
‘เลขาธิการ ป.ป.ส.’ เผย ‘ศาลชั้นต้น’ พิพากษาประหารชีวิต ‘อ่อง กิม วาห์’ พ่อค้ายาข้ามชาติ หลังถูกตั้ง ‘ค่าหัว’ 1 ล้านบาท ก่อนถูกจับได้ใน 'สปป.ลาว' ปี 66 พร้อมแถลงจับกุม 'ผู้สั่งการ' เครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ 2 คดี
................................
เมื่อวันที่ 9 เม.ย. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ป.ป.ส.) และนายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมแถลงผลคำพิพากษาลงโทษประหารชีวิต Mr. Ong Gim Wah (นายอ่อง กิม วาห์) นักค้ายาเสพติดข้ามชาติรายสำคัญ และเผยผลดำเนินการจับกุมเครือข่ายใหญ่ 2 คดีจับกุมบุคคลตามหมายจับ 2 คน ยึดอายัดทรัพย์สิน 30 ล้านบาท
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ดำเนินการ “โครงการประกาศสืบจับผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ” โดยมุ่งเน้นการจับกุมตัวการใหญ่ระดับสั่งการในเครือข่ายต่างๆ โดยใช้งบประมาณจากกองทุนป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด มาตั้งเป็นเงินรางวัลนำจับเพื่อสร้างแรงจูงใจ ให้กับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน โดยปีงบประมาณ 2568 นี้ ได้ตั้งเป้าหมายไว้ 200 ราย
โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้แล้ว 29 ราย ทั้งที่หลบหนีในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีการจ่ายเงินรางวัลนำจับไปแล้วกว่า 10.8 ล้านบาท และผลงานของโครงการฯ ที่เห็นได้ชัด คือ การนำตัว Mr. Ong Gim Wah (นายอ่อง กิม วาห์) มาลงโทษได้สำเร็จ และเมื่อวันที่ 4 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาลงโทษประหารชีวิต นายอ่อง กิม วาห์
สำหรับ Mr. Ong Gim Wah ถือเป็นนักค้ายาเสพติดข้ามชาติรายสำคัญระดับตัวการใหญ่ ซึ่งมีค่าหัวนำจับตามโครงการฯ สูงถึง 1 ล้านบาท มีบทบาทหลักในการจัดหาและประสานงานซื้อขายยาเสพติดจากแหล่งผลิตในสามเหลี่ยมทองคำ เชื่อมโยงเครือข่ายนักค้าในหลายประเทศ ทั้งไทย มาเลเซีย จีน สิงคโปร์ และสปป.ลาว ก่อนลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านประเทศไทยไปยังประเทศที่สาม เช่น มาเลเซีย ไต้หวัน และออสเตรเลีย
Mr. Ong Gim Wah ถูกออกหมายจับในคดีสำคัญจากการที่ สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานภาคีร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 7 คน พร้อมไอซ์น้ำหนัก 998 กิโลกรัม ที่ จ.ราชบุรี เมื่อปี 2566 หลังจากนั้น ได้หลบหนีไปกบดานใน สปป.ลาว แต่ด้วยความร่วมมือระหว่างสำนักงาน ป.ป.ส. และ สปป.ลาว ทำให้สามารถจับกุมตัวได้เมื่อปลายปี 2566 และส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย นับเป็นการปิดฉากการติดตามตัวที่สำนักงาน ป.ป.ส. ดำเนินการมาถึง 17 ปี
นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายของ Mr.Ong Gim Wah ทั้งในประเทศไทยมูลค่ากว่า 85 ล้านบาท และในประเทศมาเลเซียอีกกว่า 4,000 ล้านบาท เพื่อตัดวงจรทางการเงินของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ
@จับกุมผู้สั่งการเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ 2 คดี
พร้อมกันนี้ ป.ป.ส. ยังได้แถลงผลการจับกุมผู้สั่งการเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญอีก 2 คดี
คดีแรก จับกุมผู้สั่งการลำเลียงยาเสพติดเครือข่ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ
เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2568 สำนักงาน ป.ป.ส. โดยสำนักปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับ ปปส.ภ.5 และหน่วยงานภาคีทั้งทหารและตำรวจในพื้นที่ภาคเหนือ ได้สนธิกำลังเข้าจับกุม น.ส.พรกนก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ โดย น.ส.พรกนก มีบทบาทสำคัญเป็น ผู้สั่งการและประสานงาน ในเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติด
ในการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยึดอายัดทรัพย์สินของ น.ส.พรกนก ประกอบด้วย ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และยานพาหนะ มูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท การจับกุม น.ส.พรกนก ครั้งนี้ เป็นการขยายผลต่อเนื่องจากคดีสำคัญเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566 ที่สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยร่วม จับกุม ส.อ.ศุภากร (ขณะนั้นเป็นข้าราชการ อบต.) พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนมากถึง 2,000,000 เม็ด ขณะเตรียมลำเลียงจากด่านปูแกง อ.พาน จ.เชียงราย ไปส่งยังพื้นที่ภาคกลาง
ในครั้งนั้นได้มีการขยายผลตรวจค้น 7 จุด และยึดทรัพย์สินไปแล้วมูลค่า 5.3 ล้านบาท จากการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม ทำให้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งวันที่ 13 ตุลาคม 2566 ศาลอนุมัติหมายจับ น.ส.พรกนก กับพวกรวม 5 คน ในฐานะผู้สั่งการและผู้ร่วมขบวนการ ต่อมาในวันที่ 4 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเครือข่ายนี้ในพื้นที่ 3 จังหวัด (เชียงราย, เชียงใหม่, กทม.) อีก 6 จุด สามารถยึดอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมได้อีก ทั้งที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง รถยนต์ เงินสด และทองคำ รวมมูลค่าถึง 45 ล้านบาท
คดีที่สอง จับกุมผู้สั่งการเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดพื้นที่ตอนใน
เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2568 สำนักงาน ป.ป.ส. โดยสำนักปราบปรามยาเสพติด สนธิกำลังร่วมกับ ปปส.ภ.6, หน่วยปราบปรามยาเสพติดสลกบาตร (นปส.สลกบาตร) บช.ปส. และหน่วยข่าวกรองทางทหาร กองทัพภาคที่ 3 เข้าจับกุม นายแสงเพชร บุตรทอง หรือ "บอย" ผู้ต้องหาคนสำคัญตามหมายจับศาลอาญา ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ จ.นครสวรรค์
นายแสงเพชร หรือ บอย มีบทบาทเป็น ผู้สั่งการ ในเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ ในปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิด ประกอบด้วย ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ยานพาหนะ และที่ดิน รวมมูลค่าประมาณ 25 ล้านบาท การจับกุมครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากการขยายผลคดีจับกุมยาเสพติด
ก่อนหน้านี้ สภ.ตะพานหิน จ.พิจิตร จับกุมนายนทีธร พร้อมยาบ้า 6,900 เม็ด โดย นายนทีธร ให้การซัดทอดว่าได้ซื้อยาเสพติดมาจาก นายแสงเพชร หรือ บอย อีกทั้งยังเป็นผู้ซื้อรถยนต์ที่ใช้ในการขนส่งยาเสพติดให้อีกด้วย
นอกจากนี้ สภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จับกุมนายณรงค์ พร้อมยาบ้า 1,000,000 เม็ด จากการสืบสวนขยายผลพบว่า กลุ่มผู้รับยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน คือ นายพิสิฐ กับพวก ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 15 ส.ค.2567 สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยร่วม ได้จับกุมนายพิสิฐ ตามหมายจับที่ จ.ชลบุรี
โดยนายพิสิฐ ให้การยืนยันว่าตนได้รับคำสั่งจาก นายแสงเพชร บุตรทอง ให้ดำเนินการลักลอบลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว จากคำให้การของผู้ต้องหา ประกอบกับพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่รวบรวมได้ จึงนำไปสู่การขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ ที่ 150/2568 ลงวันที่ 28 ก.พ.2568 และเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด การจับกุมครั้งนี้นับเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยงและทำลายเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ตอนในที่สำคัญ
พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ กล่าวว่า ป.ป.ส. จะร่วมมือกับหน่วยงานภาคีทั้งในและต่างประเทศอย่างเข้มแข็งต่อไป เพื่อสืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิดตามหมายจับ และใช้มาตรการยึดทรัพย์เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดให้หมดสิ้นไป ความสำเร็จที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการบูรณาการข่าวกรองและความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพจนนำมาซึ่งผลสัมฤทธิ์ในการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา