
“...ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนผู้รับเหมาใหม่หรือแบ่งสัญญาการก่อสร้างให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้มีผู้รับเหมามารับงานมากขึ้น เพื่อที่จะสามารถก่อสร้างและดูแความปลอดภัยได้อย่างทั่วถึง เพราะการที่มีผู้รับเหมาน้อยรายแต่มีพื้นที่ก่อสร้างเยอะ มีปริมาณงานมากอาจทำให้การดูแลความปลอดภัยไม่ทั่วถึง…”
ในช่วงปลายปี 2567 และต้นปี 2568 มีข่าวอุบัติเหตุเกี่ยวกับ ‘ถนนพระราม 2’ หลายครั้ง ซึ่งทุกครั้งประชาชนก็ตั้งคำถามถึงการแสดงความรับผิดชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตลอด
‘ถนนพระราม 2’ หรือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35 สายดาวคะนอง–วังมะนาว เป็นถนนที่ตัดผ่านจังหวัดกรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และจังหวัดราชบุรี เป็นเส้นทางหลักที่มุ่งสู่ภาคใต้ของประเทศไทย มีระยะทางรวม 84.041 กิโลเมตร เนื่องจากมีผู้ใช้งานถนนพระราม 2 จำนวนมากจึงมีการก่อสร้างปรับปรุงถนนพระราม 2 หลายครั้ง และยังมีการก่อสร้างทางยกระดับบนถนนพระราม 2 จำนวน 2 เส้นทาง 5 ระยะ ระยะทางรวม 90.6 กิโลเมตรอีกด้วย ส่วนการปรับปรุงถนนพระราม 2 มี 2 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรมทางหลวง (ทล.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)
ทั้งนี้ตลอดเวลาที่มีการก่อสร้างปรับปรุงถนนพระราม 2 ก็มีข่าวอุบัติเหตุบนถนนสายนี้หลายครั้ง โดยแต่ละครั้งก็มีสาเหตุที่แตกต่างกัน บางครั้งก็ไม่มีผู้บาดเจ็บ บางครั้งก็มีผู้เสียชีวิต แต่อุบัติเหตุที่ปรากฏเป็นข่าวส่วนมากจะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากการก่อสร้าง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รวบรวมข้อมูลสถิติอุบัติเหตุที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตที่เกี่ยวกับ ‘ถนนพระราม 2’ ในช่วงปี 2561-2568 มารายงานให้สาธารณชนได้รับทราบโดยทั่วกัน
@ สถิติอุบัติเหตุพระราม 2 ปี 61-68
เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2568 นายธวัชชัย ปิยนนทยา ประธานคณะทำงานปราบปรามการทุจริตพรรคไทยสร้างไทยเปิดเผยว่า ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุบริเวณถนนพระราม 2 ตั้งแต่ปี 2561-2567 พบว่า มีอุบัติเหตุจากการก่อสร้างเกิดขึ้นถึง 2,242 ครั้ง ประชาชนเสียชีวิต 132 ราย และบาดเจ็บ 1,305 ราย
ส่วนปี 2568 มีข้อมูลจากกรมทางหลวงว่า มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 3 ครั้ง และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย มีรายละเอียด ดังนี้
1.รถบรรทุกติดเครน (รถเฮี๊ยบ) ไหลตกทางยกระดับใส่รถขนส่งบนถนนพระราม 2 มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย
2.ลวดสลิงก่อสร้างร่วงใส่รถเทรลเลอร์ ไม่มีผู้บาดเจ็บ
3.ชิ้นส่วนค้ํายันปรับระดับ (U-Head) ตกใส่หลังคารถ ไม่มีผู้บาดเจ็บ
และข้อมูลที่ปรากฏเป็นข่าว ได้แก่
1.คานทางด่วนในโครงการทางพิเศษ สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ถล่มบริเวณหน้าด่านดาวคะนอง ใกล้ซอยพระราม 2 ซอย 25 ขณะกำลังเทปูน คานพังลงมาทับสะพานทางด่วนเดิม มีผู้เสียชีวิต 5 ราย บาดเจ็บ 24 ราย
2.ดินสไลด์บริเวณโครงการทางพิเศษ สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ทับแรงงานเมียนมา มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
จะเห็นในช่วงครึ่งปีแรกในปี 2568 มีอุบัติเหตุบริเวณถนนพระราม 2 แล้ว 5 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 25 ราย เสียชีวิต 6 ราย ดังนั้นในช่วงปี 2561-2568 มีอุบัติเหตุบริเวณถนนพระราม 2 ทั้งหมด 2,247 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 138 ราย บาดเจ็บ 1,330 ราย
ซึ่งในแต่ละครั้งที่เกิดอบุัติเหตุตั้งแต่อดีต ผู้บริหารของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงคมนาคม กรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ต่างก็แถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงและรับปากว่าจะมีมาตรการควบคุมความปลอดภัยที่เข้มงวดและรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชน แต่จนกระทั้งปัจจุบันก็ยังไม่มีความคืบหน้าทั้งในด้านมาตรการดูแลความปลอดภัย และการดำเนินคดีกับเอกชนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ
@ รายงานผลสอบกรณีคานทางด่วนถล่มให้รมว.คมนาคมแล้ว
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับเอกชนกรณีอุบัติเหตุคานทางด่วนถล่มว่า การทางพิเศษได้มีการไปร้องทุกข์กล่าวโทษผู้รับเหมาและผู้ควบคุมงานต่อสถานีตำรวจบางมด ทั้งทางแพ่งและอาญา
นอกจากนี้ตนเองก็ได้สั่งตั้งคณะกรรมการมาเสาะหาข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุ ซึ่งประธานกรรมการชุดข้างต้นเป็นบุคคลภายนอก คือ รองศาสตราจารย์เอนก ศิริพานิชกร ที่ปรึกษาสาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เป็นประธานกรรมการ โดยขณะนี้ทราบสาเหตุและรายงานไปยังทางรัฐมนตรีแล้ว
“ผลตรงนี้ผมก็ได้มีการรวบรวมเอกสารหลักฐานให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมในส่วนที่เกี่ยวข้องและอาญาต่อไป อันนี้คือส่วนที่การทางดำเนินการ และในเรื่องผู้เสียหาย ในช่วงที่เกิดเหตุ การทางพิเศษได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายได้เข้าไปให้ความช่วยเหลือกับญาติผู้เสียชีวิตทั้งในแง่กฎหมาย และเข้าไปร่วมเจรจากับทางตัวแทนประกันของผู้ก่อสร้างด้วย เขาจะต้องได้รับเงินทดแทนอย่างไร ปัจจุบันมีการเจรจากันอยู่” นายสุรเชษฐ์ กล่าว
นายสุรเชษฐ์ กล่าวถึงมาตรการจัดการกับเอกชนว่า ปัจจุบันมีช่องทางเดียว คือ การยกเลิกสัญญาและประกาศเป็นผู้ทิ้งงาน โดยต้องมาประเมินว่าความผิดที่เกิดขึ้นถึงขั้นต้องยกเลิกสัญญาหรือไม่ อย่างไร แต่ทั้งนี้ก็มีข่าวดีที่กระทรวงคมนาคมมีอีกวิธี คือ การทำสมุดพกผู้รับเหมา ซึ่งเป็นอีกเกณฑ์หนึ่ง เพราะสมุดพกผู้รับเหมาทำให้คัดกรองผู้รับเหมาได้ ตอนนี้กระทรวงคมนาคมกับกระทรวงการคลังกำลังร่วมกันพิจารณาอยู่
@ กทพ.มั่นใจหน่วยงานมีธรรมาภิบาล
นายสุรเชษฐ์ กล่าวถึงธรรมาภิบาลของกทพ.ว่า เรื่องธรรมาภิบาลหลัก ๆ คือ เรื่องความโปร่งใส มีความรับผิดชอบ ความมีส่วนร่วม การบังคับใช้กฎหมาย และความเป็นธรรม โดยในด้านความโปร่งใส เวลาเกิดเหตุ กทพ.ไม่ได้พยายามปิดข่าว ได้มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างต่อเนื่อง โดยมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอย่างถูกต้องครบถ้วน
“ในด้านความรับผิดชอบ เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ผมสั่งให้ผู้รับเหมาหยุดงานทันทีเพื่อตรวจสอบและทบทวนมาตรการความปลอดภัยและไม่ให้ก่อสร้างจนกว่าจะรู้สาเหตุ เช่น ตรงดาวคะนองขาเข้า-ขาออก มีการเร่งรัดให้จัดการนำสิ่งกีดขวางออกจากพื้นที่ ซึ่งบริเวณขาเข้าสามารถทำได้ภายใน 5 วัน จากคาดการณ์ไว้ที่ 7 วัน ส่วนบริเวณขาออกคาดการณ์ไว้ 1 เดือน แต่ก็สามารถติดตั้งคานใหม่ได้ใน 20 วัน ทำให้การเดินทางตรงบริเวณนั้นคลี่คลายได้ อันนี้เป็นสิ่งที่เรารับผิดชอบ” นายสุรเชษฐ์ กล่าว
ส่วนในด้านการมีส่วนร่วม เราเปิดช่องรับฟังความเห็นประชาชน ตนเองไม่เคยปิดคอมเมนต์ของประชาชน รับฟังข้อเสนอแนะต่าง ๆ ส่วนการบังคับใช้กฎหมาย กทพ.ไม่เคยละเว้นถ้าผู้รับเหมาละเลยความปลอดภัย มีการลงโทษอย่างจริงจัง จะเห็นได้ว่าเรามีการไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษที่สถานีตำรวจ มีการตั้งคณะกรรมการหาข้อเท็จจริงโดยใช้บุคคลภายนอก และปัจจุบันในการตั้งคณะกรรมการมาสืบสวนทบทวนเรื่องความปลอดภัยและความเสียหายที่เกิดขึ้นเพื่อดำเนินการฟ้องเพ่งและอาญาต่อไป เหล่านี้คือ สิ่งที่การทางพิเศษพยายามทำ
@ ภาครัฐทำงานแบบวัวหายล้อมคอก
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ พรรคประชาชน กล่าวถึงธรรมาภิบาลของหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบการสร้างถนนและทางด่วนบริเวณถนนพระราม 2 ว่า การรับผิดชอบในตอนนี้หน่วยงานภาครัฐก็โยนเอกชน เอกชนก็ไปต่อไม่ได้ แล้วตอนนี้หน่วยงานภาครัฐก็ไม่ได้มาบริหารจัดการได้อย่างดีเท่าที่ควรเพราะว่าพอเกิดเหตุแต่ละครั้งก็เหมือนวัวหายแล้วล้อมคอก คือ เกิดเหตุแต่ละครั้งก็คิดมาตรการขึ้นมา แทนที่คิดมาตรการก่อนเกิดเหตุ เพราะฉะนั้นจะโทษหน่วยงานเอกชนอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะต้องดูที่ต้นสังกัดหรือก็คือหน่วยงานภาครัฐ และอีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัย จะเห็นว่างานการก่อสร้างของบริษัทเอกชนญี่ปุ่นกับการก่อสร้างของหน่วยงานภาครัฐมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก
“เพราะว่าอย่างเราอยู่ในในพื้นที่เองเป็น สส.เขต เราก็เห็นได้ชัดว่าเจ้าหน้าที่หรือช่างที่มาทำโครงการถนนพระราม 2 ในเรื่องของความปลอดภัยในการขึ้นที่สูง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Safety Belt หรือมาตรฐานการทำงานขั้นตอนการทำงานที่ต้องประเมินความเสี่ยง โดยประเมินว่าถ้าเกิดทำแบบนี้ความเสี่ยงมันจะเกิดอุบัติเหตุได้กี่เปอร์เซ็นต์แทบไม่มีเลย เพราะฉะนั้นอยู่ที่มาตรฐานการวางกรอบกติกาไว้ เราจ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินไปสูงมาก แต่ผลที่ได้รับคืองานคุณภาพต่ำ พองานคุณภาพต่ำ การควบคุมดูแลต่ำสุดท้ายส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชนเป็นอุบัติเหตุในหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา เพราะฉะนั้น วันนี้ก็เรียกได้ว่าทั้งหน่วยงานต้นสังกัดและหน่วยงานที่รับงานไป แทบจะไม่มีหลักธรรมาภิบาลเลย” นายณัฐชา กล่าว
นายณัฐชา กล่าวว่า ในเรื่องของการจ้างงานของกรมทางหลวงหรือกรมทางหลวงชนบท สิ่งที่ต้องเพิ่ม คือ เรื่องของมาตรฐานหลักธรรมาภิบาลว่า บริษัทที่รับงานแล้วทิ้งงานหลายครั้ง บริษัทที่รับงานแล้วเกิดอุบัติเหตุซ้ำหลายครั้ง บริษัทที่รับงานแล้วปัดความรับผิดชอบเมื่อเกิดเหตุกระทบกับประชาชน หรือเกิดอุบัติเหตุกับประชาชน ควรที่จะต้องดำเนินการในเรื่องประวัติผู้รับเหมาควรที่จะต้องทำอย่างจริงจัง ถ้าไม่ทำแสดงว่าหน่วยงานภาครัฐเองก็เป็นการละเลย
@ ข้อเสนอให้ทำแนวปิดกั้นก่อสร้างให้ชัดเจน-เพิ่มแสงสว่าง
นายณัฐชา กล่าวถึงการป้องกันอุบัติเหตุจากการก่อสร้างบนนถนนพระราม 2 ว่า มีข้อเสนอเพิ่มเติมในเรื่องแนวในการปิดกั้นการก่อสร้างและการเพิ่มแสงสว่าง เนื่องจากในปัจจุบันแนวการการปิดกั้นการก่อสร้างก็ยังไม่ได้มาตรฐาน เช่น กำลังก่อสร้างบริเวณด้านบน บริเวณด้านล่างก็ไม่ได้มีแนวปิดกั้น เป็นต้น ซึ่งมีข้อสันนิษฐานว่าแรงงานหรือว่าคนที่อยู่ในแผนกดูแลความปลอดภัยอาจจะมีน้อย จนทำให้ไม่สามารถประสานงานกันได้หรือไม่ และอีกอย่างหนึ่งคือเรื่องของช่วงเวลากลางคืนที่แสงสว่างไม่เพียงพอจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง พอไม่มีมาตรฐานในเรื่องความปลอดภัยที่รัดกุม ก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
“ส่วนมาตรการสมุดพกผู้รับเหมา ผมการันตีว่ามาตรการนี้ไม่ได้ผลแน่นอน เพราะว่าเรากำลังทำแบบเดิมกับผู้รับเหมารายเดิม ๆ ซึ่งมีพฤติกรรมการดำเนินงานที่เป็นรูปแบบเดิม ซึ่งการบริหารจัดการแบบนี้ เราเห็นได้แล้วว่าไม่สามารถยุติอุบัติเหตุได้ ไม่สามารถระงับเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนประชาชนเอือมระอาไปแล้ว ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่เขาก็ยังไม่มีมาตรการที่จะเปลี่ยนผู้รับเหมายังใช้ผู้รับเหมาเดิม แล้วก็บอกว่าจะทำมาตรการมาตรการนู้น มาตรการนี้ ซึ่งมาตรการที่ประกาศมาทั้งหมด ก็เคยประกาศมาแล้วทั้งนั้น เกิดเหตุกี่ครั้งก็จะประกาศอยู่เรื่องเดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้” นายณัฐชา กล่าว
นายณัฐชา กล่าวว่า ตนเองสงสัยว่ารัฐมนตรีคมนาคมจริงจังกับเรื่องการป้องกันอุบัติเหตุบนถนนพระราม มากน้อยแค่ไหน เพราะว่าจากที่ทำคือวิ่งตามปัญหาอย่างเดียว ไม่มีการคิดริเริ่มประเด็นที่จะป้องกันเรื่องเหล่านี้ให้ยั่งยืน และก็แนวทางที่จะป้องกันอุบัติเหตุให้กับประชาชนได้ ทุกวันนี้ประชาชนที่ผ่านไปผ่านมาบนถนนพระราม 2 ยังคงอยู่บนความเสี่ยงทุกวินาที
@ แนวทางป้องกันอุบัติเหตุถนนพระราม 2
นายณัฐชา กล่าวว่า ประเด็นแรก กระทรวงคมนามคมต้องประกาศให้กับประชาชนทุกคนได้รับรู้รับทราบว่าช่วงเวลาทั้งหมดของถนนเส้นพระราม 2 มีระยะเวลาในการก่อสร้างทั้งหมดเท่าไร มีผู้รับเหมาทั้งหมดกี่ราย แต่ละรายก่อสร้างบริเวณที่ใด และเป็นผู้รับเหมารายใดที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งควรแบ่งโซนพื้นที่รับผิดชอบให้ชัดเจนเลยว่าบริเวณไหนให้ผู้รับเหมารายใดรับผิดชอบ เพื่อให้มีการแบ่งโซนการรับผิดชอบที่ชัดเจนซึ่งทุกวันนี้ยังไม่มี ประเด็นที่สอง ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนผู้รับเหมาใหม่หรือแบ่งสัญญาการก่อสร้างให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้มีผู้รับเหมามารับงานมากขึ้น เพื่อที่จะสามารถก่อสร้างและดูแความปลอดภัยได้อย่างทั่วถึง เพราะการที่มีผู้รับเหมาน้อยรายแต่มีพื้นที่ก่อสร้างเยอะ มีปริมาณงานมากอาจทำให้การดูแลความปลอดภัยไม่ทั่วถึง
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราได้ติดต่อไปยังกรมทางหลวงเพื่อขอสัมภาษณ์ผู้บริหารในประเด็นธรรมาภิบาลและความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับเอกชน โดยทางกรมทางหลวงไม่ได้ให้ผู้บริหารให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด แต่ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวผ่านทางอีเมล์ โดยคำตอบที่กรมทางหลวงตอบผู้สื่อข่าวไม่ได้ระบุถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับเอกชนแต่อย่างใด เพียงแต่มอบข้อมูลสถิติอุบัติเหตุและข้อมูลเอกชนที่รับงานก่อสร้างบริเวณถนนพระราม 2 เท่านั้น
ส่วนข้อมูลของเอกชนที่รับผิดชอบการก่อสร้างบริเวณถนนพระราม 2 สำนักข่าวอิศราได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยบริเวณถนนพระราม 2 มีสัญญาการก่อสร้างโยธา 17 สัญญา โดยบริษัทที่ได้งานมากที่สุดจาก 17 สัญญานี้คือ บมจ.อิตาเลียนไทยฯ ได้ไป 3 สัญญา รองลงมาจะมี 4 บริษัทที่ได้งานคนละ 2 งาน ได้แก่ บมจ.ซีวิล เอนจีเนียริง, บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น, บจ. วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง และบจ.กรุงธนเอนยิเนียร์

เหล่านี้คือมุมมองในด้านธรรมาภิบาลและท่าทีของหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบการก่อสร้าง ‘ถนนพระราม 2’ ซึ่งจะเห็นว่าบางหน่วยงานมีความพยายามที่จะใช้ธรรมาภิบาลให้มาก บางหน่วยงานก็ไม่ได้แสดงให้เห็นการใช้ธรรมาภิบาลแต่อย่างใด ส่วนตัวแทนประชาชนก็แสดงความคิดเห็นว่ากรมทางหลวงยังคงต้องมีความเข้มงวดในการคัดเลือกเอกชนที่จะมารับงานก่อสร้าง ไม่เลือกเอกชนที่มีประวัติไม่ดี และมีข้อเสนอในการป้องกันอุบัติเหตุในปัจจุบัน คือ การทำแนวปิดกั้นการก่อสร้างให้ชัดเจนมีมาตรฐาน และเพิ่มแสงสว่างในช่วงกลางคืน
นอกจากนี้การที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยและกรมทางหลวงจะมีมาตรการคัดเลือกเอกชนและมาตรการกำกับดูแลเอกชนที่รับผิดชอบงานก่อสร้าง ก็ต้องมีท่าทีที่จริงจังจากหน่วยงานหลัก ได้แก่ กระทรวงคมนาคมอีกด้วย เพราะกระทรวงคมนาคม คือ หน่วยงานที่กำกับดูแลองค์กรทั้งสอง หากกระทรวงคมนาคมยังไม่จริงจังในการวางมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาข้างต้น อุบัติเหตุบนถนนพระราม 2 ก็ยังคงสามารถเกิดซ้ำได้อีกในอนาคต


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา