
สธ.อัปเดตสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา เสียชีวิตทางอ้อม 3 ราย โรงพยาบาลได้รับผลกระทบ รวม 20 แห่ง ปิดบริการทั้งหมด รวม 9 แห่ง ปิดบางส่วน รวม 11 แห่ง พบ ปชช.เครียดสูง 1,603 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2568 นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) รายงานสถานการณ์ข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบ (ฝั่งพลเรือน) ว่า ผลกระทบทางตรง เสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บสาหัส 12 ราย บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย (รวม 52 ราย)
ผลกระทบทางอ้อม เสียชีวิต 3 ราย รวมพลเรือนเสียชีวิต 17 ราย ปัจจุบันกำลัง Admit อยู่ 9 ราย ยอดรวมจำหน่ายกลับบ้านไปได้แล้วรวม 21 ราย
นอกจากนี้ โรงพยาบาลขณะนี้ได้รับผลกระทบ รวม 20 แห่ง ปิดบริการทั้งหมด รวม 9 แห่ง ปิดบางส่วน รวม 11 แห่ง
ส่วน รพ.สต.ขณะนี้ได้รับผลกระทบ รวม 139 แห่ง (ปิดบริการทั้งหมด 128 แห่ง ปิดบางส่วน 11 แห่ง)
นพ.วรตม์ กล่าวว่า ส่วนทีมปฏิบัติการด้านสาธารณสุข กำลังลงปฏิบัติงาน จำนวน 445 ทีม เตรียมพร้อมไว้ทั้งหมดรวม 1,167 ทีม (ทีมปฏิบัติการ ได้แก่ MERT, Mini MERT, ALS, JIT, MCATT, SEhRT) และมีทีมสนับสนุนอีก 43 ทีม พร้อมกระจายไปยังจังหวัดพื้นที่เสี่ยงเพิ่มเติม
การดำเนินงานด้านการดูแลด้านสุขภาพจิตคัดกรองไปแล้ว 54,506 ราย พบเครียดสูง 1,603 ราย และเสี่ยงฆ่าตัวตาย 231 รายทีม MCATT นักจิตวิทยาและจิตแพทย์เข้าให้ความช่วยเหลือทุกราย ในรายที่อากาารหนักจะมีการจ่ายยา รวมถึงส่งต่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล





@สธ. วางระบบดูแลสุขภาพจิต ป้องกันทำร้ายตนเอง
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์และการดูแลด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อมูล ณ เวลา 09.00 น. มีรายงานผู้เสียชีวิตรวม 17 ราย โดยเป็นการเสียชีวิตจากผลกระทบทางตรง 14 ราย อีก 3 ราย เป็นผลกระทบทางอ้อม คือ ติดเชื้อในกระแสเลือด, โรคหลอดเลือดสมอง และทำร้ายตนเอง
ส่วนผู้บาดเจ็บคงเดิม 38 ราย ยังรักษาในโรงพยาบาล 9 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 6 ราย อาการปานกลาง 3 ราย โรงพยาบาลปิดบริการ 9 แห่ง กลับมาเปิดบริการบางส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 11 แห่ง เช่นเดียวกับ รพ.สต. กลับมาเปิดบริการบางส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 11 แห่ง เหลือที่ยังปิดอีก 128 แห่ง ส่วนศูนย์พักพิงลดลงเหลือ 677 แห่ง ผู้เข้าพักรวม 188,398 คน เป็นกลุ่มเปราะบาง 37,474 คน มีทีมปฏิบัติการด้านการแพทย์ ควบคุมโรค อนามัยสิ่งแวดล้อม และสุขภาพจิต หมุนเวียนดูแล 327 ทีม และทีมกู้ชีพขั้นสูงพร้อมรถฉุกเฉินอีก 118 ทีม
ต้องขอขอบคุณบุคลากรจิตอาสาจากทั่วประเทศที่สมัครเข้าร่วม “ทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุขระดับเขตสุขภาพ” เพื่อเตรียมช่วยแบ่งเบาภาระทีมปฏิบัติการในพื้นที่ ประกอบด้วย แพทย์ 109 คน พยาบาล 1,038 คน เภสัชกร 14 คน และสหวิชาชีพอื่นๆ 826 คน รวม 1,987 คน
นพ.โสภณกล่าวต่อว่า ได้เร่งรัดเรื่องการดูแลด้านสุขภาพจิตเพื่อป้องกันเหตุทำร้ายตนเอง โดยล่าสุดคัดกรองประชาชนเพิ่มขึ้นเป็น 54,506 คน พบเครียดสูง 1,603 คน เสี่ยงฆ่าตัวตาย 231 คน ทุกรายได้รับการปฐมพยาบาลทางใจ และส่งเข้ารับการดูแลตามกระบวนการ ขณะเดียวกัน กรมสุขภาพจิตได้วางแนวทางการดำเนินงานในศูนย์พักพิงให้เข้มข้นขึ้น ทั้งระบบคัดกรองปัญหาฆ่าตัวตาย การประเมินกลุ่มเสี่ยงด้านจิตเวช ระบบการดูแล ส่งเสริมครอบครัว ญาติ และประชาชนในศูนย์ร่วมสอดส่องดูแลจิตใจกันและกัน หากมีความเสี่ยงน้อยจะมีคู่บัดดี้ เสี่ยงปานกลางหรือสูง จะให้เข้ารับการรักษาและส่งต่อโรงพยาบาล เป็นต้น และยังเฝ้าระวังเข้มงวดทั้งสุขาภิบาลอาหารและสิ่งแวดล้อม และการป้องกันควบคุมโรคระบาด
“กรณีมีข้อมูลเผยแพร่เกี่ยวกับการให้บริการผู้ป่วยของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ได้มีคำชี้แจงเพิ่มเติมจากโรงพยาบาลแล้วว่า เป็นการปรับบริการให้สอดคล้องตามสถานการณ์ เนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์ส่วนหนึ่งต้องออกปฏิบัติงานดูแลประชาชนในศูนย์พักพิงที่มีจำนวนมากด้วย จึงมีการปิดบริการในส่วนของคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ” นพ.โสภณกล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา