
ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดน-กัมพูชาเปิดฉากยิง ใช้อาวุธหนัก BM 21-ปืนใหญ่ 122 มิลลิเมตร ถล่มใส่ศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดนฯ-โรงพยาบาล ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ-รักษาการแทนนายกฯ ถก สภาความมั่นคงแห่งชาติ วางแนวทาง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทยในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ด้านความมั่งคง แถลงภายหลังการประชุมศบ.ทก. ถึงความคืบหน้าของสถานการณ์ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ว่า เหตุการณ์แรก เมื่อวันที่ 23 ก.ค.68 เวลา 16.55 น. เกิดเหตุการณ์การลอบวางทุ่นระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ส่งผลให้มีกำลังพลจากชุดลาดตะเวน กองพันทหารราบที่ 14 กองทัพบก ได้รับบาดเจ็บสาหัส 5 นาย โดย 1 ในนั้น ได้รับบาดเจ็บสาหัสข้อเท้าขาด 1 นาย
พลเรือตรีสุรสันต์กล่าวว่า วันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ (24 ก.ค.68) เกิดเหตุการณ์สำคัญ ตั้งแต่เวลา 07.35 น. ฝ่ายกัมพูชาใช้โดรนบินเพื่อตรวจการณ์ การวางกำลังของฝ่ายไทย บริเวณปราสาทตาเมือน
“จากนั้นมีความมเคลื่อนไหวของฝ่ายกำลังกัมพูชาโดยนำอาวุธเข้าประจำการบริเวณด้านหน้าแนวรั้วลวดหนาม พร้อมกำลังพล 6 นาย อาวุธครบมือ โดยมี RPG อยู่ในมือ เคลื่อนมายังบริเวณแนวหน้า ฝ่ายไทยเองเห็นว่า สถานการณ์ดูแล้วไม่น่าปลอดภัยจึงได้ใช้ความพยายามตะโกนเจรจา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ”พลเรือตรีสุรสันต์กล่าว
@ กัมพูชาเปิดฉากยิง
พลเรือตรีสุรสันต์ กล่าวว่า จากนั้นเวลา 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาก็ได้เริ่มเปิดฉากยิง บริเวณตรงข้ามทางหมูป่า ทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ห่างจากปราสาทตาเมือน ประมาณ 200 เมตร ทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องตอบโต้
พลเรือตรีสุรสันต์ กล่าวว่า จากนั้นสถานการณ์ได้ขยายพื้นที่ออกไปตามแนวชายแดนต่างๆ เกิดพื้นที่ปะทะอีก 6 พื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร บริเวณห้วยตามาเรียและภูมะเขือ ช่องอานม้า และช่องจอม

พลเรือตรีสุรสันต์กล่าวว่า ปัจจุบันฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธหนัก เช่น BM 21 และปืนใหญ่ขนาด 122 มิลลิเมตร ทำให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนของฝ่ายไทย รวมทั้งประชาชนไทยเสียชีวิต นอกจากนั้นยังมีการโจมตีพื้นที่สาธารณะ คือ ศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ และโรงพยาบาลของฝ่ายไทย
พลเรือตรีสุรสันต์กล่าวว่า ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 3 ราย โดยเป็นเด็กชายอายุ 5 ขวบ 1 คน และเสียชีวิต 1 คน ในพื้นที่ชุมชนในบริเวณชายแดนพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์
@ จับตาภูมิธรรมประชุมสภาความมั่นคงฯ
พลเรือตรีสุรสันต์กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าว ฝ่ายไทยได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 มาตรา 39 โดยให้กองทัพไทยจัดตั้งศูนย์บัญชาการทางทหาร (ศบท.) ในแต่ละดับชั้นขึ้นมาตั้งแต่ระดับยามปกติเพื่อติดตามสถานการณ์ ควบคุม อำนวยการและสั่งการการปฏิบัติ
“ทั้งนี้ ศูนย์บัญชาการทางทหาร มีผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้บังคับบัญชา สามารถดำเนินการใช้กำลังทางทหารในการปฏิบัติการทางการทหารได้”พลเรือตรีสุรสันต์กล่าว
พลเรือตรีสุรสันต์ กล่าวว่า ประเด็นที่สาม ในส่วนของ ศบ.ทก. เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันทำให้ต้องยกระดับมาตรการควบคุมชายแดนและจุดชายแดนต่างๆ ในระดับที่สี่ คือ การปิดด่านการเข้าออกทุกด่านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
พลเรือตรีสุรสันต์กล่าวว่า ประเด็นที่สี่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) จับตาการเดินทางของกลุ่มนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางโดยเครื่องบินเพื่อไปเล่นการพนันตามแนวทางแดนไทย-กัมพูชา และกลับเข้ามาทางแนวชายแดนทางบกต่าง ๆ โดยทางการได้รวบรวมและติดตามพฤติกรรมอย่างต่อเนื่องและเข้มงวดมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ วันนี้ (24 ก.ค. 68) ในเวลา 14.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย จะเป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ วาระพิเศษ ซึ่งจะมีการประเมินสถานการณ์และกำหนดแนวทางในการดำเนินการที่ชัดเจนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป
@ คณะทูตต่างประเทศตอบรับท่าทีไทย
ด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะโฆษก ศบ.ทก. ด้านต่างประเทศ กล่าวว่า เรื่องแรก การควบคุมจุดผ่านแดน ที่ผ่านมาไม่ได้ปิดด่าน เพียงแต่เพิ่มความเข้มงวด เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและความปลอดภัยของประชาชน แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันทางการไทยมีความจำเป็นต้องปิดด่านเพื่อปกป้องอธิปไตยบูรณภาพแห่งดินแดนและดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นมาตรการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน จากขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ที่ผ่านมา จนบัดนี้เป็นขั้นที่ 4

นางมาระตี กล่าวว่า เรื่องที่สอง เมื่อวันที่ 23 ก.ค.68 ได้จัดการบรรยายสรุปแก่คณะทูตต่างประเทศ โดยมีผู้แทนเข้าร่วม 93 คน จาก 68 ประเทศและผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศกรณีเกิดเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดที่ช่องบก อุบลราชธานี และการประท้วงจากฝ่ายไทย ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี โดยได้ชี้แจงท่าทีและจุดยืนที่ผ่านมา รวมถึงการดำเนินการต่อไป ซึ่งผู้แทนประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาได้รับทราบและเห็นพ้องกับแนวทางของไทยซึ่งเป็นไปตามพันธะกรณีของไทย
“เหตุการณ์เมื่อวาน (23 ก.ค.68) ที่มีกำลังพลกองทัพบก 5 นาย เหยียบกับระเบิดในพื้นที่ช่องอานม้า กระทรวงการต่างประเทศขอประณามอย่างที่สุด การละเมิดอธิปไตย การละเมิดอนุสัญญาออตตาวา กระทรวงการต่างประเทศจะเดินหน้าประท้วงต่อไป”นางมาระตีกล่าว
นางมาระตี กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การปะทะระหว่างกำลังสองฝ่ายขณะนี้ ฝ่านกัมพูชาเป็นฝ่ายริเริ่ม ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ากระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการปกป้องผลประโยชน์ท่าทีและอธิปไตยของไทยในเวทีระหว่างประเทศอย่างเต็มที่ที่สุด กระทรวงการต่างประเทศพร้อมทำงานอย่างมีเอกภาพกับกองทัพไทยเพื่อปกป้องอธิปไตยไทยและบูรภาพแห่งดินแดนตามกฎหมายระหว่างประเทศต่อไป

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา