
เทียบทรัพย์สิน 'เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ' รองนายกฯ-รมวคลัง ช่วง 2564-2567 พบ 3 ปี ทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 44 ล.-เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 30 ล.
กรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขณะดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพสามิต กรณีทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2567 นายเอกนิติ และนางร้อยแก้ว นิติทัณฑ์ประภาศ คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 159,791,606 บาท แจ้งมีหนี้สินทั้งสิ้น 2,003,119 บาท
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2564 ป.ป.ช.เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของ นายเอกนิติ ขณะดำรงตำแหน่งอธิบดีสรรพากร กรณีทุกสามปีตลอดเวลาที่ยังดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยนายเอกนิติและนางร้อยแก้ว แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 115,118,670 บาท แจ้งมีหนี้สินทั้งสิ้น 2,218,671 บาท และเมื่อเปรียบกับปี 2567 พบว่า นายเอกนิติและคู่สมรส มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 44,602,936 บาท หนี้สินลดลง 215,552 บาท

เมื่อดูทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นของนายเอกนิติ มีรายละเอียดดังนี้
@ รายละเอียดทรัพย์สินเมื่อปี 2564
เมื่อปี 2564 ป.ป.ช. เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร มีตำแหน่งในหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ หรือหน่วยงานเอกชน อีก 2 แห่ง คือ ประธานกรรมการธนาคารทหาราไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) และกรรมการบริษัทไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ส่วนนางร้อยแก้ว นิติทัณฑ์ประภาศ ภรรยา ปัจจุบันเป็น Senior External Relations Officer พนักงานองค์กรระหว่าประเทศ Asian Development Bank (ธนาคารพัฒนาเอเชีย)
นายเอกนิติ และ นางร้อยแก้ว แจ้งมีทรัพย์สินรวมกัน 115,188,670 บาท เป็น เงินฝาก 18,971,971 บาท เงินลงทุน ในพันธบัตรรัฐบาลและกองทุนต่างๆ รวม 52,898,281 บาท ที่ดิน 22,734,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 14,890,416 บาท ยานพาหนะ 3,500,000 บาท และทรัพย์สินอื่น 2,194,000 บาท
ทั้งนี้ มีหนี้สินรวมกัน 2,218,671 บาท เป็นเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น
@ เทียบกับปี 2567
โดยในปี 2564 นายเอกนิติแจ้งมีทรัพย์สิน 94,238,882 ประกอบด้วยเงินฝาก 15,506,800 บาท เงินลงทุน 52,062,585 บาท ที่ดิน 16,039,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 7,580,496 บาท ยานพาหนะ 2,100,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 950,000 บาท แจ้งมีหนี้สิน 2,218,671 บาท
เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2567 พบว่า นายเอกนิติมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 34,172,963 บาท แบ่งเป็น เงินฝากเพิ่มขึ้น 2,439,239 บาท เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 30,199,629 บาท (มีรายการเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 1 รายการ คือ Mutal Fund (TTB) ธนาคารทหารไทยธนชาติ) ที่ดินมูลค่าเพิ่มขึ้น 634,095 บาท (มีที่ดินเพิ่มขึ้น 1 แปลง คือที่ดินในจังหวัดกาญจนบุรี) ยานพาหนะมูลค่าเพิ่มขึ้น 100,000 บาท ทรัพย์สินอื่นเพิ่มขึ้น 800,000 บาท (มีนาฬิกาเพิ่มขึ้น 1 เรือน) หนี้สินลดลง 215,552 บาท
ส่วนในปี 2564 นางร้อยแก้ว แจ้งมีทรัพย์สิน 20,949,787 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 3,465,171 บาท เงินลงทุน 835,696 บาท ที่ดิน 6,695,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 7,309,920 บาท ยานพาหนะ 1,400,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 1,244,000 บาท ไร้หนี้สิน
เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2567 พบว่า นางร้อยแก้ว มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 10,429,974 บาท แบ่งเป็น เงินฝากลดลง 906,111 บาท เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 11,121,085 บาท (มีรายการเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 3 รายการ) ยานพาหนะมูลค่าลดลง 100,000 บาท ทรัพย์สินอื่นเพิ่มขึ้น 315,000 บาท

ภาพเอกสารบัญชีทรัพย์สินในปี 2564

ภาพเอกสารบัญชีทรัพย์สินในปี 2567
ภาพเอกสารรายละเอียดประกอบรายการเงินลงทุนในปี 2564

ภาพเอกสารรายละเอียดประกอบรายการเงินลงทุนในปี 2567

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา