
"...การกระทำของนายนิติพน สุวรรณมณี กับพวก จึงเป็น การทุจริตเพื่อให้มีการออกโฉนดที่ดินในเขตป่าชายเลน อันเป็นที่ดินซึ่งทางราชการเห็นว่าควรสงวนไว้ เพื่อทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งต้องห้ามมิให้ออกโฉนดที่ดินตามกฎหมาย..."
เป็นอีกหนึ่งคดีสำคัญที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชน
กรณีเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นายนิติพน สุวรรณมณี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายช่างรังวัดชำนาญงาน ปฏิบัติหน้าที่ผู้กำกับการรังวัด ศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน จังหวัดกระบี่ - พังงา - ตรัง กับพวก ร่วมกันเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 19506 ตำบลถ้ำน้ำผุด อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา เนื้อที่ประมาณ 34 ไร่ ในเขตป่าชายเลน เมื่อปี พ.ศ. 2558 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข้อมูลพฤติการณ์การกระทำความผิดในคดีนี้ ไปแล้วว่า
หนึ่ง.
เมื่อปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 กระทรวงมหาดไทยได้มีประกาศกำหนดให้จังหวัดพังงาเป็นจังหวัดที่จะทำการสำรวจรังวัดทำแผนที่เพื่อออกโฉนดที่ดิน ตามมาตรา 58 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และกรมที่ดินได้มีคำสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน จังหวัดกระบี่ - พังงา - ตรัง โดยมีนายนิติพน สุวรรณมณี นายช่างรังวัดชำนาญงาน ปฏิบัติหน้าที่ผู้กำกับการรังวัด และนายมนตรี สาลิกา นายช่างรังวัดชำนาญงาน ปฏิบัติหน้าที่เดินสำรวจรังวัด
สอง.
ก่อนเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินบริเวณหมู่ที่ 3 ตำบลถ้ำน้ำผุด อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา ให้แก่นายนิวัฒน์ ปิยนามวาณิช ผู้ครอบครองที่ดิน นายนิติพน สุวรรณมณี ปฏิบัติหน้าที่ผู้กำกับการรังวัด ได้ร่วมกับนายมนตรี สาลิกา ปฏิบัติหน้าที่เดินสำรวจรังวัด มีหนังสือลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2558 ถึงส่วนบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 ขอให้ตรวจสอบว่าตำแหน่งที่ดินของนายนิวัฒน์ ปิยนามวาณิช อยู่ในเขตป่าชายเลนหรือไม่ โดยร่วมกันจัดทำรูปแผนที่และคำนวณค่าพิกัดฉาก UTM ตามแบบคำนวณเนื้อที่ (ร.ว.25จ) แสดงตำแหน่ง ของที่ดินคนละตำแหน่งกับที่ดินของนายนิวัฒน์ ปิยนามวาณิช โดยมีระยะทางห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งไม่อยู่ในเขตป่าชายเลน
ทั้งนี้เพื่อให้ส่วนบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 มีหนังสือตอบกลับว่าที่ดินของนายนิวัฒน์ ปิยนามวาณิช ไม่อยู่ในเขตป่าชายเลน
สาม.
ต่อมาในวันที่ 30 มิถุนายน 2558 นายนิวัฒน์ ปิยนามวาณิช ได้นำเจ้าหน้าที่เดินสำรวจที่ดินที่มีการครอบครองโดยไม่มีหลักฐานเดิมและไม่ได้แจ้งการครอบครองที่ดิน และได้ให้ถ้อยคำต่อผู้สอบสวนสิทธิว่าที่ดินดังกล่าวเจ้าของเดิมได้ครอบครองและทำประโยชน์ต่อเนื่องมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2515 โดยมีนายทรงยศ นาคฤทธิ์ กำนันตำบลถ้ำน้ำผุด ลงลายมือชื่อรับรองว่าที่ดินของนายนิวัฒน์ ปิยนามวาณิช ทำประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัยสวนมะพร้าว ปาล์มน้ำมัน และบ่อเลี้ยงกุ้งไม่เป็นที่สาธารณประโยชน์ ที่สงวนหวงห้าม หรือที่ซึ่งทางราชการได้สงวนไว้เพื่อทรัพยากรธรรมชาติ เป็นเหตุให้ผู้อำนวยการศูนย์เดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน จังหวัดกระบี่ - พังงา - ตรัง ได้ลงนามออกโฉนดที่ดินเลขที่ 19506 ตำบลถ้ำน้ำผุด อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา เนื้อที่ประมาณ 34 ไร่ ให้แก่นายนิวัฒน์ ปิยนามวาณิช เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2558 ซึ่งต่อมากรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ตรวจสอบพบว่าที่ดินที่มีการออกโฉนดดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2530 และวันที่ 22 สิงหาคม 2543 ซึ่งมีการบุกรุกทำประโยชน์เป็นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเกือบทั้งแปลงตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2538 และศาลอุทธรณ์ภาค 3 ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดเป็นคดีหมายเลขแดงที่ 3395/2540 ให้ผู้บุกรุกพร้อมบริวารออกจากป่าที่ยึดถือครอบครองแล้ว
การกระทำของนายนิติพน สุวรรณมณี กับพวก จึงเป็น การทุจริตเพื่อให้มีการออกโฉนดที่ดินในเขตป่าชายเลน อันเป็นที่ดินซึ่งทางราชการเห็นว่าควรสงวนไว้ เพื่อทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งต้องห้ามมิให้ออกโฉนดที่ดินตามกฎหมาย

ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบยืนยันข้อมูลจากเว็บไซต์กรมที่ดินเกี่ยวกับ โฉนดที่ดิน เลขที่ 19506 ตำบลถ้ำน้ำผุด อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา พบข้อมูลเพิ่มเติมว่า ที่ดินดังกล่าว มีขนาด 34 ไร่ 0 งาน 1.6 ตารางวา อยู่ติดกับศูนย์ราชการจังหวัดพังงา ส่วนราชการหลายแห่ง (ดูภาพประกอบ)


ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับ นายนิวัฒน์ ปิยนามวาณิช ผู้ครอบครองโฉนดที่ดินแปลงนี้ ในช่วงที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลข่าวเรื่องร้องเรียนกรณีการออกโฉนดที่ดินทับซ้อนกับแนวเขตป่าชายเลนสาธารณะประโยชน์ ในพื้นที่ หมู่ 3 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมือง จ.พังงา จำนวน 2 แปลง รวมเนื้อที่ 18 ไร่ เมื่อปี 2563
มีการตรวจสอบพบข้อมูลว่า นายนิวัฒน์ ปิยนามวาณิช ปรากฏชื่อครอบครองที่ดินหลายแปลง เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 1 แห่ง คือ บริษัท พังงาศรีอโนชา จำกัด ประเภทธุรกิจ รับเหมาก่อสร้าง ปัจจุบันยังดำเนินธุรกิจอยู่
สำหรับคดีนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้ว ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลผู้เกี่ยวข้องดังนี้
1. การกระทำของนายนิติพน สุวรรณมณี และนายมนตรี สาลิกา มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
2. การกระทำของนายทรงยศ นาคฤทธิ์ มีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
3. การกระทำของนายนิวัฒน์ ปิยนามวาณิช มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด และฐานความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ให้แจ้งกรมที่ดินดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดิน เลขที่ 19506 ตำบลถ้ำน้ำผุด อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา ที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามประมวลหมายที่ดิน มาตรา 61 ตามหน้าที่และอำนาจต่อไป
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
ผลการต่อสู้คดีในชั้นศาลจะเป็นอย่างไร ติดตามดูกันต่อไป

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา