‘ประวิตร’ บุกอีสาน เยือน ‘หนองคาย’ ปราศรัยชู ‘ไม่รู้ ไม่รู้ แต่ไม่แล้งแน่’ โวคุมหน่วยน้ำ 3 ปี ไม่เคยมีข่าวแล้ง ปักธงกวาด ส.ส.ยกจังหวัด 3 เขต ’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 6 สิงหาคม 2565 ที่ จ.หนองคาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยกับสื่อมวลชนว่า การวางตัวผู้สมัครส.ส.อีสานตอนบนขณะนี้เต็มแล้ว ส่วนจังหวัดหนองคายที่มี 3 เขตเลือกตั้ง และเดิมเป็นของพรรคเพื่อไทยนั้น ก็หวังว่า จะได้ทั้งหมดทั้ง 3 ที่นั่ง
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเคยครองพื้นที่อยู่นั้นก็ว่ากันไป ก็แข่งกัน ใครชนะก็ว่ากันไป เพราะพรรคเราจะเอา 3 เขต เมื่อถามว่า หวัง ส.ส.ในพื้นที่อีสานทั้งหมดเท่าไหร่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนจะไปรู้การณ์ข้างหน้าได้อย่างไร แต่พอบอกไม่รู้ ก็บอกไม่รู้อีกแล้ว
เมื่อถามถึงสโลแกน ‘ไม่รู้ ไม่รู้ แต่ไม่แล้งแน่’ พล.อ.ประวิตรย้อนถามว่า ก็ไม่แล้งใช่หรือไม่ ไม่แล้งมา 3 ปีแล้ว ยังไม่พอใจอีกหรือ
‘ประวิตร’ ชูไม่มีแล้ง ซื้อใจชาวหนองคาย
จากนั้นบนเวทีปราศรัยที่ลาน ชิค ชิค มาร์เก็ต ได้มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จ.หนองคาย ประกอบด้วยนายกระแสร์ ตระกูลพรพงษ์ เขต 1, น.ส.ปภาสิริ ศรีตะบุตร เขต 2 และนายศักดิ์ดา จันทรสุวรรณ เขต 3 จากนั้นแกนนำพรรคพลังประชารัฐได้ผลัดเปลี่ยนกันปราศรัย
ก่อนที่เวลาในเวลา 18.20 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ขึ้นเวทีปราศรัย โดยได้เริ่มต้นด้วยการทักทายประชาชนที่มาฟังด้วยประโยค พี่น้องเอย 3 ครั้ง ทำให้ชาวบ้านที่มาฟังส่งเสียงขานรับอย่างชอบใจ
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ปราศรัยว่า วันนี้ตนมาแนะนำผู้สมัครภาคอีสานในจ.หนองคาย สิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องการคือน้ำ เพราะน้ำคือขีวิต รัฐบาลตระหนักเรื่องนี้อย่างดีจึงได้นำน้ำใต้ดิน หรือน้ำบาดาลมาช่วยเหลือประชาชน ได้มากกว่า 9 ล้านครอบครัวแล้ว และจะเดินหน้าต่อไปให้สมกับคำที่ว่ามีเราไม่มีแล้ง เราหมายถึงพรรคพลังประชารัฐ
"ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยไม่มีพื้นที่ประกาศภัยแล้งเลย ผมทำมา 3 ปี จะบอกว่าผมไม่รู้ไม่รู้แต่ไม่มีแล้ง ไม่มีแล้งแน่ๆ และต่อไปนี้จะไม่มีแล้ง เราจะพยายามทำให้ทั่วประเทศนั้นไม่มีแล้งผมจะทำให้คนอีสาน ไม่แล้ง ไม่จน สร้างคน สร้างงาน เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะทำและพรรคพลังประชารัฐก็จะทำด้วย"พล.อ.ประวิตร กล่าว
พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ที่ตนเดินทางมาภาคอีสาน มีวัฒนธรรมการต้อนรับด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นโดยการผูกผ้าขาวม้าที่รอบเอว ตนเลยอยากบอกด้วยคำพูดที่จริงใจว่า ‘ผ้าขาวม้า เชื่อมโลก’ ซึ่งภาคอีสานจะเป็นภาคที่เชื่อมโลก เป็นภาคที่รุ่งโรจน์มีผลิตภัณฑ์สินค้าและการกระจายสินค้าและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทุกจังหวัด โดยเฉพาะจ.หนองคาย ที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ มุ่งดำเนินการ เชื่อมทั้งโลกด้วยภาคอีสาน และเชื่อมด้วยระบบรางจากจีนเข้าสู่สปป.ลาว ทะลุหนองคาย อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา สู่กรุงเทพลงใต้ ไปประเทศมาเลเซีย
ย้ำ ‘ใจถึงพึ่งได้’
พล.อ.ประวิตร ทิ้งท้ายว่า ขอให้มั่นใจพรรคพลังประชารัฐที่ใจถึงพึ่งได้ เพื่อพี่น้องชาวอีสานและชาวไทยทุกคน เราทำให้ทุกคนอยู่ดีกินดีขึ้น ฝากพรรคพลังประชารัฐไว้กับชาวอีสานทุกคนด้วย และขอให้เลือกว่าที่ผู้สมัครส.ส.ทั้ง 3 คนของหนองคาย ให้เป็นส.ส. หวังอย่างยิ่งว่าที่ตนมาวันนี้จะจำหน้าตนได้ และเราคงจะพบกันอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากลงเวทีพล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ว่ามั่นใจจะได้ส.ส.ยกจังหวัดหนองคายทั้ง 3 เขตแน่นอน และเชื่อมั่นว่าในพื้นที่อีสานจะได้ส.ส.เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน จากนั้นได้มีการจุดพลุ จบเวทีการปราศรัย ก่อนที่พล.อ.ประวิตรจะเดินทางกลับโดยใช้รถตู้โตโยต้าอัลพาล์ด หมายเลขทะเบียน กต. 456 หนองคาย