
‘สคส.’ เผย OPPO-realme แจ้งไทม์ไลน์ปล่อยอัปเดต OTA เวอร์ชั่นใหม่ ถอน แอปฯ ‘เงินกู้’ ตั้งแต่ 16 ม.ค. พร้อมเปิดให้ ‘ผู้เสียหาย’ จากการ ‘ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล’ ติดต่อสำนักงานฯ ขณะที่ 'สภาผู้บริโภค' เปิดผู้เสียหายลงชื่อ ฟ้อง 'คดีแบบกลุ่ม'
........................................
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) เผยแพร่เอกสารข่าว โดยมีเนื้อหาว่า จากกรณีข่าวโทรศัพท์มือถือ OPPO-realme ติดตั้งแอปพลิเคชันเงินกู้ในโทรศัพท์มือถือซึ่งไม่สามารถลบออกได้ โดยแอปพลิเคชันชื่อ “สินเชื่อความสุข” และ “Fineasy” ถูกติดตั้งมากับระบบ ปฏิบัติการ System App บนสมาร์ทโฟนและยังสามารถส่งการแจ้งเตือนชักชวนให้กู้เงิน รวมถึงมีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้ ซึ่งสร้างความกังวลใจให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ตามที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ นั้น
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC ได้รับการประสานจาก ทาง OPPO- realme เกี่ยวกับแอปฯ “Fineasy” และ แอปฯ“สินเชื่อความสุข" ว่า ได้กำหนดเวลาการปล่อย OTA (Over-The -Air คือการส่งสัญญาณมาที่เครื่องมือถือโดยตรง) พร้อมเวอร์ชั่นอัปเดตให้กับทางผู้ใช้งาน ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.2568 เป็นต้นไป โดยผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนของโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 ยี่ห้อนี้ จะได้รับการอัปเดต OTA ซึ่งเป็นเวอร์ชันระบบใหม่ที่ไม่มีการติดตั้งแอปฯ “สินเชื่อความสุข” และ “Fineasy”
ทั้งนี้ หลังจากที่อัปเดตแล้ว เครื่องจะส่งรหัส OTA มาให้ผู้ใช้งานกรอก เมื่อกรอกรหัส OTA แล้วจะสามารถถอนการติดตั้งแอปฯ “สินเชื่อความสุข” และ “Fineasy” ออกได้ โดยโทรศัพท์มือถือ OPPO ปล่อย OTA ลอตสุดท้าย จะหมดภายในวันที่ 27 ม.ค.2568 และโทรศัพท์มือถือ realme ปล่อย OTA ลอตสุดท้าย จะหมดภายในวันที่ 21 ม.ค.2568 และหลังจากนี้ จะมีมาตรการที่ระบุว่า โทรศัพท์มือถือของ OPPO และ realme ที่วางขายอยู่ในร้านค้าและกำลังจะวางขายในอนาคต ต้องไม่มีแอปพลิเคชันเงินกู้ดังกล่าวอยู่ในเครื่องอีกต่อไป
สคส. ระบุด้วยว่า หากประชาชนได้รับผลกระทบหรือเสียหายจากการถูกละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลจากกรณีดังกล่าว สามารถติดต่อทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 1118800 อีเมล [email protected]
ด้าน นางนฤมล เมฆบริสุทธิ์ รองผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ฝ่ายพิทักษ์สิทธิ์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีการตั้งติดแอปฯเงินกู้ “Fineasy” มาพร้อมกับโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO และ Realme นั้น พบว่าทั้ง 2 บริษัท มีการกระทำผิดกฎหมายและละเมิดสิทธิส่วนบุคคล จึงขอเสนอให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะเป็นองค์กรรัฐที่กำกับดูแล พิจารณาลงโทษสั่งห้ามการจำหน่ายโทรศัพท์ทั้ง 2 ยี่ห้อ
“ขอเสนอให้ กสทช. ในฐานะเป็นองค์กรรัฐที่กำกับดูแล นำเหตุที่เกิดขึ้นมาเป็นเหตุผลในการพิจารณาลงโทษสั่งห้ามการจำหน่าย” นางนฤมล ระบุ
ขณะเดียวกัน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ขอเสนอให้ กสทช. กำหนดหลักเกณฑ์การนำเข้าโทรศัพท์ที่จะมาวางขายในประเทศไทยให้เข้มงวด โดยให้ครอบคลุมระบบปฏิบัติการในโทรศัพท์มือถือ รวมถึงแอปพลิเคชันที่รองรับระบบปฏิบัติการดังกล่าว พร้อมทั้งมีบทกำหนดโทษ หากผู้ใช้บริการเกิดผลกระทบใดๆจากการผู้ใช้บริการระบบโทรศัพท์มือถือ
นางนฤมล ยังระบุว่า ขณะนี้สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ออกประกาศเชิญชวนผู้เสียหายจากกรณีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO และยี่ห้อ Realme ซึ่งติดตั้งแอปพลิเคชันเงินกู้ Fineasy แจ้งเรื่องเพื่อดำเนินการฟ้องร้องพร้อมกันเป็นคดีกลุ่ม เพื่อลดค่าใช้จ่าย สู้คดีง่ายขึ้น และหากชนะจะทำให้ผู้เสียหายที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันได้รับการชดเชยอย่างเท่าเทียม โดยสามารถกรอกข้อมูลในกูเกิ้ล ฟอร์ม (google form) ที่ลิงก์ https://forms.gle/pi9gKwbnW2esXamQ9
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา สำนักงาน กสทช. ได้เชิญ บริษัท โพสเซฟี่ กรุ๊ป จำกัด ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ OPPO และบริษัท โปรทา จำกัด ตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ realme มาชี้แจงกรณีการติดตั้งแอปพลิเคชันเงินกู้ Fineasy โดยทั้ง 2 บริษัท ยอมรับว่า ได้ติดตั้งแอปพลิเคชันเงินกู้ มาพร้อมกับตัวเครื่องตั้งแต่ออกจากโรงงาน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคทำธุรกรรมทางการเงิน โดยไม่ได้ขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช. สั่งการให้ทั้ง 2 บริษัท ระงับการขายโทรศัพท์มือถือรุ่นที่ฝังแอปเงินกู้ฯ ซึ่งเตรียมเปิดตัวในตลาด และให้บริษัทฯส่งลิงก์ OTA Update ให้กับผู้ที่ใช้โทรศัพท์ OPPO และ Realme เพื่อลบแอปพลิเคชันเงินกู้ฯ โดยอัตโนมัติ ตั้งแต่ 16 ม.ค.2568 เป็นต้นไป ขณะที่นาย ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการ กสทช. ระบุว่า กสทช. หน้าที่เพียงตรวจสอบเพียงอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เท่านั้น ไม่รวมถึงซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งมาในเครื่อง
ขณะที่เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ OPPO และยี่ห้อ Realme ซึ่งติดตั้งแอปพลิเคชันเงินกู้มาจากโรงงานผลิต โดยที่ประชุมมีความเห็นว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาให้ครบทุกมิติ ตั้งแต่การตรวจสอบการติดตั้งแอปฯโดยที่ผู้ใช้บริการไม่ได้ยินยอม และการหาเจ้าภาพจัดทำกฎหมายเพื่ออุดช่องโหว่ต่างๆ
นอกจากนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้ประสานบริษัทโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 ยี่ห้อ เพื่อทำการถอนแอปพลิเคชันเงินกู้ออกไป ส่วนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งกำกับดูแลกฎหมายอนุญาตการประกอบธุรกิจให้สินเชื่อ กรณีที่แอปพลิเคชันที่ติดตั้งผ่านทางโทรศัพท์มือถือ และมีประชาชนกู้เงินและถูกคิดดอกเบี้ยเกิน 15% จะถือว่ามีความผิด ซึ่ง ธปท. จะเป็นเจ้าภาพหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา