"...ในการสนามการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ใช่มีแค่ ‘พรรคหน้าเก่า’ เท่านั้นที่เป็นผู้เล่นหลัก ยังมี ‘พรรคหน้าใหม่’ เปิดตัวลงชิงชัยเก้าอี้ สส.ด้วย โดยหลายพรรคเป็นคนการเมือง ‘หน้าเดิม’ ที่คลุกวงในอยู่แล้ว แต่ลาออกต้นสังกัดเก่า ไปตั้งพรรคใหม่ ขณะที่บางพรรคเปิดตัว ‘ผู้เล่นหน้าใหม่’ แทบไม่เคยสัมผัสเส้นทางการเมืองมาก่อน..."
ในสมรภูมิ 3 ก๊กการเมืองไทย ณ เวลานี้ ท่ามกลางกระแส ‘ชาตินิยม’ ยังคงเชี่ยวกราก 3 พรรคใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น พรรคประชาชน (ปชน.) พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย ทยอยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. รวมถึงแพลมชื่อ ‘แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคไว้แล้ว เหลือแค่ขั้นตอนการเปิดนโยบายหลัก ซึ่งพรรคเพื่อไทย เปิดไปแล้ว เหลือภูมิใจไทยนัด 24 ธ.ค. และ ปชน.นัดวันที่ 25 ธ.ค.นี้
อย่างไรก็ดีในการสนามการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ใช่มีแค่ ‘พรรคหน้าเก่า’ เท่านั้นที่เป็นผู้เล่นหลัก ยังมี ‘พรรคหน้าใหม่’ เปิดตัวลงชิงชัยเก้าอี้ สส.ด้วย โดยหลายพรรคเป็นคนการเมือง ‘หน้าเดิม’ ที่คลุกวงในอยู่แล้ว แต่ลาออกต้นสังกัดเก่า ไปตั้งพรรคใหม่ ขณะที่บางพรรคเปิดตัว ‘ผู้เล่นหน้าใหม่’ แทบไม่เคยสัมผัสเส้นทางการเมืองมาก่อน
ใครเป็นกันใครกันบ้าง สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รวบรวมให้ทราบ ดังนี้
หนึ่ง
พรรคโอกาสใหม่ มี ‘ปลัดตุ๋ม’ จตุพร บุรุษพัฒน์ อดีตปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหัวหน้าพรรค ขณะที่ในพรรคล้วนเต็มไปด้วย ‘อดีตบิ๊กเนมข้าราชการ’ เข้ามาเป็นฝ่ายบริหาร และแกนนำของพรรค โดยพรรคนี้ถูก ‘คอการเมือง’ ประเมินว่าเป็น ‘ศูนย์รวม’ ของอดีตข้าราชการวัยเกษียณ
ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า ‘สปอนเซอร์รายใหญ่’ ให้ทุนมาตั้งพรรคนี้ไว้ เพื่อเตรียมปักหลักสู้ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง อย่างไรก็ดีบรรดา ‘บิ๊กเนมการเมือง’ มิได้หอบหิ้ว สส.มาตามที่นัดพบเอาไว้ เนื่องจาก ‘สถานการณ์เปลี่ยน’ ทำให้พรรคจำเป็นต้องกระโจนลงสู่สนามเลือกตั้งทั้งที่อาจไม่พร้อมมากนัก

‘ปลัดตุ๋ม’ จตุพร บุรุษพัฒน์
สำหรับนโยบายหลักพรรคนี้ชูม็อตโต้ ‘การบริหาร นำการเมือง’ โดยใช้ระบบการบริหารราชการ จากอดีตข้าราชการระดับสูงหลายสังกัด หลายกระทรวง โดยจะนำเสียงของประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่ง ‘ปลัดตุ๋ม’ ประกาศเอาไว้ชัดเจนว่า พรรคนี้พร้อมจะเป็น ‘พรรคทางเลือก’ ให้แก่ประชาชน ที่เบื่อการเมืองรูปแบบเดิม ๆ ซึ่งน่าจับตาว่าจะได้คะแนนเสียงไปเท่าไหร่ในการเลือกตั้งครั้งนี้
ว่ากันว่าขณะนี้พรรคโอกาสใหม่เริ่มทยอยต่อสาย ‘อดีตบิ๊กเนม-บ้านเก่า’ หอบหิ้วสรรพกำลังมาเข้าพรรค เช่น ‘ตระกูลอยู่บำรุง’ เดิมไปล่มหัวจมท้ายกับ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทว่าล่าสุด ‘วัน อยู่บำรุง’ เปิดเผยว่า อาจมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทำให้หลายคนจับตาว่าอาจโยกย้ายมาอยู่พรรคนี้หรือไม่ เนื่องจากเคยปรากฏภาพ ‘วัน อยู่บำรุง’ ไปคุยกับ ‘ปลัดตุ๋ม’ เมื่อไม่นานมานี้
สอง
พรรคไทยก้าวใหม่ นำโดยอดีตผู้บริหารสาย ‘การศึกษา’ ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้แก่ ‘ดร.เอ้’ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ มาเป็นหัวหน้าพรรค มีคุณหญิงกัลยา โสภรณพนิช เป็นประธานพรรค พร้อมกับเปิดตัว ‘คนรุ่นใหม่’ เข้ามาร่วมทำงานเป็นจำนวนไม่น้อย ขณะที่อดีตบิ๊กเนมราชการ-องค์กรอิสระบางคน มาร่วมงานวันเปิดตัวพรรคด้วย
โดยแนวคิดของพรรคไทยก้าวใหม่ เน้นปฏิรูปด้านการศึกษาเป็นหลัก ขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง ประกอบด้วย 4 ข้อคือ 1.สร้างคนด้วยการศึกษา ด้วยนโยบายการศึกษาฟรี เพื่อยกระดับคนไทยให้พร้อมกับการแข่งงขันกับโลกอนาคต 2.สร้างเศรษฐกิจด้วยปัญญา ใช้วิทยาศาสร์และนวัตกรรม นำการพัฒนาเพื่อสร้างเศรษฐกิจชาตินิยมใหม่ที่เข้มแข็งและยั่งยืน 3.สร้างชาติที่โปร่งใส ผ่านการปลูกฝังจิตสำนึกรักชาติ ปฏิรูประบบราชการให้ใสสะอาด และ 4.สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี
ฐานคิดของพรรคไทยก้าวใหม่ คือดึงดูดฐานเสียง ‘คนรุ่นใหม่’ บางกลุ่มที่ยังอยู่ ‘ตรงกลาง’ ไม่ได้เลือกไปอยู่ฝ่ายไหนใน ‘สงครามการเมือง 3 ก๊ก’ ให้มาโหวตเลือกพรรคนี้เป็นอีกหนึ่งพรรคทางเลือกที่น่าจับตาไม่น้อย

‘ดร.เอ้’ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์
สาม
พรรคพลวัต ที่มี ‘นวล’ กัณวีร์ สืบแสง อดีต สส.หนึ่งเดียวของพรรคเป็นธรรม ซึ่งถูกทางพรรคขับไล่ออกมาก่อนหน้านี้ มาปักหลังยืนเป็นหัวหน้าพรรคแห่งนี้ โดยเขาหมายมั่นปั้นมือจะผลักดันพรรคพลวัต ให้มีที่ทาง-ที่ยืน ในสมรภูมิการเมืองที่กระแสชาตินิยมยังเชี่ยวกราก พร้อมกับประกาศจุดยืนค่อนข้างชัดเจนว่า หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า จะเป็นหนึ่งใน ‘พรรคร่วมรัฐบาล’ อย่างแน่นอน
โดยพรรคพลวัตของ ‘กัณวีร์’ ล่าสุดดึงอดีต สส.พรรคส้ม มาร่วมพรรคได้ 2 คน ได้แก่ อภิสิทธิ์ ไล่ศัตรูไกล อดีต สส.ปาร์ตีลิสต์ลำดับสูงปรี๊ดของพรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้งคราวที่แล้ว รวมถึง สุรพันธ์ ไวยากรณ์ อดีต สส.นนทบุรี พรรคส้ม มานั่งรองหัวหน้าพรรคด้วย
ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงจุดยืนและแนวคิดของ ‘นวล กัณวีร์’ อาจไม่ตอบโจทย์ฝ่ายประชาธิปไตย แม้ว่าในช่วงทำงาน สส. 2 ปีกว่าอยู่ร่วมเป็นพันธมิตรกับพรรคส้มมาโดยตลอด ทว่าปัจจุบันอาจไม่ตรงจริตกับ ‘พรรคส้ม’ ทำให้ไม่ถูกเชิญชวนให้เข้ามาทำงานด้วยก็ตาม แต่ ‘ผู้พันปุ่น’ น.ต.ศิธา ทิวารี ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในครั้งหน้า คอนเฟิร์มถึงจุดยืนของ ‘กัณวีร์’ ว่ายังเชื่อถือได้ และมีจุดยืนในฝ่ายประชาธิปไตย

‘นวล’ กัณวีร์ สืบแสง
โดยจุดยืนของพรรคพลวัต ในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้น ‘กัณวีร์’ ระบุว่า จุดยืนและอุดมการณ์ของตน ต้องการสร้างบ้านหลังเล็กที่แข็งแรง ขณะเดียวกันโจทย์ประเทศขณะนี้ใหญ่และซับซ้อนมากขึ้น จึงต้องการพื้นที่ที่อนุญาตให้ผมพุ่งชนปัญหาได้เร็วกว่าเดิมไม่ติดอยู่กับขั้นตอน เชื่อมั่นว่าพรรคพลวัตจะนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดแก่ประชาชน และเป็นทางเลือกที่พรรคปฏิบัติได้จริง รอไม่ได้ที่จะแก้ปัญหาที่เห็นอยู่ตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตการสู้รบไทย-กัมพูชา หรือปัญหาภัยพิบัติ ซึ่งการทำงานกับองค์การสหประชาชาติ (UN) สอนผมให้เน้น Action ไม่เน้น Process ที่ยืดเยื้อต้องเป็น Proactive Diplomacy ไม่ใช่แค่ตามแก้ข่าว ดังนั้นเลือกพรรคพลวัตจะไม่ได้แค่นักการทูต แต่จะได้อะไรที่มากกว่าการเมืองหรือการปกครอง
สี่
พรรครักชาติ เป็นอีกหนึ่งพรรค ‘เหล้าเก่าในขวดใหม่’ นำโดย ‘เสี่ยโอ๋’ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ‘บ้านใหญ่สิงห์บุรี’ อดีต รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเป็นหนึ่งใน ‘นักการเมือง’ ที่เคยอยู่ภายใต้ร่มเงา ‘3 ป.’ แห่ง ‘บูรพาพยัคฆ์’
แม้ว่าในช่วงกระแสพรรค พปชร.ตกต่ำ นักการเมืองหลายคนทยอยเดินออกจาก ‘บ้านป่าฯ’ ทว่ายังปรากฏ ‘ชัยวุฒิ’ ปรากฏกายข้างตัว ‘ลุงป้อม’ จนถึงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งใหม่ ที่ตัวเขาออกจาก พปชร.มาตั้งพรรครักชาติ ท่ามกลางเสียงเล่าอ้างว่า เป็นพรรคที่มีนายทุนระดับ ‘หัวขบวนอนุรักษนิยม’ มาช่วยจัดตั้งให้

‘เสี่ยโอ๋’ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ‘
สำหรับพรรครักชาตินั้น ‘เสี่ยโอ๋ ชัยวุฒิ’ เปิดเผยม็อตโต้ทางการเมืองว่า จะดำเนินการในรูปแบบ The New Political Start-up โดยให้สมาชิกพรรค ได้พูดถึงแนวคิดการทำงานการเมืองแบบใหม่ ไร้การทุจริตคอร์รัปชัน ที่จะนำไปสู่การพัฒนาประเทศในอนาคต นับเป็นอีกพรรคหนึ่งที่น่าจับตาว่า ในสนามการเมือง นอกเหนือจาก จ.สิงห์บุรี ที่เดิม ‘บ้านใหญ่ธนาคมานุสรณ์’ ผูกขาดอยู่นั้น ในจังหวัดอื่น ๆ เขาจะโกยแต้มชิง สส.ได้เพิ่มเติมหรือไม่
ห้า
พรรควิชชั่นใหม่ แม้ชื่อพรรคจะดูใหม่ แต่หัวหน้าพรรคหน้าเดิมนั่นคือ ‘พิเชษฐ สถิรชวาล’ อดีตแกนนำ สส.พรรคเล็ก ยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดย ‘พิเชษฐ’ เคยเป็นรัฐมนตรี 2 สมัยในรัฐบาล ‘ทักษิณ ชินวัตร’ เคยเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย ในรัฐบาล ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’
สำหรับ ‘พิเชษฐ’ เคยเป็นหัวหน้าพรรค หรือแกนนำพรรคมาแล้วหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น พรรคประชาธรรมไทย ก่อนจะไปรวมตัวกับพรรค พปชร. ต่อมาไปร่วมงานกับพรรคเปลี่ยน และย้ายไปสังกัดพรรคไทยศรีวิไลย์ ก่อนจะมานั่งหัวหน้าพรรควิชชั่นใหม่
โดยพรรคมุ่งเน้นการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน เนื่องจากเงินเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต การคิดดอกเบี้ยในระบบการเงินปัจจุบันส่งผลกระทบในวงกว้างต่อประชาชนทุกภาคส่วน ขณะนี้มีกองทุนและแหล่งเงินทุนจากต่างประเทศจำนวนมากพร้อมเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แต่ติดข้อจำกัดทางกฎหมาย พรรคจึงเห็นความจำเป็นในการผลักดันร่างพระราชบัญญัติสถาบันการเงินไร้ดอกเบี้ย เพื่อเปิดทางเลือกใหม่ทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ดังนั้นต้องรอจับตาดูว่า ‘พิเชษฐ’ ในยานพาหนะคันใหม่อย่าง ‘วิชชั่นใหม่’ จะโกยแต้ม สส.ได้มากเท่าไหร่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
หก
พรรคเศรษฐกิจ เดิมคือ ‘พรรคเส้นด้าย’ ก่อนรีโนเวตปรับโครงสร้างพรรค พร้อมเปลี่ยนชื่อมาเป็นพรรคเศรษฐกิจ ดึง ‘พล.อ.รังษี กิตติญาณทรัพย์' อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 มี ‘คริส โปตระนันท์’ อดีตผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ที่ตอนหลังหักกับ ‘โปลิตบูโรส้ม’ แยกตัวออกมา โดยมี ‘เฮียเล้า’ พีรพล กนกวลัย อดีตนายทุน ‘เส้นด้าย’ ปัจจุบันเป็น ส.ก. มานั่งเลขาธิการพรรค

‘พล.อ.รังษี กิตติญาณทรัพย์'
พรรคเศรษฐกิจ ชู 4 นโยบายหลัก (Key Pillars) ไม่ว่าจะเป็น การผลักดันโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ การปลดล็อกศักยภาพทางทะเลสู่ตลาดโลก การปฏิรูปกฎหมาย ปราบทุจริตขั้นเด็ดขาด ขึงโทษสูงสุดคือประหารชีวิต ไม่มีสิทธิ์ลดโทษ รวมถึงยกระดับระบบยุติธรรม ปฏิรูปตำรวจ เป็นต้น
พรรคนี้ถูกจับตาอย่างมาก ด้วยท่าทีแข็งกร้าวและนโยบาย ที่หลายคนมองว่าค่อนข้างจะ ‘ขวาจัด’ ทั้งในเรื่องของการแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจ การเมือง รวมถึงเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคุกรุ่นอยู่ในช่วงเวลานี้
ทั้งหมดคือ 6 พรรค ‘เหล้าเก่าในขวดใหม่’ ของการเมืองไทย ที่พร้อมเปิดตัวบนเวทีการเมืองระดับชาติ ปักหลักชิงชัย สส.ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ส่วนพรรคไหนจะโกยแต้มได้เข้าสภาฯ หรือพรรคไหนสอบตก อดไปต่อ คงต้องรอวัดฝีมือกันหลังจากนี้

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา