"...สาเหตุเนื่องจากสถานที่ก่อสร้างระบบการจัดการขยะเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงและปุ๋ยอินทรีย์ดังกล่าว อยู่ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่ง ซึ่งตามมติสภา อบต. ไม่อนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่ดังกล่าว และประชาชนไม่เห็นด้วยไม่ยอมให้นำขยะที่อื่นเข้ามาในพื้นที่ของตนเอง รวมทั้งสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด และเทศบาลเมือง ไม่ดำเนินการพิจารณาทบทวนปัญหาอุปสรรคเพื่อให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด..."
...................................
โครงการก่อสร้างระบบการจัดการขยะเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิง (Refuse derive fuel: RDF) และปุ๋ยอินทรีย์ ภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในระดับจังหวัดของเทศบาลเมืองแห่งหนึ่ง ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กว่า 39 ล้านบาท ถูกเรียกเงินคืนทั้งจำนวน หลังเวลาผ่านพ้นไปนานกว่า 4 ปี แต่ไม่ได้ดำเนินการโครงการแต่อย่างใด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สืบค้นรายงานผลการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พบว่า มีการระบุผลการตรวจสอบโครงการก่อสร้างระบบการจัดการขยะเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงและปุ๋ยอินทรีย์ เทศบาลเมืองแห่งหนึ่ง ซึ่งสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ในสังกัดของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานตั้งงบประมาณสนับสนุนภายใต้โครงการถ่ายโอนการสนับสนุนแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2559 วงเงิน 39.08 ล้านบาท
พบว่า ปัจจุบัน ระยะเวลาล่วงเลยมานานกว่า 4 ปี แล้ว แต่เทศบาลเมืองยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ สาเหตุเนื่องจากสถานที่ก่อสร้างระบบการจัดการขยะเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิงและปุ๋ยอินทรีย์ดังกล่าว อยู่ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่ง ซึ่งตามมติสภา อบต. ไม่อนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่ดังกล่าว และประชาชนไม่เห็นด้วยไม่ยอมให้นำขยะที่อื่นเข้ามาในพื้นที่ของตนเอง รวมทั้งสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด และเทศบาลเมือง ไม่ดำเนินการพิจารณาทบทวนปัญหาอุปสรรคเพื่อให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัด ส่งผลทำให้งบประมาณที่ได้รับการจัดสรรไม่สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการจัดการขยะและเสียโอกาสในการนำงบประมาณไปพัฒนาโครงการอื่นที่มีความจำเป็นสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนได้มากกว่า
เบื้องต้น สตง. ได้แจ้งผลการตรวจสอบและข้อเสนอแนะให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด และเทศบาลเมืองพิจารณาดำเนินการร่วมกันโดยการจัดหาสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการก่อสร้างระบบการจัดการขยะเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิง และปุ๋ยอินทรีย์ ทั้งนี้ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องเป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง หากไม่สามารถดำเนินการได้ให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ดำเนินการแจ้งสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อจะได้นำงบประมาณดังกล่าวไปใช้ในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาในพื้นที่อื่นที่สามารถดำเนินการได้ต่อไป หรือนำไปพัฒนาโครงการอื่นที่มีความจำเป็นมากกว่า
ต่อมา ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้มีหนังสือแจ้งผลการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของสตง. ว่าจากการที่จังหวัด ได้มีหนังสือถึงเทศบาลเมือง แจ้งให้หน่วยงานพิจารณาทบทวนการดำเนินการโครงการจัดการขยะเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิง และปุ๋ยอินทรีย์เนื่องจากไม่มีความก้าวหน้าในการดำเนินงานซึ่งมีระยะเวลาล่วงเลยมานานในช่วง 4 ปี และหากไม่สามารถดำเนินการโครงการดังกล่าวต่อไปได้ให้พิจารณาคืนงบประมาณ
ขณะที่ เทศบาลเมือง ได้มีหนังสือถึงจังหวัด แจ้งว่า ไม่สามารถดำเนินการโครงการก่อสร้างระบบโครงการจัดการขยะเพื่อผลิตเป็นเชื้อเพลิง และปุ๋ยอินทรีย์ได้ เทศบาลเมืองจึงขอคืนงบประมาณเงินอุดหนุนภายใต้แผนปฏิบัติการเพื่อจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัดดังกล่าว
ทั้งนี้ จากผลการตรวจสอบและการแจ้งข้อเสนอแนะให้หน่วยรับตรวจดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องและปรับปรุงการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้สามารถป้องกันมิให้เกิดค่าเสียโอกาสต่อการใช้งบประมาณมูลค่า 39.08 ล้านบาท และสามารถนำงบประมาณดังกล่าวไปใช้ในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาในพื้นที่อื่นที่สามารถดำเนินการได้ต่อไป หรือนำไปพัฒนาโครงการอื่นที่มีความจำเป็นมากกว่า
อย่างไรก็ดี ในรายงานผลการตรวจสอบเรื่องนี้ของ สตง. มิได้ระบุชื่อ เทศบาลเมือง ที่ถูกตรวจสอบพบปัญหากรณีนี้เอาไว้ จึงทำให้ สำนักข่าวอิศรา ไม่สามารถติดต่อไปยังผู้บริหาร เทศบาลเมือง เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงอีกด้านได้
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/