
‘ศาลปกครองกลาง’ ยกฟ้อง ‘สผ.-พวก’ คดี ‘นิติบุคคลอาคารชุด เดอะ ดิโพลแมท’ ฟ้องเพิกถอนรายงาน EIA ‘เดอะไลน์ สาทร’ ชี้มิได้ละเลยการมีส่วนร่วมฯ-ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบฯ
.......................................
เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2568 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ ส.48/2561 คดีหมายเลขแดงที่ ส. 16/2568 ระหว่าง นิติบุคคลอาคารชุด เดอะ ดิโพลแมท สาทร ที่ 1 กับพวกรวม 67 คน (ผู้ฟ้องคดี) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ที่ 1 คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน กรุงเทพมหานคร ที่ 2 บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง ไนน์ทีน จำกัด ที่ 3 กรุงเทพมหานคร ที่ 4 ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ที่ 5 ผู้อำนวยการเขตบางรัก ที่ 6 (ผู้ถูกฟ้องคดี)
โดยผู้ฟ้องคดีทั้งหกสิบเจ็ด ฟ้องว่า การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ในการประชุมครั้งที่ 4/2561 เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2561 มีมติเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการ เดอะ ไลน์ สาทร (The Line Sathorn) ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ก่อนการประชุมรับฟังความคิดเห็นของผู้ฟ้องคดีทั้งหกสิบเจ็ด เป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการพิพาทดังกล่าว
ศาลปกครองกลางมีคำวินิจฉัยว่า แม้ในระหว่างการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการ เดอะ ไลน์ สาทร (The Line Sathorn) โดยผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 นั้น ยังไม่มีการรับฟังความเห็นของกลุ่มผู้พักอาศัยอาคารผู้ฟ้องคดีที่ 1 แต่ บริษัท เอิร์ธ แอนด์ ซัน จํากัด ที่ปรึกษาการจัดทำรายงาน EIA โครงการพิพาท ได้จัดให้มีการมีส่วนร่วมของประชาชนโดยการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนสองครั้ง
เพื่อรับฟังความคิดเห็น ข้อวิตกกังวลและข้อเสนอแนะที่มีต่อโครงการ สอบถามเกี่ยวกับความเพียงพอและความเหมาะสมของร่างมาตรการป้องกัน แก้ไขและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย รวมถึงการดำเนินการเพื่อขอความร่วมมือจากผู้ฟ้องคดีที่ 1 ให้ผู้พักอาศัยในอาคารของผู้ฟ้องคดีที่ 1 ตอบแบบสอบถามและนัดหมาย เพื่อจัดการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นอีกหลายครั้ง
จนถึงการจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2561 ภายหลังผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ได้มีมติเห็นชอบรายงาน EIA ซึ่งมีกลุ่มผู้ฟ้องคดีบางส่วน ผู้พักอาศัยจากอาคารผู้ฟ้องคดีที่ 1 และจากพื้นที่ข้างเคียงกว่า 100 คน เข้าร่วมประชุม โดยบริษัท เอิร์ธ แอนด์ ซัน จํากัด ได้ส่งมอบข้อมูลของโครงการให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้ได้รับผลกระทบครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ถือเป็นการปฏิบัติตามข้อสังเกตของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ที่ให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ติดตามผลการสำรวจของกลุ่มเป้าหมายระยะประชิดโครงการเพิ่มเติม โดยเฉพาะกลุ่มผู้พักอาศัยในอาคารพักอาศัยรวมและส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน
อันแสดงให้เห็นว่าในการพิจารณาและอนุมัติรายงาน EIA โครงการพิพาท ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 มิได้ละเลยการมีส่วนร่วมของผู้พักอาศัยอาคารของผู้ฟ้องคดีที่ 1 และผู้ฟ้องคดีทั้งหกสิบเจ็ด โดยนำมากำหนดเป็นขั้นตอนการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ถูกกำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ต้องถือปฏิบัติตามดังกล่าว ทั้งไม่มีบทบัญญัติใดบังคับให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ต้องจัดให้มีการทำประชาพิจารณ์ของผู้พักอาศัยในอาคารของผู้ฟ้องคดีที่ 1 ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายระยะประชิดโครงการตามที่ผู้ฟ้องคดีทั้งหกสิบเจ็ดกล่าวอ้างเพียงวิธีการเดียวไม่
การจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการ เดอะ ไลน์ สาทร (The Line Sathorn) ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 เป็นไปตามรูปแบบขั้นตอน วิธีการ ที่ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ.2548 และแนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนและการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางสังคม ในกระบวนการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2549 กำหนดครบถ้วนแล้ว
ดังนั้น การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ในการประชุมครั้งที่ 4/2561 เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2561 มีมติเห็นชอบกับรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการ เดอะ ไลน์ สาทร (The Line Sathorn) ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 จึงเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย
สำหรับข้ออ้างของผู้ฟ้องคดีทั้งหกสิบเจ็ดว่า การที่คณะกรรมการผู้ชํานาญการพิจารณาผู้มีสิทธิขอรับใบอนุญาตทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม มีมติเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้มีสิทธิทำรายงานเกี่ยวกับการศึกษาและมาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมของบริษัท เอิร์ธ แอนด์ ซัน จํากัด เนื่องจากการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการพิพาทมีกระบวนการและข้อมูลบางส่วนเป็นเท็จ
ได้แก่ (1) การแจ้งความกว้างของอาคารในส่วนที่แคบที่สุดให้ผู้แทนผู้ฟ้องคดีที่ 1 ไม่ตรงกับความจริงที่ระบุในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ฉบับแรกในขั้นตอนกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียกับการก่อสร้างโครงการพิพาท (2) การไม่นำข้อห่วงกังวลและข้อห่วงกังวลเพิ่มเติมของผู้พักอาศัยในอาคารผู้ฟ้องคดีที่ 1 ซึ่งเป็นผู้พักอาศัยในระยะประชิดกับอาคารโครงการไปใส่ไว้ในรายงานฉบับสมบูรณ์ นั้น
เห็นว่า ข้อมูลความกว้างส่วนที่แคบที่สุดของอาคารที่ระบุในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม คือ 8.45 เมตร โดยมีการแสดงแบบแปลน และรายการคำนวณการออกแบบโครงการสร้างรองรับแผ่นดินไหว รายการคำนวณระบบป้องกันการพังทลายของดินและแบบแปลนฐานรากที่มีเอกสารรับรองจากสถาปนิกและวิศวกรผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ข้อมูลที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 พิจารณาและให้ความเห็นชอบจึงเป็นข้อมูลถูกต้องตามข้อเท็จจริงและตรงกับแบบในรายงานแล้ว
ส่วนการไม่นำความเห็นของผู้พักอาศัยอาคารผู้ฟ้องคดีที่ 1 ในการประชุมเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 ไปใส่ไว้ในรายงานฉบับสมบูรณ์ มิได้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 แต่เป็นขั้นตอนหลังจากที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 มีมติให้ความเห็นชอบไปแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของบริษัทที่ปรึกษาสิ่งแวดล้อม จะต้องจัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์ส่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1
ทั้งนี้ ข้อมูลของการรับฟังความคิดเห็นของผู้ฟ้องคดีที่ต้องนำมาใส่ไว้ในรายงานฉบับสมบูรณ์ดังกล่าว เป็นขั้นตอนการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ถูกกำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ต้องถือปฏิบัติ
ดังนั้น การที่บริษัท เอิร์ธ แอนด์ ซัน จำกัด ถูกเพิกถอนใบอนุญาตเป็นผู้มีสิทธิทำรายงานเกี่ยวกับการศึกษาและมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม จึงมิได้ทำให้สาระสำคัญในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ใช้ประกอบการพิจารณาผิดไปจากข้อเท็จจริง จึงมิได้ส่งผลกระทบต่อความถูกต้องครบถ้วนของรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการพิพาท ข้ออ้างของผู้ฟ้องคดีทั้งหกสิบเจ็ดไม่อาจรับฟังได้ พิพากษายกฟ้อง
อ่านประกอบ :
‘ศาลปค.กลาง’นัดตัดสินคดี‘สผ.-พวก’ทำ EIA-ออกใบรับแจ้งก่อสร้าง‘เดอะไลน์ สาทร’ไม่ชอบ 15 พ.ค.

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา