
กสม.กวดขัน 3 หน่วยงาน ชุมชนหมู่ที่ 3 ต.วัดละมุด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม,อบต.วัดละมุด และวัดใหม่สุคนธาราม หลังจัดกิจกรรมวันอัฏฐมีบูชา แล้วเอาเด็กชายแก้ตัวแต่งกายเป็นพระพุทธเจ้าวัยเด็ก ชี้กระทบสิทธิในร่างกายเด็ก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 7 พ.ย. 2568 นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ร้องรายหนึ่งเมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ระบุว่า เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 มีการจัดงานบุญประเพณี “132 ปี อัฏฐมีบูชา” ณ วัดใหม่สุคนธาราม อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มีการจำลองเหตุการณ์ตอนพระพุทธเจ้าประสูติด้วยการให้เด็กชาย ก. (นามสมมติ) ยืนเปลือยกายในขบวนแห่พุทธประวัติและคติธรรมในลักษณะไม่เหมาะสม ซึ่งมีผู้บันทึกคลิปวิดีโอเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ จึงขอให้ตรวจสอบ ทั้งนี้ในระหว่างการตรวจสอบ กสม. ได้ประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเพื่อลบคลิปวิดีโอที่ไม่ปิดบังหรือเบลอหน้าและภาพที่ไม่เหมาะสมของเด็กชาย ก. ในสื่อสังคมออนไลน์ เป็นกรณีเร่งด่วนแล้ว
นายวสันต์กล่าวว่า ในคราวประชุมด้านการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 มีมติให้มีข้อเสนอแนะต่อผู้ถูกร้องทั้งสาม ได้แก่ ชุมชนหมู่ที่ 3 ต.วัดละมุด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม (ผู้ถูกร้องที่ 1) องค์การบริหารส่วนตำบลวัดละมุด (อบต.วัดละมุด) (ผู้ถูกร้องที่ 2) วัดใหม่สุคนธาราม อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม (ผู้ถูกร้องที่ 3)ให้ร่วมกันจัดประชุมเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจก่อนจัดงานบุญประเพณีอัฏฐมีบูชาให้แก่ผู้นำชุมชนหรือผู้จัดขบวนแห่พุทธประวัติและคติธรรมตอนประสูติไม่ให้นำเด็กมาแสดงในลักษณะเปลือยกาย และทำให้บุคคคลทั่วไปสามารถบันทึกภาพและนำข้อมูลส่วนตัวเด็กไปใช้ประโยชน์ด้วยการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิเด็กได้ รวมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดขบวนแห่อื่น ๆ ให้ระมัดระวังการแสดงประกอบขบวนแห่ต่าง ๆ ไม่ให้สุ่มเสี่ยงขัดต่อวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นและของชาติ ศีลธรรม หรือกฎหมาย
พร้อมทั้งให้กรมกิจการเด็กและเยาวชนติดตามเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลบคลิปวิดีโอที่ไม่ปิดบังหรือเบลอหน้าและอวัยวะเพศของเด็กชาย ก. ในช่องยูทูบ และให้คำแนะนำช่วยเหลือในการดำเนินการแก่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครปฐม เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลบคลิปวิดีโอข้างต้นต่อไป หรือกำหนดมาตรการทางกฎหมายเพิ่มเติมกับผู้ใช้งานช่องยูทูบดังกล่าวตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และให้สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติสื่อสารทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดงานวัดให้แก่วัดทั่วประเทศซึ่งจะต้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ขัดต่อพระธรรมวินัย ศีลธรรม และกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ หรือลักษณะอื่น ๆ ที่ไม่เหมาะสมจนอาจส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนาด้วย
@การกระทำกระทบสิทธิในร่างกาย ความเป็นอยู่ส่วนตัว เกียรติยศ ชื่อเสียง และครอบครัวของเด็ก
นายวสันต์กล่าวว่า กสม. ได้พิจารณาข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย หลักกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รับรองสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย ความเป็นอยู่ส่วนตัว เกียรติยศ ชื่อเสียง และครอบครัว สิทธิชุมชนในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู หรือส่งเสริมภูมิปัญญา ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และจารีตประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นและของชาติ โดยพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC) ที่ประเทศไทยเป็นภาคี บัญญัติหลักการสำคัญว่าการปฏิบัติต่อเด็กไม่ว่ากรณีใดให้คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ ห้ามมิให้ผู้ใดบังคับหรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจารและเด็กจะไม่ถูกแทรกแซงโดยพลการ หรือโดยไม่ชอบในความเป็นส่วนตัว รวมถึงต่อเกียรติและชื่อเสียง
ดังนั้น กสม. พิจารณาแล้วเห็นว่า การจัดงานบุญประเพณีอัฏฐมีบูชา มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ เป็นความร่วมมือระหว่างชุมชนหมู่ที่ 3 ต.วัดละมุด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม (ผู้ถูกร้องที่ 1) องค์การบริหารส่วนตำบลวัดละมุด (อบต.วัดละมุด) (ผู้ถูกร้องที่ 2) วัดใหม่สุคนธาราม อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม (ผู้ถูกร้องที่ 3) คณะสงฆ์ และหน่วยงานต่าง ๆ ในจ.นครปฐม ซึ่งชุมชนเป็นผู้รับผิดชอบหลักและเป็นผู้สร้างสรรค์การแสดงประกอบขบวนแห่ของแต่ละชุมชน โดยขบวนแห่พุทธประวัติและคติธรรมตอนประสูติ เป็นขบวนแห่ของผู้ถูกร้องที่ 1 มีเด็กชาย ก. ยืนเปลือยกายและทาสีขาวตามร่างกาย แม้ว่าเด็กชาย ก. สมัครใจและผู้ปกครองยินยอม และผู้ถูกร้องที่ 1 ผู้ถูกร้องที่ 2 ต้องการให้มีความสมจริง โดยไม่มีเจตนาทำให้เด็กอับอาย แต่เมื่อคำนึงถึงอายุและวุฒิภาวะของเด็กชาย ก. ซึ่งอายุเพียง 10 ปี ประกอบกับเด็กจะต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองในทุกรูปแบบ และการปฏิบัติต่อเด็กไม่ว่ากรณีใด ๆ ให้คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ
อีกทั้งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในที่สาธารณะทำให้บุคคลทั่วไปสามารถบันทึกภาพและนำข้อมูลส่วนตัวเด็กไปใช้ประโยชน์ด้วยการเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นผลร้ายต่อสวัดิภาพของเด็ก การกระทำของชุมชนดังกล่าว จึงกระทบต่อสิทธิในเนื้อตัวร่างกาย ความเป็นอยู่ส่วนตัว เกียรติยศ ชื่อเสียง และครอบครัวของเด็กชาย ก. ซึ่ง อบต.วัดละมุด มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และบรรลุวัตถุประสงค์ตามกฎหมาย แต่กลับละเลยให้ชุมชนกระทำการอันส่งผลกระทบต่อสิทธิเด็ก และการที่วัดดังกล่าวยินยอมให้การจัดงานมีการแสดงของเด็กชาย ก. จึงส่งผลกระทบต่อสิทธิเด็ก ดังนั้น จึงรับฟังได้ว่าผู้ถูกร้องทั้งสาม ได้แก่ อบต.วัดละมุด ชุมชน และวัดใหม่สุคนธาราม กระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
อย่างไรก็ตามเมื่อชุมชน และอบต.วัดละมุด ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิทธิเด็ก และได้ร่วมกันปรึกษาหารือเพื่อปรับปรุงและกำหนดแนวทางในการจัดแสดงขบวนแห่ครั้งต่อไปให้เหมาะสม โดยจะให้สวมเสื้อผ้าให้มิดชิดก่อนทาสีขาวทับ ประกอบกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐมได้ให้คำแนะนำแก่ อบต.วัดละมุด และสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐมได้ถวายคำแนะนำแก่เจ้าอาวาสของวัดใหม่สุคนธาราม เพื่อให้การจัดงานครั้งต่อไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อีกทั้ง ผลการประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษชนเพื่อลบคลิปวิดีโอที่ไม่ปิดบังหรือเบลอหน้าและอวัยวะเพศของเด็กชาย ก. มีการลบคลิปวิดีโอได้บางส่วนแล้ว โดยเหลือในช่องยูทูบ 1 ช่อง ซึ่งไม่สามารถติดต่อผู้ใช้งานได้ แต่เพื่อไม่ให้มีร่องรอยดิจิทัลที่จะส่งกระทบต่อเด็กชาย ก. เห็นควรให้ติดตามผลการดำเนินการต่อไป จึงเป็นเรื่องที่มีการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสมแล้ว

วสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา