หรือมีสภาพที่ กรมการขนส่งทางรางเห็นว่าไม่ปลอดภัยต่อการใช้งาน เมื่อได้รับแจ้งจากกรมการขนส่งทางราง โดยผู้ให้เช่าจะต้องเป็นผู้มารับรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่าจากสถานที่ ที่กรมการขนส่งทางรางกำหนดทันที เพื่อนำไปดำเนินการให้แล้วเสร็จ
หากใช้ระยะเวลาดำเนินการเกินกว่า 1 วัน ผู้ให้เช่าจะต้องจัดหารถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) หรือจัดหารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในมาทดแทน ที่มีขนาดและสมรรถนะเช่นเดียวกับรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่า และมีสภาพที่เทียบเท่าหรือดีกว่า มาให้กรมการขนส่งทางรางใช้ในระหว่างผู้ให้เช่านำรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ไปตรวจสภาพ บำรุงรักษา หรือซ่อมแซม
โดยในส่วนของค่าน้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในที่จัดหามาทดแทนให้กรมการขนส่งทางรางนั้น ผู้ให้เช่าเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด จนกว่ารถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่กรมขนส่งทางรางเช่าจะนำไปตรวจสภาพ บำรุงรักษา หรือซ่อมแซมแล้วเสร็จ และผู้ให้เช่านำรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่าคันดังกล่าวมาส่งคืนกรมการขนส่งทางราง ตามสถานที่ ที่กรมการขนส่งทางรางกำหนด
หากผู้ให้เช่าละเลยไม่จัดหารถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) หรือรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในมาทดแทนระหว่างบำรุงรักษาตรวจสภาพ หรือซ่อมแซม กรมการขนส่งทางรางมีสิทธิที่จะเช่ารถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) หรือรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในจากผู้ให้เช่ารายอื่นมาใช้งานแทน โดยผู้ให้เช่าจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจนกว่าผู้ให้เช่าจะนำรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) มาทดแทนและส่งมอบให้กรมขนส่งทางรางหรือจนกว่ารถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) คันที่เช่า ที่นำไปตรวจสภาพ บำรุงรักษา หรือซ่อมแชมดำเนินการแล้วเสร็จ และผู้ให้เช่าได้นำรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) คันที่เช่าดังกล่าวมาส่งคืนกรมขนส่งทางรางตามสถานที่ ที่กรมการขนส่งทางรางกำหนด ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางรางมีสิทธิหักค่าใช้จ่ายหรือค่าเสียหายใด ๆ จากค่าเช่าหรือหลักประกันอื่นได้
3.ในการตรวจสภาพ บำรุงรักษา หรือซ่อมแซม ผู้ให้เช่าต้องนำรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่าเข้าตรวจสภาพ บำรุงรักษา หรือซ่อมแซมที่ศูนย์บริการได้มาตรฐานตามที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่ให้เช่ากำหนดเท่านั้น เว้นแต่กรณีฉุกเฉิน
4.ผู้ให้เช่าต้องเตรียมพร้อมในกรณีรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) เกิดเหตุฉุกเฉินขณะใช้งานทั่วราชอาณาจักรตลอด 24 ชั่วโมง หรือมีรถทดแทนในกรณีที่กรมขนส่งทางราง อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจจนแล้วเสร็จ หรือตามที่กรมการขนส่งทางรางกำหนด
-
มีช่างไปดำเนินการแก้ไขเหตุฉุกเฉินทันทีที่เกิดเหตุ
-
มีหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินของผู้ให้เช่าติดต่อได้ตลอดเวลาติดไว้ภายในรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่าที่มุมขวาบนของกระจกบังลมหน้าอย่างชัดเจน
@ ซ่อมศูนย์-ประกันภัยชั้นหนึ่ง
5.การดูแลและบำรุงรักษาเครื่องอัดประจุไฟฟ้า (AC Normal Charger)
-
ในระหว่างระยะเวลาเช่า ผู้ให้เช่าต้องเข้ามาทำการตรวจสอบการทำงานและอุปกรณ์ของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า (AC Normal Charger) ทุก 6 (หก) เดือน ณ สถานที่ติดตั้งใช้งาน
-
กรณีเครื่องอัดประจุไฟฟ้า (AC Normal Charger) ที่ชำรุดหรือบกพร่องจากการใช้งานปกติ ผู้ให้เช่าจะต้องดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขทันทีภายในไม่เกิน 24 ชั่วโมง หลังจากที่รับแจ้งเหตุจากกรมการขนส่งทางราง และทำการซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด นับจากวันที่กรมการขนส่งทางรางแจ้ง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ หากผู้ให้เช่าดำเนินการซ่อมแซมหรือซ่อมแซมไม่แล้วเสร็จภายใน 7 วันทำการ ผู้ให้เช่าเป็นผู้รับผิดชอบในการหาสถานีที่ชาร์จประจุไฟฟ้าและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
-
การรื้อถอนเครื่องอัดประจุไฟฟ้า (AC Normal Charger) กรณีหมดสัญญาเช่ารถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ผู้ให้เช่าต้องรื้อถอนเครื่องอัดประจุไฟฟ้า (AC Normal Charger) ออกจากพื้นที่ โดยเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในดำเนินการทั้งหมด และต้องปรับปรุงสภาพพื้นที่ให้เหมือนเดิมสมบูรณ์ภายใน 30 วัน
6.ผู้ให้เช่าต้องตรวจสภาพภายนอกและภายในรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ให้อยู่ในสภาพดี สะอาด ไม่มีกลิ่น พร้อมให้บริการ โดยผู้ให้เช่าเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลืองในการดูแลบำรุงรักษาประจำวัน ได้แก่ น้ำยาล้างรถ น้ำยาขัดคราบสี น้ำยาขัดเบาะ และน้ำยาเช็ดกระจก เป็นต้นให้เพียงพอและสามารถใช้ประโยชน์ได้ตลอดระยะเวลาเช่า
ความรับผิดชอบต่อรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่า
1.ผู้ให้เช่าจะต้องทำประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่าประเภทชั้นหนึ่งและทำประกันภัยตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถด้วยค่าใช้จ่ายของผู้ให้เช่า โดยทำประกันภัยกับบริษัทประกันภัยซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และต้องมอบสำเนากรมธรรรม์ประกันภัยและหลักฐานการเอาประกันภัยดังกล่าวให้แก่กรมขนการขนส่งทางราง ในวันส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่าครั้งแรกตามสัญญา และทุกครั้งที่มีการต่ออายุสัญญาประกันภัยหรือทำสัญญาประกันภัยใหม่
2.ความรับผิดชอบต่อการบาดเจ็บและสูญเสียชีวิตของบุคคลภายนอก ภายในวงเงิน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) ต่อคน และไม่เกิน 10,000,000 บาท (สิบล้านบาทถ้วน) ต่อครั้ง ความรับผิดชอบต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ภายในวงเงิน 5,000,000 บาท (ห้าล้านบาทถ้วน) ต่อครั้ง การประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และค่ารักษาพยาบาลและสูญเสียชีวิตสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) คันที่เอาประกันภัย ภายในวงเงินไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) ต่อคน การประกันตัวผู้ขับขี่ ภายในวงเงินไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท (สองแสนบาทถ้วน) ต่อครั้ง
3.การจดทะเบียนและเสียภาษีประจำปีของรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่า ผู้ให้เช่าจะต้องจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่ากับกรมการขนส่งทางบกและเสียภาษีประจำปีตามกฎหมายด้วยค่าใช้จ่ายของผู้ให้เช่าให้แล้วเสร็จก่อนวันกำหนดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่าตามสัญญา รวมทั้งต้องเสียภาษีประจำปีสำหรับปีต่อ ๆ ไป ภายในกำหนดเวลาทุกปี
@ พนักงานขับรถปฏิบัติงาน จ.-ศ 8 โมงเช้า-5โมงเย็น
ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ให้เช่า
1.ผู้ให้เช่าต้องจัดหาพนักงานขับรถยนต์ภายใต้เงื่อนไขและความยินยอมของผู้เช่า จำนวน 5 ราย ดังนี้
- สัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี และไม่เกิน 55 ปี ณ วันเริ่มปฏิบัติงาน
- มีวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
- มีใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลตลอดชีพ หรือมีใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 5 ปี และยังไม่หมดอายุระหว่างปฏิบัติงานขับรถยนต์ที่กรมการขนส่งทางราง หากหมดอายุระหว่างปฏิบัติงานขับรถยนต์ที่กรมการขนส่งทางรางต้องไปดำเนินการต่อใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลทันที
- เป็นผู้ที่รู้จักเส้นทางในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และต่างจังหวัดเป็นอย่างดี
- เป็นผู้ตรงต่อเวลา และรักษาระเบียบวินัย มีความประพฤติดี กิริยาวาจาสุภาพเรียบร้อย รักษาความสะอาด
- มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่พิการทางสมองหรือมีจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบหรือเป็นโรคติดต่อร้ายแรง
- ไม่เป็นผู้ติดสิ่งเสพติดให้โทษตามาฎหมายกำหนด หรือโรคพิษสุราเรื้อรัง
- พนักงานขับรถต้องสามารถปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ วันหยุดราชการ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และสามารถปฏิบัติงานต่างจังหวัดรวมทั้งพักค้างคืนต่างจังหวัดได้ โดยไม่มีข้อยกเว้น
- ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เพราะกระทำความผิดทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
- มีความรู้พื้นฐานด้านรถยนต์ไฟฟ้า การบำรุงรักษา และสามารถตรวจสอบระบบต่างๆ ของรถยนต์ไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้อย่างปลอดภัย
2.ผู้ให้เช่าจะต้องส่งบัญชีรายชื่อพนักงานขับรถยนต์ จำนวน 5 ราย โดยมีรายละเอียด ประกอบด้วย
-
ชื่อ – นามสกุล
-
ประวัติการศึกษา
-
สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
-
สำเนาทะเบียนบ้าน
-
สำเนาใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลตลอดชีพ หรือสำเนาใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 5 ปี และยังไม่หมดอายุระหว่างปฏิบัติงานขับรถยนต์ที่กรมการขนส่งทางราง
-
ใบรับรองแพทย์ จากโรงพยาบาลของรัฐหรือโรงพยาบาลเอกชน
-
พนักงานขับรถยนต์ต้องรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ
-
หนังสือตรวจประวัติอาชญากรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากพบประวัติต้องโทษคดีอาญาต้องมีหนังสือรับรองคดีถึงที่สุด
ทั้งนี้ ผู้ให้เช่าต้องส่งบัญชีรายชื่อและรายละเอียดเอกสารข้างต้นให้กับผู้ว่าจ้างก่อนวันเริ่มทำงางานอย่างน้อย 7 วัน
3.ข้อบังคับและระเบียบวินัยการปฏิบัติงานของพนักงานขับรถยนต์ พนักงานขับรถยนต์ต้องอยู่ภายใต้ข้อบังคับและระเบียบวินัย ดังต่อไปนี้
วันเวลาในการปฏิบัติงาน
-
วันปฏิบัติงานปกติ คือ วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ปฏิบัติงานเวลา 08.00 - 17.00 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และพนักงานขับรถยนต์ทุกคนจะต้องลงลายมือชื่อเข้า - ออกงานทุกครั้ง หรือตามที่กรมการขนส่งทางรางกำหนด เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการเบิกจ่ายเงินค่าเช่าตามสัญญา โดยพนักงานขับรถยนต์ทุกคนจะต้องมาถึงสถานที่ปฏิบัติงานและลงเวลาปฏิบัติงาน ณ กรมการขนส่งทางราง อาคาร ณ ถลาง ไม่เกินเวลา 08.00 น. เพื่อเตรียมรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ และลงเวลากลับเวลา 17.00 น. เป็นต้นไปของทุกวันปฏิบัติงานปกติ หรือตามแบบที่กรมการขนส่งทางรางกำหนด
-
วันหยุดประจำสัปดาห์ คือ วันเสาร์และวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เป็นไปตามที่ทางราชการกำหนด และให้ความหมายรวมถึงวันหยุดราชการประจำปีหรือวันหยุดพิเศษอื่น ๆ ที่คณะรัฐมนตรีกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการนอกเหนือจากวันหยุดประจำปี (เป็นไปตามภารกิจที่กรมการขนส่งทางรางกำหนด)
การลงชื่อและเวลาปฏิบัติงาน
-
ผู้ให้เช่าต้องจัดเตรียมเครื่องลงเวลาปฏิบัติงานหรือวิธีการอื่นใดที่สามารถใช้เป็นหลักฐานการเข้าปฏิบัติงาน’ โดยพนักงานขับรถยนต์ต้องลงเวลามาปฏิบัติงานและลงเวลาเลิกงานทุกวันที่มาปฏิบัติงาน ณ กรมการขนส่งทางรางหรือสถานที่อื่นที่กรมการขนส่งทางรางกำหนด ทั้งนี้ วิธีการลงเวลาเข้าออกการปฏิบัติงานของพนักงานขับรถยนต์ให้เป็นไปตามที่กรมการขนส่งทางรางกำหนดไว้
-
กรณีพนักงานขับรถยนต์เจ็บป่วยกระทันหัน หรือมีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถปฏิบัติงานดังกล่าวได้ ให้พนักงานขับรถยนต์แจ้งกรมการขนส่งทางราง หรือผู้ที่กรมการขนส่งทางรางมอบหมาย ทุกครั้งที่มีเหตุจำเป็นดังกล่าว
วินัยในการปฏิบัติงาน
ข้อปฏิบัติของพนักงานขับรถยนต์
-
ในขณะปฏิบัติหน้าที่ต้องแต่งกายในชุดสุภาพเรียบร้อย
-
เคารพและปฏิบัติตามระเบียบวินัย ข้อบังคับ ข้อปฏิบัติ หรือไม่กระทำการอันเป็นข้อต้องห้ามปฏิบัติที่กรมการขนส่งทางรางกำหนดไว้โดยเคร่งครัด
-
เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของกรมการขนส่งทางราง หรือผู้ที่กรมการขนส่งทางรางมอบหมาย
-
ปฏิบัติตามกฎจราจรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
-
พนักงานขับรถยนต์ต้องประจำอยู่ ณ กรมการขนส่งทางรางหรือสถานที่อื่นที่กรมการขนส่งทางรางกำหนดเท่านั้น
-
พนักงานขับรถยนต์ทุกคนต้องมีเครื่องมือสื่อสาร เพื่อใช้ในการติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางรางระหว่างปฏิบัติงาน
-
พนักงานขับรถยนต์จะต้องรักษาและทำความสะอาด (ชำระล้าง) รถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอทั้งภายในและภายนอก โดยค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ทำความสะอาดรถยนต์ต้องอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ให้เช่า
-
พนักงานขับรถยนต์ต้องปฏิบัติงานด้วยความตั้งใจ ซื่อสัตย์ สุจริต และตรงต้องตรงต่อเวลา
-
พนักงานขับรถยนต์ต้องนำรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) เข้าช่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ณ เครื่องอัดประจุไฟฟ้า (AC Normal Charger) ทุกวัน ก่อนเวลา 17.00 น. หรือ หลังปฏิบัติงานแล้วเสร็จ
ข้อห้ามปฏิบัติของพนักงานขับรถยนต์
-
ไม่แจ้งหรือรายงานเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทำงาน
-
ไม่ละทิ้งหน้าที่ ขาดงาน หรือหยุดงานโดยไม่มีเหตุอันควร
-
ไม่มาปฏิบัติงานสายหรือเกินกว่าเวลามาปฏิบัติงานตามที่กำหนด
-
ไม่จงใจหรือเจตนาปฏิบัติงานให้ล่าช้า
-
ไม่ปล่อยให้เกิดความสูญเสียแก่เครื่องมือ เครื่องใช้ หรือทรัพย์สินอื่นใดของกรมการขนส่งทางราง
-
ไม่เปิดเผยข้อความใด ๆ อันเป็นเรื่องปกปิดหรือความลับเกี่ยวกับการดำเนินงานของกรมการขนส่งทางราง
-
ไม่ประพฤติในทางที่จะนำความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาสู่พนักงานขับรถยนต์
-
ไม่แสดงกริยาวาจาไม่สุภาพต่อข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกรมการขนส่งทางราง หรือผู้มาติดต่อราชการ
-
ไม่กระทำหรือสนับสนุนให้มีการทะเลาะวิวาท หรือทำร้ายร่างกายผู้ร่วมงานและผู้อื่น
-
ไม่แพร่ข่าวอกุศลใสร้ายผู้อื่น แอบอ้างให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ หรือก่อให้เกิดความแตกแยกความสามัคคีในระหว่างพนักงานขับรถยนต์ด้วยกัน
-
ไม่เสพสิ่งเสพติด สุรา หรือของมึนเมาระหว่างเวลาปฏิบัติงานและไม่ปฏิบัติงานในสภาพมึนเมา
-
ไม่เป็นผู้กระทำหรือให้ความร่วมมือในการโจรกรรม หรือทำลายทรัพย์สินของกรมการขนส่งทางราง หรือกระทำการอย่างใดอันเป็นผลให้กรมการขนส่งทางรางได้รับความเสียหาย
-
ห้ามพนักงานขับรถยนต์ผู้ใดลงเวลาแทนพนักงานขับรถยนต์ผู้อื่น หรือแก้ไขเพิ่มเติมแบบฟอร์มลงเวลาปฏิบัติงาน อันทำให้พนักงานขับรถยนต์ผู้อื่นได้รับประโยชน์หรือเสียประโยชน์
-
ห้ามพนักงานขับรถยนต์นำรถยนต์ของกรมการขนส่งทางราง ไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว และห้ามนำรถยนต์ออกจากลานจอดรถหรือสถานที่จอดที่จอดที่กรมการขนส่งทางรางกำหนดไว้โดยไม่มีใบขออนุญาตใช้รถโดยเด็ดขาด
-
ห้ามนำเครื่องมือ เครื่องใช้ หรือทรัพย์สินอื่นใดของกรมการขนส่งทางรางไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว เว้นแต่จะได้รับอนุญาตหรืออนุมัติจากกรมการขนส่งทางราง หรือผู้ที่กรมการขนส่งทางรางมอบหมาย
-
ห้ามนำสิ่งเสพติด สุรา ของมึนมา และของผิดกฎหมาย เข้ามาในบริเวณสถานที่ปฏิบัติงานทั้งในและนอกเวลาปฏิบัติงาน
-
ห้ามเล่นการพนันทุกชนิดโนบริเวณสถานที่ปฏิบัติงานทั้งในและนอกเวลาปฏิบัติงาน
-
ห้ามพกพาอาวุธทุกชนิดในบริเวณสถานที่ปฏิบัติงานทั้งในและนอกเวลาปฏิบัติงาน
ผู้ให้เช่าจะต้องนำรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เข้ามาปฏิบัติงานตามคำสั่งของกรมการขนส่งทางราง และจอดเก็บไว้ ณ อาคาร ณ ถลาง หรือตามที่กรมการขนส่งทางรางเห็นชอบตลอดอายุของสัญญา โดยกรมการขนส่งทางรางเป็นเพียงผู้ให้สถานที่จอดรถเท่านั้นและไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น
ผู้ให้เช่ายินยอมให้เจ้าหน้าที่ของกรมการขนส่งทางรางที่มีใบอนุญาตขับรถยนต์ ขับรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่าเพื่อปฏิบัติงาน ตามภารกิจของกรมการขนส่งทางราง ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลหรือในต่างจังหวัดได้โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ
@ ล่วงเวลา ‘เศษชั่วโมง’ ปัดทิ้ง
เงื่อนไขการปฏิบัติงานและค่าตอบแทนของพนักงานขับรถยนต์
1.การปฏิบัติงานในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
หากมีความจำเป็นต้องให้พนักงานขับรถยนต์ปฏิบัติงานนอกเวลา ซึ่งเป็นกรณีที่ทำงานเฉพาะกิจที่กรมการขนส่งทางราง มอบหมาย กรมการขนส่งทางรางจะจ่ายค่าล่วงเวลาให้กับพนักงานขับรถยนต์โดยตรง โดยพนักงานขับรถยนต์ต้องทำงานไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง (เศษชั่วโมงให้ปัดทิ้ง) และต้องเป็นเหตุผลสมควรที่กรมการขนส่งทางรางเห็นชอบให้ดำเนินการเป็นคราว ๆ ไป รายละเอียด ดังนี้
1.ค่าล่วงเวลาในวันปฏิบัติงานปกติ (หลัง 17.00 น.) ชั่วโมงละ 50 บาท/คน หากทำงานไม่เต็มชั่วโมงไม่คิดคำนวณในการเบิก และเศษของชั่วโมงให้ปัดทิ้ง
2.ค่าล่วงเวลาในวันหยุดประจำสัปดาห์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันหยุดราชการประจำปีหรือวันหยุดพิเศษอื่น ๆ ที่คณะรัฐมนตรีกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการ นอกเหนือจากวันหยุดประจำปีให้คิดวันละไม่เกิน 420 บาท/คน โดยต้องปฏิบัติงานเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 7 ชั่วโมง ไม่รวมเวลาหยุดพัก หากปฏิบัติงานไม่ครบ 7 ชั่วโมงให้คิดอัตราชั่วโมงละ 60 บาท/คน หากทำงานไม่เต็มชั่วโมงไม่คิดคำนวณในการเบิก และเศษของชั่วโมงให้ปัดทิ้ง
กรณีไม่ต้องค้างคืน
1. ในวันปฏิบัติงานปกติกรมการขนส่งทางรางจะจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง ดังนี้
-
กรณีปฏิบัติงานตั้งแต่ 11 ชั่วโมงขึ้นไป กรมการขนส่งทางรางจะจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง 240 บาท/คน/วัน ไม่รวมเวลาหยุดพัก หากทำงาน ไม่เต็มชั่วโมงไม่คิดคำนวณในการเบิกและเศษของชั่วโมงให้ปัดทิ้ง
-
กรณีปฏิบัติงานตั้งแต่ 5 ชั่วโมง - 10 ชั่วโมง 59 นาที กรมการขนส่งทางรางจะจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง 120 บาท/คน/วัน ไม่รวมเวลาหยุดพัก หากทำงานไม่เต็มชั่วโมงไม่คิดคำนวณในการเบิก และเศษของชั่วโมงให้ปัดทิ้ง
2.ในวันหยุดราชการประจำสัปดาห์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันหยุดราชการประจำปีหรือวันหยุดพิเศษอื่น ๆ ที่คณะรัฐมนตรีกำหนดให้เป็นวันหยุดราชการนอกเหนือจากวันหยุดประจำปี กรมการขนส่งทางรางจะจ่ายค่าตอบแทนให้ชั่วโมงละ 60 บาท/คน แต่ไม่เกิน 660 บาท/วัน ไม่รวมเวลาหยุดพัก หากทำงานไม่เต็มชั่วโมงไม่คิดคำนวณในการเบิก และเศษของชั่วโมงให้ปัดทิ้ง
กรณีจำเป็นต้องค้างคืน
1.หาก กรมการขนส่งทางราง ไม่ได้จัดที่พักให้พนักงานขับรถยนต์ กรมการขนส่งทางรางจะจ่ายค่าจ้างเหมารวมค่าที่พักให้พนักงานขับรถยนต์ในอัตรา 1,500 บาท/คน/คืน การปฏิบัติงาน 2 วัน 1 คืน ให้ถือเป็น 1 คืน
2.หากกรมการขนส่งทางรางจัดที่พักให้พนักงานขับรถยนต์ กรมการขนส่งทางรางจะจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงให้โดยคิดในอัตราเช่นเดียวกับกรณีไม่ต้องค้างคืน
ค่าเช่าและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
1. กรมการขนส่งทางราง จะจ่ายค่าเข่ารถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) พร้อมพนักงานขับรถยนต์เป็นรายเดือน หลังจากที่คณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ตรวจรับงานบริการในแต่ละเดือนเรียบร้อยแล้วโดยไม่จำกัดระยะทาง
2.ค่าจ้างพนักงานขับรถยนต์ ค่าซ่อมบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ค่าซ่อมแซมรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ค่าภาษีรถประจำปี ค่าธรรมเนียม ค่าเบี้ยประกันภัยและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่าและพนักงานขับรถยนต์เป็นภาระของผู้ให้เช่าทั้งสิ้น
ข้อสงวนสิทธิ์
1.ตลอดระยะเวลาการเช่าให้ถือค่าเช่าตามอัตราที่ตกลง โดยมิให้มีการขอปรับราคาค่าเช่าไม่ว่ากรณีใดๆ
2.กรมการขนส่งทางราง มีสิทธิในการเปลี่ยนตัวพนักงานขับรถยนต์คนใดคนหนึ่งหรือทั้งหมดได้ทันทีตลอดระยะเวลาของสัญญา หากพนักงานขับรถยนต์ปฏิบัติตนไม่เหมาะสมต่อการปฏิบัติงาน หรือให้บริการไม่เป็นที่พึงพอใจต่อผู้ใช้บริการ หรือไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้บริการตามที่กรมการขนส่งทางรางกำหนด
@ ส่งมอบล่าช้า ไม่บอกเลิกสัญญา ปรับ 0.10% จนกว่าจะรับมอบ
อัตราค่าปรับ
1.ในกรณีที่ผู้ให้เช่าส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) พร้อมพนักงานขับรถยนต์ที่เช่าล่วงเลยกำหนดส่งมอบ แต่ กรมการขนส่งทางรางมิได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ให้เช่าจะต้องชำระค่าปรับให้กรมการขนส่งทางรางเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.10 ของราคารวมค่าเช่ารถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) พร้อมพนักงานขับรถยนต์สำหรับคันที่ยังไม่ได้ส่งมอบตามสัญญา นับถัดจากวันครบกำหนดส่งมอบตามสัญญาจนถึงวันที่ผู้ให้เช่าได้นำรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) พร้อมพนักงานขับรถยนต์ที่เช่ามาส่งมอบให้กรมการขนส่งทางราง
2.ในกรณีที่รถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่าคันใดคันหนึ่งขัดข้องใช้งานไม่ได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเกิดจากเหตุใดก็ตาม และผู้ให้เช่าไม่สามารถจัดหารถยนต์ไฟฟ้าทดแทนได้ภายใน 24 ชั่วโมง หรือไม่ตรงตามที่กำหนดไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ผู้ให้เช่าจะต้องชำระค่าปรับให้กรมการขนส่งทางรางเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.10 ของราคารวมค่าเช่ารถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) พร้อมพนักงานขับรถยนต์ต่อคันเศษของวันนับเป็น 1 วัน
3.ในกรณีพนักงานขับรถยนต์ไม่มาปฏิบัติงานตามสัญญา หรือมีปัญหาอื่นใดก็ตามทำให้ผู้ให้เช่าไม่สามารถจัดหาพนักงานขับรถยนต์มาปฏิบัติงานได้ ผู้ให้เช่าจะต้องชำระค่าปรับให้กรมการขนส่งทางรางเป็นรายวันในอัตราร้อยละ 0.10 ของราคารวมค่าเช่ารถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) พร้อมพนักงานขับรถยนต์ต่อคัน
4.ในกรณีวันปฏิบัติงานปกติพนักงานขับรถยนต์มาปฏิบัติงานไม่ครบ 8 ชั่วโมง (08.00 - 17.00 น.) ไม่รวมลาพัก ผู้ให้เช่าต้องชำระค่าปรับให้กรมการขนส่งทางราง ในอัตราร้อยละ 0.10 ของราคารวมค่าเช่ารถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) พร้อมพนักงานขับรถยนต์ต่อคัน/คน/ชั่วโมง เศษนาที่คิดเป็น 1 ชั่วโมง
5.กรณีที่ผู้ให้เช่าละเลยหรือไม่ดำเนินการทำหรือต่อสัญญาประกันภัยรถยนต์ที่เช่าหรือล่าช้า ทำให้ระยะเวลาประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี (BEV) ที่เช่าไม่ต่อเนื่องกัน จะถือว่ากรมการขนส่งทางรางไม่สามารถใช้รถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) พร้อมพนักงานขับรถยนต์ที่เช่าได้ตามปกติ ผู้ให้เช่ายินยอมให้กรมการขนส่งทางรางปรับตามอัตราในข้อ 1 นับถัดจากวันสิ้นสุดระยะเวลาประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) ที่เช่าเดิม จนถึงวันที่กรมการขนส่งทางรางได้รับมอบสำเนากรมธรรม์ฉบับใหม่
ระยะเวลาเช่า
ระยะเวลา 60 เดือน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2568 ถึงเดือนพฤษภาคม 2573
ระยะเวลาส่งมอบ
1. ส่งมอบเครื่องอัดประจุไฟฟ้า (AC Normal Charger) พร้อมการติดตั้งให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ ภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2568
2.ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (BEV) จำนวน 5 คัน ณ กรมการขนส่งทางราง อาคาร ณ ถลาง เลขที่ 514/1 ถนนหลานหลวง แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ตามที่สัญญากำหนด
3.ส่งมอบพนักงานขับรถยนต์ จำนวน 5 คน ณ กรมการขนส่งทางราง อาคาร ณ ถลาง เลขที่ 514/1 ถนนหลานหลวง แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ตามที่สัญญากำหนด
ในตอนหน้าสำนักข่าวอิศราไปนำเสนอร่างรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ โครงการเช่ารถยนต์พร้อมพนักงานขับรถยนต์ ในส่วนของ รถตู้ 3 คัน กันบ้างว่า สมรรถนะแบบใดถึงไม่มีผู้สนใจเสนอราคา

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา