
‘ตำรวจสอบสวนกลาง’ สนธิกำลัง ‘บก.ปปป.’ บุกจับ ‘จอนนี่มือปราบ-เมีย’ พร้อม ‘นายก อบต.-ผู้ใหญ่บ้าน- อดีต ผอ.กองช่าง’ คดีร่วมกันทุจริตออกใบอนุญาตก่อสร้างฯ ‘รีสอร์ต’ รุกที่ดินป่าไม้ ‘นิคมอุบลฯ’ ขณะที่ 'ผู้ต้องหา' ให้การปฏิเสธ พบมีการทำเอกสาร 'เป็นเท็จ'
..........................
เมื่อวันที่ 14 ส.ค. เวลา 08.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.)
และ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) นำกำลังลงพื้นที่เข้าตรวจค้นเป้าหมายหลายจุด ในพื้นที่ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี เพื่อกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาขบวนการเจ้าหน้าที่รัฐท้องถิ่นทุจริตเอื้อประโยชน์นายทุนสร้างรีสอร์ทรุกล้ำเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 3 จำนวน 5 ราย
ประกอบด้วย นายทุน 2 ราย คือ ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือ “จอนนี่มือปราบ” อดีตนายตำรวจชื่อดัง และ น.ส.จิราพร สีบุระ ภรรยา ข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ,เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารให้รับรองเป็นหลักฐานอันเป็นความเท็จ และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริต”
ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 3 รายเป็นกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำการทุจริตต่อหน้าที่ ประกอบด้วย นายมิตรชัย ขันคำ ผู้ใหญ่บ้าน นายศุภชัย ท้วมสกุล อดีต ผอ.กองช่าง และ นายสมาน อุ่นวงศ์ นายก อบต. คำเขื่อนแก้ว ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารรับเอกสารแต่กลับรับรองหลักฐานเท็จ ,เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริต”
สำหรับปฏิบัติการดังกล่าว สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีตัวแทนจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ตำรวจป่าไม้ (บก.ปทส.) ว่า รีสอร์ตล่องแพ และบ้านพักพลูวิลล่า ของ ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือ "จอนนี่ มือปราบ" และ น.ส.จิราพร สีบุระ ภรรยา ของ ด.ต.ยุทธพล ก่อสร้างบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ป่าไม้ของนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย จึงจัดกำลังลงพื้นที่เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนพบว่ารีสอร์ตดังกล่าวมีการรุกล้ำพื้นที่ป่าไม้จริง
อีกทั้งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ยังพบความผิดปกติเกี่ยวกับการยื่นขออนุญาตก่อสร้าง รีสอร์ทดังกล่าว เพราะตามหลักความเป็นจริงแล้วไม่สามารถขออนุญาตก่อสร้างได้ เนื่องจากเป็นที่นิคมฯ หรือ ที่ป่าไม้ แต่ในกรณีรีสอร์ตของ ด.ต.ยุทธพล กลับมีการขออนุญาตได้ ทางตำรวจ บก.ปปป. จึงจัดกำลังลงพื้นที่แฝงตัวสืบสวนตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่รัฐท้องถิ่นที่มีอำนาจในการออกใบอนุญาตให้ก่อนพบว่ามีการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบเพื่อช่วยเหลือ หรือ เอื้อประโยชน์ให้กับ ด.ต.ยุทธพล และ ภรรยา ที่เป็นนายทุนหรือเจ้าของรีสอร์ตให้สามารถก่อสร้างได้
โดยแผนประทุษกรรมของผู้ต้องหากลุ่มนี้เริ่มจาก ด.ต.ยุทธพล และ น.ส.จิราพร ภรรยา ได้กว้านซื้อที่ดินในพื้นที่ที่ถูกกันไว้เป็นป่าส่วนกลางในนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อยมาไว้ในครอบครอง จากนั้นก็ได้ให้ นายมิตรชัย ผู้ใหญ่บ้าน ลงชื่อร่วมเป็นพยานในการซื้อขายที่ดินดังกล่าว รวมถึงยังให้นายมิตรชัย ลงชื่อเป็นผู้รับรองในการยื่นขออนุญาตก่อสร้าง ด้วยการลงข้อมูลอันเป็นเท็จโดยอ้างว่า “เป็นการปลูกบ้านใหม่ในที่ดินว่างเปล่า ไม่มีเอกสารสิทธิ แต่ไม่ได้อยู่ในเขตป่าสงวน อุทยานแห่งชาติ หรือหน่วยงานของรัฐ”
ก่อนที่ นายสมาน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคำเขื่อนแก้ว กับ นายศุภชัย ผอ.กองช่าง ในขณะนั้นจะร่วมลงชื่อเป็นผู้รับรองออกใบอนุญาตให้ ทั้งที่ทราบดีอยู่แล้วว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถออกใบอนุญาตปลูกสร้างให้ได้
กระทั่งเมื่อบ้านหรืออาคารหลังดังกล่าวมีการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ ด.ต.ยุทธพล และ น.ส.จิราพร จึงได้นำเอกสารใบรับรอง หรือ ใบอนุญาตการก่อสร้างที่ได้มาโดยมิชอบ ไปยื่นขอเลขที่บ้านกับทางอำเภอ ซึ่งการกระทำดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อรัฐเป็นอย่างมาก ทางอำเภอจึงส่งตัวแทนเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหากลุ่มนี้ ก่อนที่ทางพนักงานสอบสวนจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด 5 ราย จนนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายตามจุดต่างๆในวันนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาขบวนการดังกล่าวได้ครบทั้ง 5 ราย โดยทั้งหมดถูกจับกุมตัวที่ อบต.คำเขื่อนแก้ว ทั้งนี้ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ
@ตรวจสอบพบว่ามีการทำเอกสาร‘เป็นเท็จ’
รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา 5 คน ปรากฏว่า ในช่วงระหว่างการสอบสวน พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้อธิบายข้อกฎหมายให้ผู้ต้องหาฟัง เพื่อทำความเข้าใจในการจับกุมครั้งนี้ ปรากฏว่ามี ปลัด อบต.คนใหม่ ที่เพิ่งย้ายมาจากจังหวัดอยุธยาได้แสดงความเห็นต่าง ทำให้ พล.ต.ต.ประสงค์ ต้องอธิบายเพิ่มเติม แต่ปลัด อบต. คนดังกล่าว กลับใช้เสียงดัง ลักษณะดุดัน ทำให้บรรยากาศในการพูดคุยมีความตึงเครียด
ก่อนที่ พล.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่นั่งเป็นประธานต้องยุติด้วยการให้ปลัด อบต. คนดังกล่าวแสดงตัว ว่า ชื่ออะไรเป็นใคร และเกี่ยวข้องกับคดีอย่างไร ถึงได้เข้ามาอยู่ที่ห้องประชุมได้ เมื่อพบว่า บุคคลดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ จึงเชิญออกนอกห้องการสอบสวน แต่ระหว่างนั้น ก็สร้างความไม่สบายใจให้กับปลัด อบต. คนใหม่ จึงมีท่าทีไม่พอใจก่อนจะเดินออกจากห้องประชุมไป
ต่อมาเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ พร้อมคณะ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ได้เดินทางไปยัง รีสอร์ตล่องแพ และบ้านพักพลูวิลล่า ของ ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือ "จอนนี่ มือปราบ" เพื่อปักป้ายอายัดพื้นที่ดังกล่าวไว้ตรวจสอบ พร้อมสั่งหยุดดำเนินกิจการชั่วคราว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์วา ปฏิบัติการในวันนี้เป็นการบูรณาการร่วมกันหลายฝ่าย สืบเนื่องจากมีนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายจอนนี่และพวก ในเรื่องการบุกรุกพื้นที่ที่ถูกกันไว้เป็นพื้นที่ป่าสงวนในนามนิคมฯ 20% เป็นพื้นที่สาธารณะ มีไว้สำหรับประชาชนให้ใช้ในส่วนรวม ไม่มีการอนุญาตให้ใครเข้ามาทำประโยชน์ทั้งนั้น แต่ปรากฏว่าจอนนี่และพวกไม่ได้อยู่ในกลุ่มเปราะบาง ซึ่งไม่มีที่ดินทำกิน แต่เป็นลักษณะเหมือนนายทุนมาสร้างรีสอร์ตนี้ไว้
หลังจากนี้ บก.ปทส. ก็จะไปแจ้งข้อกล่าวหากับนายจอนนี่และพวกรวมถึงเจ้าของเดิมด้วยที่ขายให้ น่าจะมีหลายข้อหา อีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เข้ามาอนุมัติในการซื้อขายที่ตรงนี้ โดยคนที่ถูกดำเนินคดีแจ้งข้อหาในวันนี้ยังไม่จบ ยังมีเรื่องของบุคคลที่เราต้องสืบสวนต่อ หรืออาจจะแจ้งข้อหาต่อว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนร่วมทำเอกสารด้วย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีการทำเอกสารเป็นเท็จ ในการยืนยันว่าที่ตรงนี้มีการปลูกบ้านไว้ก่อน และแสดงหลักฐานไว้ที่อบต. หลักฐานก้อนนี้ไปตรวจสอบแล้วไม่ตรง ที่ไปรายงาน อบต. ไม่ตรงกัน มีการเซ็นเอกสารส่งต่อไปให้อำเภอ ดังนั้น อำเภอจึงต้องรู้เรื่องว่า การดำเนินการตรงนี้เป็นเท็จ ตรงนี้จะมีความผิดมาตรา 162 ส่วนนายจอนนี่กับภรรยา เป็นกรณีการสนับสนุน จึงขออนุญาตศาลออกหมายจับ 5 คน มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว 4 ส่วนอีก 1 คนก็มามอบตัวแล้ว และจะสอบปากคำ ส่วนจะให้ประกันตัวหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง
“ขอแจ้งเตือนไปว่าเจ้าหน้าที่รัฐคนใด การที่อนุมัติพื้นที่อะไรต่างๆ ควรที่จะรู้ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่หวงห้ามหรือเป็นพื้นที่ของรัฐที่กันไว้ และไปเซ็นอนุญาตทั้งที่มันไม่สามารถอนุญาตได้ และคิดว่าน่าจะมีเคสแบบนี้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ จะต้องขยายเพิ่มเติมต่อ เบื้องต้นผู้ต้องหาบางราย ให้การภาคเสธ อ้างว่าเซ็นไปโดยไม่รู้ว่าเป็นพื้นที่ที่ป่า ส่วนบางรายก็ยังปฏิเสธอยู่ พนักงานสอบสวนจึงจะต้องพิจารณาต่อ” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
ส่วนการที่เจ้าหน้าที่รัฐอ้างว่าไม่รู้จะฟังขึ้นหรือไม่นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า การเป็นเจ้าหน้าที่รัฐอ้างไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งอ้างยิ่งเข้าตัว และมองว่านี่เป็นการร่วมกันสร้างพยานหลักฐานเท็จ เพราะจอนนี่ก็มีการให้ข้อมูลอยู่ในเอกสาร เพราะฉะนั้นรู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่ทำอยู่เป็นสิ่งผิดแต่ก็ยังทำ อีกทั้งทางนิคมฯ เคยทำการแจ้งเตือนไปยังรีสอร์ตนี้ แต่ถูกข่มขู่กลับมาสองครั้ง ยืนยันว่าพื้นที่ตรงที่เกิดเหตุทางนิคมฯแจ้งว่ามีรีสอร์ตแค่สองที่ ที่ตรงนี้ก็แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว ส่วนอีกที่กำลังสร้าง แล้วนิคมฯ ไปทำหนังสือคัดค้านจึงหยุดสร้างไป
และนอกจากรีสอร์ทแล้ว ตอนนี้กำลังตรวจสอบเรื่องทรัพย์สินอยู่ ว่าจอนนี่กรุ๊ปทั้งหมดมีอะไรบ้าง เอาเงินที่ไหนมาสร้าง โดยเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. จะตรวจสอบเส้นทางการเงินของจอนนี่ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเส้นเงินที่อดีตจอนนี่เคยพัวพันกับเว็บพนัน ที่เจ้าหน้าที่จับกุม 2 เว็บพนันออนไลน์ของน้องชายจอนนี่ไปเมื่อวัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งตรงนี้เจ้าหน้าที่กำลังทำงานอยู่
ส่วนที่นายจอนนี่เคยไปขอร้อง ไม่เป็นผลกับคดีเลยใช่หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เราเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ การเป็นพี่น้องในข้าราชการตำรวจต้องแยกแยะ เราต้องแยกมันเป็นคยละส่วน แต่ยืนยันว่า ไม่ได้มีเรื่องโกรธเคืองอะไรกัน เราเองก็ไม่อยากให้ซ้ำเติม
เมื่อถามว่า นายจอนนี่ดูสงบเสงี่ยม ปกติเป็นคนปราบโจร แต่วันนี้โดนจับเอง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า หลังจากนี้เราบังคับใช้กฎหมาย จอนนี่ก็มีหน้าที่ไปชี้แจงที่ศาล ส่วนจะผิดหรือไม่ก็ว่าไปตามพยานหลักฐาน ย้ำว่าเราไม่ได้โกรธเคืองอะไรกัน
ขณะที่ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. บอกว่า เราก็จะต้องดำเนินการต่อในเรื่องของการรุกล้ำ และตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ใช่แค่เคสนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน (14 ส.ค.) พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ควบคุมตัวผู้ต้องหา 5 คน มาสอบปากคำที่ สภ.สิรินธร นานกว่า 5 ชม. โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การภาคเสธ และทำเรื่องขอประกันตัว โดยพนักงานสอบสวน ให้นายจอนนี่และภรรยา ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวเป็นเงินสดคนละ 2 แสนบาท ส่วน 3 คนที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐเงินสดคนละ 3 แสนบาท โดยพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันตัว
ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวน บก.ปทส. ก็ได้เข้าแจ้งข้อกล่าวหากับจอนนี่และภรรยา ในฐานความผิด “การถือครองที่ดินป่าสงวนแห่งชาติโดยผิดกฎหมายตาม พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มีบทลงโทษจำคุก 1-10 ปี และปรับ 20,000-200,000 บาท โดยห้ามมิให้บุคคลใด ยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาตินั้น” ซึ่งกรณีดังกล่าว นายจอนนี่และภรรยา ได้บุกรุกพื้นที่ 20% ที่กันไว้เป็นป่าสงวนกว่า 6 ไร่ จากนั้นก็ปล่อยตัวชั่วคราว และจะมีการนัดทั้ง 2 คน มาให้ปากคำอีกครั้ง ก่อนที่จะสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการต่อไป

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา