
‘สุริยะ-มนพร’ อำลากระทรวงคมนาคมแล้ว เผย 2 ปีทุกฝ่ายร่วมมือดี ฝากผลักดันโปรเจ็กต์พระราม 2 ต่อให้จบ ส่วนรถไฟฟ้า 20 บาทให้คนใหม่ตัดสินใจ ด้าน ‘มนพร’ เผยดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนโยบายรถไฟฟ้าไปถึงชั้น สว. แล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 10 กันยายน 2568 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กราบลาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงคมนาคม และอำลาตำแหน่งรัฐมนตรี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงฯมอบดอกไม้และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ส่วนนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ไม่ได้เข้าร่วมด้วยเนื่องจากติดภารกิจสำคัญ
นายสุริยะกล่าวว่า ตลอด 2 ปี ที่ได้ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้รับความร่วมมือ และสนับสนุนการทำงานเป็นอย่างดีทั้งผู้บริหาร ข้าราชการเจ้าหน้าที่ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ด้วยความมุ่งมั่นและความเป็นมืออาชีพและความเสียสละของข้าราชการ ทำให้ขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนส่ง ได้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศและให้มีบริการที่ได้มาตรฐานสากล และผลักดันงานเชิงนโยบายของรัฐบาล สามารถนำนโยบายไปสู่การปฎิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมเกิดประโยชนย์ต่อประเทศและประชาชน โดยขอให้ร่วมทำงานกับรัฐมนตรีคมนาคมคนใหม่ เพื่อสานงานที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนให้เกิดความสำเร็จและเป็นรูปธรรมต่อไป
ส่วนนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 20 บาทตลอดสยทุกสีนั้น นายสุริยะกล่าวว่า จากที่ได้ติดตามข่าว ยังไม่แน่ใจว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนใหม่จะดำเนินโครงการนี้ต่อไปหรือไม่อย่างไร ซึ่งก็อยู่ในอำนาจของรัฐมนตรีฯ ซึ่งต้องเคารพในการตัดสินใจ
ส่วนประเด็นที่อยากให้ช่วยผลักดันให้สำเร็จคือ การก่อสร้างโครงการมอเตอร์เวย์ (M82) ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว หรือโครงการทางยกระดับบนถนนพระราม 2 ให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 นี้ ตามกำหนดที่ได้วางแผนไว้ อยากให้รัฐมนตรีก.คมนาคมคนใหม่เข้ามาติดตามเร่งรัด เพราะโครงการเมื่อสำเร็จจะทำให้ประชาชนสามารถเดินทางลงภาคใต้ได้สะดวกมากขึ้น
“ช่วง 2 ปี ได้จัดทำยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนงานคมนาคม หากได้รับการสานต่อไปโดยเฉพาะนโยบายการชิพโหมดการขนส่งทางบกไปสู่ระบบราง จะทำให้โลจิสติกส์ของประเทศดีขึ้น นอกจากนี้ ได้มีการแก้ปัญหาสนามบินสุวรรณภูมิ เรื่องคอขวดและผู้โดยสารรอคิวนาน โดยได้ปรับปรุงแก้ไขและเพิ่มเครื่องมือต่างๆ รวมถึงประสานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ในการอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ได้เห็นผล” นายสุริยะกล่าว

@ 3 กฎหมายรถไฟฟ้า 20 บาท ผ่านวาระ 1 สว.แล้ว
ด้านนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ช่วง 2 ปีในการทำหน้าที่ได้มีการผลักดันกฎหมายสำคัญหลายฉบับได้ผ่านการพิจารณาของสส.ไปแล้ว เช่น พ.ร.บ.การขนส่งทางรางฯ พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมและพ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อน ค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เตรียมเข้าสู่การพิจารณา สว.ในวาระที่ 2 และ 3 ซึ่งได้มีการประสานงานกับ สว.ในการผลักดันกฎหมายให้แล้วเสร็จ แม้ว่ารัฐบาลที่กำลังจะเข้ามาจะดำเนินนโยบายอย่างไรต่อไป ก็เคารพในการตัดสินใจ แต่ร่างกฎหมายที่ได้จัดทำไว้ ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลก็สามารถนำมาใช้ได้ นอกจากนี้ ยังมีการแก้ไขพ.ร.บ. การท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ.2494 ที่คาดว่าไม่เกิน 30 ก.ย.นี้ จะเข้าสู่การพิจารณา สว.ในวาระที่ 2 และ3 ต่อไปและเข้าสู่ขั้นตอนทูลเกล้าฯต่อไป
”นโยบายเรือธง รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ตอนนี้หากเปรียบเป็นการชกมวยก็เข้ายกที่ 4 แล้วเหลือแค่ยก 5 ยกสุดท้ายเท่านั้น เช่นเดียวกับพ.ร.บ.การท่าเรือฯที่ใช้มา 70 ปี ไม่ได้รับการปรับปรุงแก้ไข เราก็ได้ดำเนินการเพื่อให้การท่าเรือฯสามารถบริหารงานได้มีความคล่องตจัวและทันยุคทันมัยมากขึ้น การจัดทำกฎหมายทุกฉบับ มีความต้องการเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนในทุกมิติ อย่างน้อยในช่วงที่ได้เป็นรัฐบาลได้มีการผลักดันให้เกิดเป็นรูปเป็นร่างแล้วเหลือเพียงการนำไปต่อยอดเท่านั้น” นางมนพรระบุ
นางมนพรทิ้งท้ายว่า ตลอดเวลาที่ทำงานร่วมกับผู้บริหารและข้าราชการกระทรวงคมนาคม เห็นถึงความเข้มแข็งและตั้งใจ ตลอด 2 ปี ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นโอกาสของประเทศไทยที่ได้มีการพันาระบบคมนาคมขนส่งทั้ง 4 มิติและขอฝากให้ร่วมมือกันผลักดันต่อไป ตนจะทำหน้าที่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อไป เช่นกัน


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา