
"...ในเดือน พ.ค. 2546 ศาลเมืองโอ๊คแลนด์ สั่งปรับเป็นเงิน 30,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ หลังจากที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แห่งนิวซีแลนด์สอบสวนบริษัท Mauer-Swisse Securities ในเมืองโอ๊คแลนด์ ซึ่งเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการชำระบัญชี (ตามข้อมูลปี 2547) และมีความเชื่อมโยงกับนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์.."
ประเด็นขยายผลตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก!
กรณี นายทอม ไรต์ สื่อมวลชนอิสระ อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าววอลสตรีทเจอร์นัล (WSJ) และยังเป็นหนึ่งในผู้สื่อข่าวที่เปิดโปงการทุจริต เงินกองทุนเพื่อการพัฒนาของรัฐ "1 มาเลเซีย ดีเวลอปเมนต์ เบอร์ฮัด" (1MDB) เขียนบทความลงบนเว็บไซต์ Whalehunting.projectbrazen.com ซึ่งเป็นเว็บบล็อกส่วนตัว กล่าวอ้างว่า นายยิม เลียก ลูกชายคนสุดท้อง จากทั้งหมดสี่คนของนายยิม ชัยลี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดกำปงจาม โดยนายยิม เลียกเป็นประธานบริษัท B.I.C Group ซึ่งเป็นบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ที่ทำการหลักอยู่ในประเทศกัมพูชา เป็นเจ้าของกิจการหลายแห่งรวมไปถึงธนาคาร B.I.C กัมพูชา (มีรายงานข่าวว่านายยิม เลียกได้แต่งงานกับนักธุรกิจหญิงไทยคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทหลายแห่งในไทย อ่านรายละเอียดใน ส่องคดีทุจริตโลก:แฉฮุน เซน เซ็น ทิ้งทวนนายกฯยกอุทยานเฉียดพันเฮกตาร์ให้ลูกคนใกล้ชิดบริหาร)
มีความเชื่อมโยงกับนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ซึ่งเป็นนายหน้าในการขายเครื่องบินส่วนตัว และนักธุรกิจแอฟริกาใต้รายนี้ยังเป็นนายหน้าขายเครื่องบินให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองในไทย
นายไรต์ ระบุในบทความตอนหนึ่งว่า นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ นักธุรกิจชาวแอฟริกาใต้นั้นเป็นผู้ที่เคยขายเครื่องบินส่วนตัวยี่ห้อ Gulfstream (ไม่ได้บอกรุ่น) ให้กับนายยิม เลียก ประธานกลุ่มบริษัท B.I.C ของกัมพูชาและพันธมิตรของนายฮุน เซน โดยมีบริษัทไทยที่เชื่อมโยงกับกลุ่ม B.I.C. จ่ายเงินมูลค่า 20.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (662,713,800 บาท) สำหรับคอนโดบนเกาะแมนฮัตตันโดยมี น.ส.คาตาลิยา บีเวอร์ หุ้นส่วนของเมาเออร์เบอร์เกอร์เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย
ส่วนการซื้อขายเครื่องบินกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย มีการกล่าวอ้างว่า ใช้เครือข่ายของนายเมาเออร์เบอร์เกอร์ในการซื้อเครื่องบินรุ่น Bombardier Global G7500 ด้วยเช่นกัน โดยปรากฎภาพอดีตนายกรัฐมนตรีไทยเจรจากับนายเมาเออร์เบอร์เกอร์เมื่อช่วงเดือน เม.ย.2568

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา สืบค้นบนโลกออนไลน์ทั้งจากเว็บไซต์ และฐานข้อมูล AI. เกี่ยวกับ นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ พบรายละเอียดเพิ่มเติมดังต่อไปนี้
หนึ่ง.
ข้อมูลเบื้องต้นที่สำนักข่าวอิศราสามารถสืบค้นมาได้เกี่ยวกับนายเมาเออร์เบอร์เกอร์ มีบันทึกบนโลกออนไลน์จนถึงแค่ในช่วงปี 2557 เท่านั้น ส่วนข้อมูลปี 2558 จนถึงปี 2566 ไม่ปรากฎชื่อนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ บนเว็บไซต์ใดอีกเลย ก่อนที่ในช่วงปี 2567 เว็บไซต์ Whalehunting.projectbrazen.com จะระบุว่านายเมาเออร์เบอร์เกอร์ เป็นผู้ที่ขายเครื่องบินส่วนตัวให้กับนายยิม เลียก
สอง.
ข้อมูลประวัติ นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ จากเว็บไซต์สมัครงาน linkedin ระบุว่ามีที่อยู่อาศัยอยู่ในรัฐโตรอนโต ประเทศแคนาดา อย่างไรก็ตาม ประวัติการศึกษาระบุว่าจบการศึกษาในระดับมัธยมที่เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีในคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยาการคอมพิวเตอร์ เมื่อปี 2541
ประวัติการทำงาน พบว่ามีถึงแค่ปี 2551 เท่านั้น โดยในช่วงปีดังกล่าว นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ อ้างว่าได้ทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุน และทำงานนี้มาจนถึงปัจจุบัน โดยระบุบทบาทหน้าที่ว่าให้คำปรึกษาการลงทุนแก่บริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลระดับนานาชาติหลายแห่ง ให้บริการทางการเงินที่หลากหลายแก่ฐานลูกค้าต่างประเทศ


สาม.
จากการสืบค้นข้อมูลออนไลน์ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา พบว่ามีมูลนิธิชื่อว่า เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ใช้เว็บไซต์ชื่อว่า http://www.benjaminmauerberger.com อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์นี้ปิดให้บริการไปแล้ว คาดว่าน่าจะออนไลน์ครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน เม.ย. 2554
ขณะที่ข้อมูลในส่วนของ About Us นายเมาเออร์เบอร์เกอร์อ้างว่าตัวเขาเป็นที่ปรึกษาการลงทุนที่มีประสบการณ์อย่างกว้างขวางในตลาดหลักทรัพย์ระหว่างประเทศ ให้บริการของมุ่งเน้นไปที่การเงินองค์กร การบริหารความเสี่ยงทางการเงิน การพัฒนากลยุทธ์เพื่อการเติบโต
เคยมีประสบการณ์ให้คำปรึกษาบริษัทเทคโนโลยีสะอาดอย่าง Novo Energies Corporation ให้บริการที่ปรึกษาแก่ธุรกิจระหว่างประเทศต่างๆ อาทิ บริษัท RCG Holdings Ltd., LED International Holdings Ltd. และบริษัท Faces Cosmetics of Canada
นายเมาเออร์เบอร์เกอร์ ยังอ้างว่าตัวเองมีบทบาทในการระดมทุน การขายหุ้น และการขยายกิจการ นอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จในการนำบริษัทเหล่านี้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่กรุงลอนดอน
สำหรับบริษัท RCG นายเมาเออร์เบอร์เกอร์ระบุว่าได้ให้คำปรึกษาแก่นายเรย์มอนด์ ชูประธานบริษัท และนายโทนี่ ชาน ผู้ก่อตั้งบริษัท RCG คุณเรย์มอนด์ ชู โดยปัจจุบันบริษัท RCG อาจเป็นหนึ่งในตัวแทนจำหน่ายเทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์บริสุทธิ์และ เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ RFID ที่เติบโตเร็วและทำกำไรได้มากที่สุดในโลก
ส่วน บริษัท LED International ซึ่งเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ LED สัญชาติจีน นายเมาเออร์เบอร์เกอร์อ้างว่าได้ให้บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการจดทะเบียนและการระดมทุน การกำหนดกลยุทธ์การเติบโต และการประเมินผลการดำเนินงานทางการเงิน ในฐานะที่ปรึกษา โดยสามารถทำให้บริษัทแห่งนี้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน AIM Market ในปี 2549
นายเมาเออร์เบอร์เกอร์ ยังระบุด้วยว่า เป็นหุ้นส่วนผู้ก่อตั้งบริษัท Old Park Lane Capital ซึ่งเป็นบริษัทเงินทุนขนาดเล็กในลอนดอน ได้ร่วมงานกับนาย Michael Parnes ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทจาก Corporate Synergy ซึ่งปัจจุบันบริษัท Old Park Lane Capital เป็นสมาชิกหลักของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน และเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ได้รับการเสนอชื่อ (Nominated Broker: NOMBRO) โดยทำหน้าที่เป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ให้กับสถาบันและบุคคลที่มีสินทรัพย์สุทธิสูง รวมถึงให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทน้องใหม่ต่างๆ
ขณะที่ กองทุนมูลนิธิเมาเออร์เบอร์เกอร์ซึ่งมีมาก่อนหน้านี้แล้ว เป็นองค์กรที่มีชื่อเสียงของแอฟริกาใต้นั้นมีบทบาทให้การสนับสนุนสถาบันการศึกษา ศิลปะ และวิทยาศาสตร์
นายเมาเออร์เบอร์เกอร์ ยังระบุด้วยว่า เกิดความปรารถนาที่จะก่อตั้งมูลนิธิของตัวเองขึ้นมาในชื่อว่า มูลนิธิเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ซึ่งได้บริจาคเงินเพื่อการกุศลและให้ความช่วยเหลือกับชุมชนชาวยิวในฮ่องกงและเอเชียตั้งแต่ปี 2551
มูลนิธิเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ยังมุ่งมั่นที่จะเดินตามรอยเท้าของกองทุนมูลนิธิเมาเออร์เบอร์เกอร์ โดยการสนับสนุนสถาบันต่างๆ ในแอฟริกาใต้ มูลนิธิจะประกาศการบริจาคและโครงการการกุศลครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2553
แต่อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากเอกสารข่าวปานามาเปเปอร์ส ซึ่งเป็นการตีแผ่ข้อมูลการถือครองบริษัทนอกอาณาเขต (offshore company) ที่อยู่ในฐานข้อมูลของสำนักกฎหมายชื่อ มอสแซค ฟอนเซก้า (Mossack Fonceka) ที่เป็นบริษัทรับจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทนอกอาณาเขตที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ปานามา และมีสาขาอยู่ใน 42 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ฐานข้อมูลดังกล่าวเป็นฐานข้อมูลเรื่องการถือครองบริษัทนอกอาณาเขตที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ตกถึงมือของสื่อมวลชน โดยมีขนาดความจุ 2.6 เทราไบต์ มีเอกสารทั้งหมด 11.5 ล้านชิ้น ประกอบไปด้วยข้อมูลของบริษัทนอกอาณาเขตทั้งหมด 214,000 บริษัท โดยการขุดคุ้ยและวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดของเอกสารที่ให้ชื่อว่า “ปานามาลีก” (Panama Leak) นี้เป็นความร่วมมือกันของผู้สื่อข่าวจำนวน 370 คนจาก 78 ประเทศ) ระบุว่ามูลนิธิเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ จดทะเบียนที่ประเทศปานามา มี มีบริษัทตัวแทนชื่อว่าบริษัท CORPORATE MANAGEMENT SERVICES LIMITED ตั้งอยู่ในฮ่องกง โดยบริษัทแห่งนี้ยังเป็นตัวแทนให้กับนิติบุคคลอื่นๆอีกทั้งสิ้น 656 แห่ง (ดูภาพประกอบ)


หมายเหตุ เป็นภาพถ่ายที่มีการอ้างว่า นายทักษิณ เจรจากับนายเมาเออร์เบอร์เกอร์เมื่อช่วงเดือน เม.ย.2568 ที่ ร้านอาหาร Provence ในห้างเกษรพลาซ่า
สี่.
ส่วนกรณีที่เว็บไซต์ Whalehunting.projectbrazen.com มีการกล่าวหาว่านายเมาเออร์เบอร์เกอร์มีประวัติสำนักข่าวอิศรา ได้สืบค้นข้อมูลออนไลน์เพิ่มเติม พบว่าในช่วงปี 2547 สำนักข่าวการ์เดียนของอังกฤษเคยรายงานข่าวกรณีที่นักลงทุนในสหราชอาณาจักรกำลังถูกหลอกให้ซื้อหุ้นในบริษัทสตาร์ทอัพด้านไวน์ ชื่อว่าบริษัทแอตแลนติก ไวน์ เอเจนซีส์ ซึ่งระบุว่าเป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของไร่องุ่นในแอฟริกาใต้และออสเตรเลีย แต่ตัวบริษัทตั้งอยู่ที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา
พนักงานขายของบริษัท Pacific Continental ซึ่งเป็นผู้โฆษณาขายหุ้นให้กับนักลงทุนระบุว่า บริษัทแอตแลนติก อาจจะมีมูลค่าหุ้นโดยรวมอยู่ที่ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในตลาดหุ้นกรุงลอนดอนในไม่ช้านี้ แต่ว่ายอดขายที่บันทึกไว้ของบริษัทแอตแลนติก ไวน์ เอเจนซีส์ กลับต่ำกว่า 80,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ย้อนไปเมื่อเดือน ก.พ.2547 มีข่าวว่า บริษัทแอตแลนติก ไวน์ เอเจนซีส์ ได้สรุปข้อตกลงกับนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ โดยนายเมาเออร์เบอร์เกอร์จะทำหน้าที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจ้างบุคลากรฝ่ายบริหารระดับสูงและพัฒนาแผนริเริ่มการเติบโตสำหรับบริษัท
สำนักข่าวการ์เดียนระบุต่อไปว่าอย่างไรก็ตาม นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ชาวแอฟริกาใต้ เป็นพี่ชายของนายอดัม เมาเออร์เบอร์เกอร์ ผู้อำนวยการของแอตแลนติก และนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ ยังเป็นอดีตนักค้าหุ้นที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดที่นิวซีแลนด์
โดยในเดือน พ.ค. 2546 ศาลเมืองโอ๊คแลนด์ สั่งปรับเป็นเงิน 30,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ห ลังจากที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แห่งนิวซีแลนด์สอบสวนบริษัท Mauer-Swisse Securities ในเมืองโอ๊คแลนด์ ซึ่งเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างการชำระบัญชี (ตามข้อมูลปี 2547) และมีความเชื่อมโยงกับนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์
คณะกรรมาธิการแจ้งต่อศาลว่าบริษัท Mauer-Swisse ได้ "โทรศัพท์ไปหาผู้คนในนิวซีแลนด์และออสเตรเลียโดยพลการเพื่อเสนอข้อตกลงหุ้นที่น่าสงสัย"
******************
ทั้งหมดนี่ คือ ข้อมูลเกี่ยวกับนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ บุคคลปริศนาซึ่งถูกอ้างว่าเป็นนายหน้าขายเครื่องบินส่วนตัวให้กับนายทักษิณ ชินวัตร และบุคคลสำคัญรายอื่นๆในประเทศกัมพูชา ที่เกี่ยวข้องกับนายฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชนในขณะนี้ ที่สำนักข่าวอิศรา พอจะสืบค้นมาได้
หากมีข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมอีก สำนักข่าวอิศรา จะนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา