
"...หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ในฮ่องกง เคยเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเรื่องนี้ ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ถือพาสปอร์ตกัมพูชา ปรากฎในเอกสารการจัดตั้งบริษัท พีที คอร์เปอเรชัน คอมปานี (P.T. Cprporation Company) ในฮ่องกง เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2561 เป็นเวลาหนึ่งปีหลังจากหลบหนีโทษจำคุก 5 ปีตามความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตโครงการจำนำข้าว..."
ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งปัญหาชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ยืดเยื้อบานปลาย และยังไม่รู้ว่าจะยุติลงเมื่อไหร่? บทสรุปสุดท้ายของการเจรจาจะออกมาเป็นอย่างไร?
หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นเหตุการณ์ความขัดแย้งที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ผ่านมา คือ ปัญหาความขัดแย้งระหว่าง 2 ตระกูล "ชินวัตร" และ "ฮุนเซน" อันเป็นผลมาจากกรณีคลิปเสียงการเจรจาลับการแก้ไขปัญหาเรื่องข้อพิพาทชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่ถูกเผยแพร่เป็นทางการต่อสาธารณะที่ส่งผลทำให้เก้าอี้นายกรัฐมนตรี ของ นางสาวแพทองธาร ต้องสั่นคลอน ถึงขั้นถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ระหว่างการไต่สวนคดีนี้
ส่วน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นพ่อ ก็แสดงออกท่าทีชัดเจน ต่อ สมเด็จฮุน เซน ในเชิงตัดความสัมพันธ์เลิกคบหาเป็นทางการ ไม่ไว้วางใจแม้กระทั่งการโทรศัพท์พูดคุย

ทักษิณ ชินวัตร
ขณะที่ สมเด็จฮุน เซน ก็ออกมาประกาศตอบโต้อยู่เป็นระยะๆ ลามไปถึงการทวงบุญคุณที่เคยช่วยเหลือกันมาในอดีต
ทั้งนี้ หลักฐานเชิงประจักษ์ในการช่วยเหลือของสมเด็จฮุน เซน ที่มีต่อ นายทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว ที่ปรากฏต่อสาธารณไปแล้ว คือ การเผยแพร่ภาพ น.ส.แพทองธารและนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี เยือนบ้านของ นายฮุน เซน พร้อมระบุว่า ในอดีตรัฐบาลกัมพูชาเคยให้ความช่วยเหลืออดีตนายกรัฐมนตรีไทย นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งเป็นพ่อและอาของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันอีกด้วย






อย่างไรก็ดี นอกจากภาพถ่ายหลักฐานการเยือนบ้านของนายฮุน เซน ของ น.ส.แพทองธาร ที่แสดงออกถึงการให้ความช่วยเหลือ นายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของ สมเด็จฮุน เซน ดังกล่าวแล้ว
ในช่วงเดือนมกราคม 2562 หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ เคยนำเสนอข้อมูล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศไทย ใช้พาสปอร์ตกัมพูชา เป็นหลักฐานในการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในฮ่องกง และอาจเป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ให้เห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยได้รับความช่วยเหลือจากสมเด็จฮุน เซน ด้วยเช่นกัน

หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ในประเทศฮ่องกง เคยเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเรื่องนี้ ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ถือพาสปอร์ตกัมพูชา ปรากฎในเอกสารการจัดตั้งบริษัท พีที คอร์เปอเรชัน คอมปานี (P.T. Cprporation Company) ในฮ่องกง เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2561 เป็นเวลาหนึ่งปีหลังจากหลบหนีโทษจำคุก 5 ปีตามความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตโครงการจำนำข้าว

ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ยังชี้ว่า เอกสารดังกล่าวชี้ว่านางสาวยิ่งลักษณ์เป็นผู้บริหารคนเดียว แต่ไม่เปิดเผยว่าทำธุรกิจประเภทใด นอกจากนี้ยังพบว่ามีบริษัทชื่อเดียวกันอยู่ในประเทศไทยและมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือ พินทองทา คุณากรวงศ์ และ แพทองธาร ชินวัตร (ลูกสาว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พี่ชายนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)
และเมื่อไปตามที่ตั้งบริษัทตามที่เอกสารเอกสารระบุ กลับพบว่า ที่ตั้งดังกล่าวเป็นที่ทำการของ บริษัทแปซิฟิก อินเตอร์เนชันแนล แคปิตัล ตั้งอยู่ ชั้น 66 ตึก K11 Atelier ในย่านจิมซาจุ่ย มีผู้บริหารชื่อ Chen Huai Dan
เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ในบริษัทกลับพบว่าไม่รู้จักบริษัทพีทีคอร์เปอเรชันหรือความเกี่ยวข้องใดใดกับนางสาวยิ่งลักษณ์
พนักงานคนหนึ่งบอกผู้สื่อข่าวว่า "ฉันไม่รู้ว่าทำไมเลือกมาถามเราเรื่องนี้ที่นี่"
ขณะที่เมื่อโทรศัพท์สอบถามไปยังพนักงานบริษัทอีกคนก็ขอปฏิเสธ ไม่กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองบริษัท
หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ระบุว่า นาง Chen Huai Dan เคยเป็นพนักงานตุลาการในศาลเมือง Shantou ในช่วงปี 1995 ปัจจุบันนอกจากเป็นผู้บริหารของบริษัทแปซิฟิก อินเตอร์เนชันแนล แคปิตัล ก็ยังนั่งบอร์ดบริหาบริษัท SingHaiyi group ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในสิงคโปร์ พร้อมระบุว่า เธอและสามีมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนางสาวยิ่งลักษณ์มาก ซึ่งนอกจากจะใส่ที่อยู่บริษัทพีทีคอร์เปอเรชันเป็นที่อยู่ของบริษัทนางเฉินแล้ว
ที่อยู่อาศัยที่นางสาวยิ่งลักษณ์ระบุในเอกสารตั้งบริษัทนี้ก็เป็นที่อยู่บ้านที่คู่สามีภรรยาเฉินเป็นเจ้าของด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ คู่สามีภรรยาเฉิน มีข่าวความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนักการเมืองอเมริกันหลายคน ข้อมูลการเงินระหว่างหาเสียงของรัฐบาลสหรัฐระบุว่า เคยบริจาค 1.3 ล้านดอลลาร์ให้ "เจบ บุช" ลูกชายอดีตประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช ใช้ในการหาเสียงผ่านบัญชีบริษัทที่จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา
ด้านข้อมูลเลขาธิการบริษัทพีทีคอร์เปอเรชันระบุว่าใช้บริการบริษัท HYL Secretarial Services ซึ่งก่อตั้งในเดือนเดียวกัน นาย Alexander Leung Ho-yin ผู้บริหารบริษัทข้างต้นปฏิเสธให้ข้อมูลเรื่องบริษัทพีทีคอร์เปอเรชัน แต่กล่าวว่า บริษัทพีทีคอร์เปอเรชัน กำลังจะเปลี่ยนผู้ให้บริการเลขานุการ
หนังสือพิมพ์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ ยังตั้งข้อสังเกตว่า หลังตั้งบริษัทดังกล่าวเป็นเวลา 4 เดือน นางสาวยิ่งลักษณ์ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานบริษัทท่าเรือซัวเถาทันที ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทดังกล่าวถือหุ้นโดยบริษัท Hutchison Port Shantou และบริษัท China Merchants Port Group ก่อนที่บริษัท Hutchison Port จะขายหุ้น 70% ให้นักลงทุนสิงคโปร์ไม่ประสงค์ออกนาม
เอกสารของบริษัท Hutchison Port Shantou ระบุชื่อ Chen Huai Dan เป็นบอร์ดบริหาร และเอกสารอื่น ๆ ระบุว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับการแต่งตั้งเป็นบอร์ดบริหารของบริษัท Planet Telecom (HK) Company Limited ในฮ่องกงเมื่อปี 2016 ด้วย
นอกจากนี้ การมีพาสปอร์ตกัมพูชา ยังเป็นเบาะแสว่าในปี 2560 นางสาวยิ่งลักษณ์อาจเดินทางไปสิงคโปร์ผ่านทางประเทศกัมพูชาอย่างที่เคยมีการคาดการณ์กัน ซึ่ง Chong Ja Ian อาจารย์สาขานโยบายต่างประเทศมหาวิทยาลัยสิงคโปร์กล่าวว่า "พาสปอร์ตดังกล่าวเป็นพาสปอร์ตที่ออกโดยราชการ จึงเป็นที่น่าสงสัยว่านางสาวยิ่งลักษณ์ได้สิทธินั้นมาได้อย่างไร"
พร้อมชี้ว่ากัมพูชาเป็นทางหนีที่ง่ายที่สุดในขณะนั้น โดยบอกว่า "ถ้าอยากเดินทางโดยไม่เป็นที่สังเกต การมีพาสปอร์ตกัมพูชาจะทำให้เดินทางออกจากประเทศได้ง่ายขึ้น" และตั้งข้อสังเกตว่าหากรัฐบาลกัมพูชาแอบออกเอกสารให้นางสาวยิ่งลักษณ์จริงก็อาจกระทบความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาในขณะนี้ได้
ก่อนหน้านี้ทางการกัมพูชาเคยปฏิเสธว่าไม่เคยออกเอกสารเดินทางให้นางสาวยิ่งลักษณ์ใช้หลบหนีออกจากประเทศ โดยสำนักงานหนังสือเดินทางให้สัมภาษณ์กับพนมเปญโพสต์ว่า "คุณยิ่งลักษณ์เป็นคนไทย ไม่ใช่คนกัมพูชา ผมไม่ออกหนังสือเดินทางให้คนต่างชาติ"
ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่กล่าวว่า ไม่มีรายงานว่านางสาวยิ่งลักษณ์เดินทางไปสิงคโปร์ผ่านกัมพูชา ส่วนรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศทั้งไทยและกัมพูชาไม่ตอบคำถาม
- สื่อฮ่องกงโชว์หลักฐาน 'ยิ่งลักษณ์' ถือพาสปอร์ตกัมพูชา นั่งบริหาร บ.ย่านจิมซาจุ่ย
- อ่านเต็มๆ ลีลานักข่าวฮ่องกง คุ้ยหลักฐาน 'ยิ่งลักษณ์' ใช้พาสปอร์ตกัมพูชาตั้งบ.ย่านจิมซาจุ่ย
- ตีแผ่ชีวิตสามีภรรยาจีนหมื่นล.! ให้ 'ปู' ใช้ที่อยู่ตั้งบ.ฮ่องกง-สนิทนักการเมืองมะกันเพียบ
ณ วันนี้ เวลาผ่านมาหลายปี สมเด็จฮุน เซน ออกมายอมรับต่อสาธารณชนว่า เคยให้ความช่วยเหลือ นายทักษิณ รวมถึง และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นทางการแล้ว
แม้ว่า สมเด็จฮุน เซน จะไม่ได้ให้รายละเอียด ถึงวิธีการช่องทางในการให้ความช่วยเหลือที่เกิดขึ้น
แต่เมื่อย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ข้อมูลในอดีต อาจเป็นคำตอบของคำถามที่ค้างคาใจใครหลายคนมายาวนาวหลายปีว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้ช่องทางใดในการหลบหนีออกจากประเทศไทย แล้วทำไมถึงถือพาสปอร์ตกัมพูชาเดินทางไปปรากฏตัวตามประเทศต่างๆ ได้

@ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้น คือ ณ วันนี้ ทั้งสองตระกูลมีปัญหากันเกิดขึ้น หากในอนาคตคนในตระกูล ชินวัตร มีปัญหาถูกฟ้องร้องคดีความอีก ต้องถูกตัดสินลงโทษจำคุก
ช่องทางในการหลบหนีออกนอกประเทศไทย ผ่านกัมพูชา อาจเป็นเรื่องยาก ไม่ได้ไปกันง่ายๆ อีกแล้ว
เพราะช่องทางนี้ ถูกปิดตาย ไปพร้อมความสัมพันธ์ของ สองตระกูล ที่ถูกตัดขาดไปโดยสมบูรณ์แบบแล้ว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา