
ครม.รับทราบมติบอร์ดอีอีซี ดึงศูนย์ซ่อมเครื่องบินอู่ตะเภามาลงทุนเอง หลัง ‘การบินไทย’ พ้นรัฐวิสหากิจ ไร้คุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ ‘จุฬา’ ดันออกประกาศเชิญชวนภายในปีนี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 17 มิถุนายน 2568 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบมติคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 4 /2567 เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 และพิจารณายกเลิกมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2561 เรื่อง ขออนุมัติโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา ตามที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง เป็นการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อรับทราบมติคณะกรรมการ กพอ. ครั้งที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 67 ที่เห็นชอบให้ปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินโครงการศูนย์ซ่อมบำรุง (MRO) อากาศยานอู่ตะเภา และขอให้พิจารณายกเลิกมติครม.เมื่อวันที่ 30 ต.ค.61 เรื่อง ขออนุมัติโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา เนื่องจากมติครม.ดังกล่าวได้อนุมัติในหลักการ โดยมอบหมายให้กองทัพเรือ (ทร.) ดำเนินการก่อสร้างอาคารศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานใหม่และให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมลงทุนกับเอกชน เพื่อออกแบบ จัดหา และติดตั้งอุปกรณ์และเครื่องมือในอาคารศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานใหม่ ให้บริการและซ่อมบำรุงรักษาของโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา เป็นระยะเวลาไม่เกิน 50 ปี
แต่โดยที่ปัจจุบันบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) พ้นจากสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ส่งผลให้ไม่สามารถอยู่ในฐานะหน่วยงานเจ้าของโครงการได้ ตามประกาศ กพอ. เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และกระบวนการ ในการร่วมลงทุนกับภาคเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน พ.ศ. 2560 (PPP EEC Track) จึงทำให้ไม่สามารถดำเนินการเป็นไปตามมติครม.เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 61 ได้ และ สกพอ. จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินการ จาก การให้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมลงทุนกับเอกชน เพื่อออกแบบจัดหา และติดตั้งอุปกรณ์และเครื่องมือในอาคารศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานใหม่ ให้บริการ ซ่อมบำรุงรักษาของโครงการดังกล่าวเป็นเวลาไม่เกิน 50 ปี เป็น การให้เอกชนเช่าที่ดินเพื่อประกอบกิจการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนไม่ขัดข้องในหลักการตามที่ กพอ. เสนอ
@เล็งประกาศเชิญชวนลงทุนในปีนี้
ด้านนายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการ กพอ. เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการยกเลิกมติ ครม.เดิม EEC น่าจะสามารถนำที่ดินในส่วนนั้นมาให้เอกชนเช่าเพื่อทำโครงการใหม่ได้ ส่วนจะเปิดประมูลให้เอกชนเข้ามาประมูล MRO ใหม่หรือไม่นั้นขณะนี้กำลังพิจารณาเนื่องจากมีเอกชนอยู่ไม่กี่รายที่สามารถจะลงทุนในโครงการลักษณะนี้ได้
นอกจากนี้ เอกชนที่มีศักยภาพนั้นอาจจะมีการจับมือกันเพื่อมาลงทุนในโครงการนี้ ส่วนการบินไทยหากยังสนใจที่จะลงทุนในโครงการนี้ก็สามารถหาพาร์ทเนอร์เข้ามาร่วมลงทุนได้ ซึ่งการบินไทยก็อยู่ในเกณฑ์ที่จะเข้ามาลงทุนเนื่องจากมีเครื่องบินจำนวนมากที่สามารถเข้าซ่อมบำรุงในประเทศแทนที่จะต้องไปใช้บริการในต่างประเทศ
ทั้งนี้ นายจุฬาระบุว่า พยายามที่จะเริ่มให้มีการลงทุนในโครงการ MRO ในสนามบินอู่ตะเภาได้ในปีนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการลงทุนรันเวย์ที่ 2 และอาคารผู้โดยสารใหม่ที่มีการลงทุนเพิ่มขึ้นในสนามบินอู่ตะเภา หากเริ่มลงทุนได้ในปีนี้จะสามารถเปิดให้บริการในปี 2572
“โครงการ MRO นั้นหากไม่ใช้การประมูล จะเป็นการเชิญชวนเอกชนเข้ามาลงทุน อาจเป็นเอกชนไทย หรือจากต่างประเทศ หรือที่มาลงทุนร่วมกัน ซึ่งต้องดูในรายละเอียด โดยกฎหมายสามารถทำได้”นายจุฬา กล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา