เลขาฯ กพฐ. แจงกรณีสิ้นสุดโครงการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษากิจกรรมครูคลังสมอง เลิกจ้างครูวิทย์-คณิต 1,964 ราย หลังแบกรับงบกว่า 200 ล้านบาท เผยแจ้งล่วงหน้าก่อนให้เวลาเตรียมตัว 7 เดือน ยันไม่กระทบการเรียนเด็ก เนื่องจากเป็นกลุ่มเสริมความรู้ ด้าน'ตรีนุช'ทราบเรื่องแล้ว เตรียมเยียวยาตามความเหมาะสม
.......................................
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ค.2564 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่มีกลุ่มครูในตำแหน่งบุคลากรวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ โครงการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษากิจกรรมครูคลังสมองของ สพฐ. จำนวน 1,964 ราย ได้ร้องเรียนกรณี สพฐ.มีหนังสือแจ้งด่วนที่สุดที่ ศธ.04010/ว.34 ลงวันที่ 7 ม.ค. 2564 เรื่อง การดำเนินการจ้างบุคลากรวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์โครงการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษากิจกรรมครูคลังสมอง ระบุว่า โครงการดังกล่าวจะสิ้นสุดการจัดสรรงบประมาณในวันที่ 30 ก.ย. 2564 โดย สพฐ.จะเลิกจ้างบุคลากรวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ จำนวน 1,964 ราย โดยโครงการดังกล่าวเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2561 ทำให้ครูกลุ่มนี้ได้รับความเดือดร้อน เพราะจะต้องตกงานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
นายอัมพร กล่าวว่า ขณะนี้ สพฐ.ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งขอชี้แจงว่าโครงการนี้กำลังจะสิ้นสุดระยะเวลาของการดำเนินโครงการฯ สพฐ.จึงดำเนินการแจ้งให้กลุ่มครูอัตราจ้างได้รับทราบล่วงหน้าเป็นเวลา 7 เดือนก่อนจะถึงเดือนที่สิ้นสุดโครงการในเดือนกันยายนนี้ เพื่อให้กลุ่มครูอัตราจ้างได้มีระยะเวลาในการเตรียมตัว เพราะ สพฐ.ไม่ได้มีการเตรียมงบประมาณให้ดำเนินโครงการต่อในปี 2565 ซึ่งขณะนี้ สพฐ.ต้องจัดสรรเงินจ่ายให้เฉพาะกลุ่มอัตราจ้างปีละ 2,000 กว่าล้านบาท โดยการจ้างครูในโครงการนี้ใช้งบประมาณ จำนวน 200 ล้านบาท และจะส่งผลให้เราไม่มีงบพัฒนาในด้านอื่นๆ
นายอัมพร กล่าวว่า น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วและมีความห่วงใยกลุ่มครูอัตราจ้างโครงการฯ ดังกล่าวเป็นอย่างมาก โดยขณะนี้อยู่นะหว่างการจัดหาแนวทาง ว่า จะมีวิธีการใดบ้างที่จะช่วยเหลือหรือเยียวยาให้ครูกลุ่มดังกล่าว ตามความเหมาะสม
“ส่วนข้อกังวลที่หลายฝ่ายมอง ว่า การเลิกจ้างกลุ่มครูอัตราจ้างในโครงการดังกล่าว จะส่งผลให้ สพฐ.ต้องขาดครูวิทยาสตร์และคณิตศาสตร์นั้น ผมขอยืนยันว่าเราไม่ขาดครู เพราะโครงการนี้เกิดขึ้นบนพื้นฐานที่ต้องการเสริมทักษะให้ผู้เรียนเก่งวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ไม่ได้เกิดโครงการขึ้นเพราะการขาดครูแต่อย่างใด อีกทั้งขณะนี้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ได้เดินหน้าโครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (สควค.) ระยะที่ 4 (พ.ศ. 2564 - 2567) เพื่อผลิตครูวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ระบบโรงเรียน ซึ่งเรายืนยันว่า ครูวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ของ สพฐ.มีเพียงพออย่างแน่นอน” นายอัมพรกล่าว
โดยเนื้อหาในหนังสือราชการดังกล่าว ระบุว่า สพฐ. มีนโยบายในการยกระดับคุณภาพการศึกษา วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ในโรงเรียนประถมศึกษา โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษา ขนาดกลางและเล็ก ที่ประสบปัญหาการขาดแคลนครูวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ โดยมอบให้ สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ พิจารณาคัดเลือกโรงเรียนที่มีความขาดแคลนครูวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ส่งให้สํานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานพิจารณาจัดสรรงบประมาณการจ้างบุคลากรวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ให้กับโรงเรียนดังกล่าว
โครงการนี้เป็นโครงการต่อเนื่องและมีรอบระยะเวลาการจัดสรรงบประมาณเพื่อยกระดับ คุณภาพการศึกษาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ให้กับโรงเรียนที่สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาคัดเลือก 3 ปีต่อรอบ แบ่งเป็น รอบที่ 1 ปีงบประมาณ 2556-2558 รอบที่ 2 ปีงบประมาณ 2559 – 2563 และรอบที่ 3 ปีงบประมาณ 2562 – 2564 โดยบุคลากรวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์แต่ละคนจะได้รับค่าตอบแทน 15,000 บาทต่อคนต่อเดือน พร้อมเงินสมทบกองทุนประกันสังคม ร้อยละ 5 ของเงินเดือนที่ได้รับ และเงินสมทบเข้ากองทุนเงินทดแทน ในอัตราร้อยละ 0.6 ต่อเดือน ขณะนี้การจ้างบุคลากรวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์โครงการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา กิจกรรมครูคลังสมอง จะสิ้นสุดการดําเนินโครงการและสิ้นสุดการจัดสรรงบประมาณดังกล่าว ในรอบที่ 3 ปีงบประมาณ 2564 ในวันที่ 30 ก.ย. 2564 นั้น
ในการนี้ สพฐ. พิจารณาแล้วว่า โครงการดังกล่าว บรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการตามงบประมาณและระยะเวลาที่กําหนด จึงเห็นชอบให้สิ้นสุดโครงการและสิ้นสุด การจัดสรรงบประมาณสําหรับการจ้างบุคลากรวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ โครงการพัฒนาคุณภาพและ มาตรฐานการศึกษา กิจกรรมครูคลังสมอง ในรอบที่ 3 ปีงบประมาณ 2564 ในวันที่ 30 ก.ย. 2564 และขอให้แจ้งโรงเรียนและบุคลากรในโครงการดังกล่าวทราบการสิ้นสุดโครงการฯ ต่อไป
ภาพประกอบจาก: ไทยโพสต์
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage