"...คำถาม คือ ทำไมคดีนี้ ป.ป.ช.ใช้เวลาในการสอบสวนก่อนจะลงมติชี้มูลความผิดยาวนาน เกือบ 10 ปี ? การลงมติชี้มูลความผิดในช่วง เวลา 49 วัน ก่อนที่คดีจะครบอายุความ ซึ่งจะต้องมีขั้นตอนการส่งเรื่องให้อัยการพิจารณาสำนวนที่ใช้เวลาอีกไม่ใช่แค่วันสองวัน และอาจมีช่องโหว่ให้ผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีคดีได้ด้วย คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีพฤติการณ์ไม่ได้มุ่งหมายให้การดำเนินคดีอยู่ภายในกรอบเวลาการฟ้องคดีจริงหรือ? ..."
กรณี เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 อ.เมือง จ.ระยอง มีคำพิพากษายกฟ้อง นายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา กรณีพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร (แบบ อ. 1) เลขที่ 700/2551 ลงวันที่ 10 กันยายน 2551 ให้แก่บริษัท บาลี ฮาย จำกัด เพื่อก่อสร้างอาคารโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอข้อมูลไปแล้วว่า ในคำพิพากษาระบุว่า คดีนี้ นายอิทธิพล คุณปลื้ม จำเลยที่ 10 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ขณะที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีพฤติการณ์ไม่ได้มุ่งหมายให้การดำเนินคดีอยู่ภายในกรอบเวลาการฟ้องคดีภายในวันที่ 10 กันยายน 2566 โจทก์ยื่นฟ้องจำเลยที่ 6 ถึงที่ 10 เกินระยะเวลา 15 ปี นับแต่วันที่กล่าวหาว่ากระทำความผิด คดีโจทก์จึงขาดอายุความ
เพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น
สำนักข่าวอิศรา ย้อนไทม์ไลน์การลงมติชี้มูลความผิดคดีนี้ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. รวมไปถึงขั้นตอนการส่งสำนวนให้อัยการฟ้องร้องดำเนินคดี และการเดินทางไปต่างประเทศของ นายอิทธิพล คุณปลื้ม มานำเสนอแบบชัด ๆ ณ ที่นี้อีกครั้ง
วันที่ 24 ก.ค. 2566
การชี้มูลความผิดความคดีนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานข่าวเป็นทางการต่อสาธารณชนว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2566 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิด นายอิทธิพล คุณปลื้ม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา และพวก กรณีพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร (แบบ อ. 1) เลขที่ 700/2551 ลงวันที่ 10 กันยายน 2551 ให้แก่บริษัท บาลี ฮาย จำกัด เพื่อก่อสร้างอาคารโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
โดยที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ 5 ต่อ 1 เสียง เห็นว่า นายอิทธิพล คุณปลื้ม มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมีมูลสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง ส่วนกรรมการเสียงข้างน้อย คือ นาย วิทยา อาคมพิทักษ์
นอกจาก นายอิทธิพล คุณปลื้ม ที่ถูกชี้มูลความผิดแล้ว ยังมีข้าราชการเจ้าหน้าที่เมืองพัทยา ที่อยู่ในกลุ่มพิจารณาออกใบอนุญาติก่อสร้างพร้อมกับ นายอิทธิพล คุณปลื้ม อีก 4 ราย ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดอาญาและมูลความผิดวินัยร้ายแรงด้วย คือ นายพิเชษฐ อุทัยวัฒนานนท์ นายวิทยา ศิรินทร์วรชัย นายญัติพงค์ อินทรัตน์ นายเอกพงษ์ บุญชาย
วันที่ 3 ส.ค.2566
มีข้อมูลยืนยันว่า สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 มีหนังสือลงวันที่ 3 ส.ค.2566 แจ้งว่า อัยการสูงสุด (อสส.) ได้พิจารณาสำนวนรายงานการไต่สวนคดีดังกล่าวแล้ว มีความเห็นและคำสั่งดำเนินคดีอาญากับ นายอิทธิพล คุณปลื้ม และพวก ประกอบไปด้วย นายพิเชษฐ อุทัยวัฒนานนท์ นายวิทยา ศิรินทร์วรชัย นายญัติพงค์ อินทรัตน์ นายเอกพงษ์ บุญชาย นายวุฒิศักดิ์ เริ่มกิจการ นายอภิชาติ พืชพันธ์ นายสุธีร์ ทับหนองฮี นายชานนทร์ เกิดอยู่ และนายชัยวัฒน์ แจ้งสว่าง และมอบหมายให้มีการประสานนำตัว นายอิทธิพล คุณปลื้ม และผู้ถูกกล่าวหารายอื่น ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการ ณ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ในวันที่ 4 กันยายน 2566 เพื่อพนักงานอัยการ จะดำเนินการยื่นฟ้องผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลอาณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2
โดย สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 2 ส่งหนังสือแจ้งให้นายอิทธิพล คุณปลื้ม ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ไปตามภูมิลำเนาหรือที่อยู่ที่ปรากฎในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร ของสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย คือ บ้านเลขที่ 194/22-35 หมู่ 9 ตำบลหนองปรือ อำเกอบางละมุง จังหวัดชลบุรี 20150 บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด แจ้งว่านำจ่ายไม่สำเร็จ และส่งหนังสือดังกล่าวไปยังที่อยู่ที่ปรากฏจากการไต่สวน คือ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงวัฒนธรรม เลขที่ 10 ถนนเทียมร่วมมิตร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310 บริษัท ไปรษณีย์ไทย.จำกัด แจ้งว่านำจ่ายสำเร็จ
รวมทั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ดำเนินการส่งสำเนาหนังสือดังกล่าวไปยังภูมิลำเนาหรือที่อยู่ที่ปรากฏในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎร และที่อยู่ที่ปรากฏจากการไต่สวนด้วย ปรากฎว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ส่งสำเนาหนังสือไปยังภูมิสำเนาหรือที่อยู่ที่ปรากฎในฐานข้อมูลการทะเบียนราษฎรสำเร็จ แต่ไม่พบตัวนายอิทธิพล คุณปลื้ม แต่พบบุคคลในที่อยู่ดังกล่าว คือ นายวิทยา ผลลูกอินทร์ ซึ่งมีความสัมพันธ์ทำงานการเมืองร่วมกับกลุ่มการเมืองของนายอิทธิพล คุณปลื้ม เป็นผู้ลงนามรับสำเนาหนังสือไว้เป็นหลักฐานแล้ว
วันที่ 4 ก.ย. 2566
ต่อมา ในวันที่ 4 ก.ย. 2566 ตามวันนัดหมาย ปรากฏว่า นายอิทธิพล คุณปลื้ม ไม่เดินทางมาพบพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ตามกำหนดนัดดังกล่าว จึงน่าเชื่อว่า นายอิทธิพล คุณปลื้ม มีพฤติการณ์หลบหนี ประกอบกับเรื่องดังกล่าว ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินกว่าสามปี อันเป็นเหตุที่จะออกหมายจับได้ตามประมาลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 66 จึงขอให้ศาลออกหมายจับเพื่อแจ้งให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ จัดการให้ได้ตัวผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับแล้วส่งอัยการสูงสุดดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วันที่ 5 ก.ย. 2566
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ได้มีคำสั่งออกหมายจับ นายอิทธิพล คุณปลื้ม ตามคำร้องของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ยื่นเรื่องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2 เพื่อขอออกหมายจับ หลังจากที่ นายอิทธิพล คุณปลื้ม ไม่ได้เดินทางมาพบพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ในคดีถูกกล่าวหาพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร (แบบ อ. 1) เลขที่ 700/2551 ลงวันที่ 10 กันยายน 2551 ให้แก่บริษัท บาลี ฮาย จำกัด เพื่อก่อสร้างอาคารโครงการวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทางอาญา และเชื่อว่ามีพฤติการณ์หลบหนี
ขณะที่สำนักข่าวอิศรา ได้รับข้อมูลยืนยันจาก แหล่งข่าวในสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ นายอิทธิพล คุณปลื้ม ต้องหลบหนีไม่มารายงานตัวต่อพนักงานอัยการเพื่อส่งตัวฟ้องคดีนี้ ตามวันเวลานัดหมาย ในวันที่ 4 ก.ย.2566
เพราะต้องการถ่วงคดีให้หมดอายุความ
กล่าวคือ คดีนี้ นายอิทธิพล คุณปลื้ม ถูกชี้มูลความผิดอาญาในคดีถูกกล่าวหาพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร (แบบ อ. 1) เลขที่ 700/2551 ลงวันที่ 10 กันยายน 2551 โดยบทลงโทษ เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ขณะที่บทลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี มีอายุความ 15 ปี ตามมาตรา 95 (2)
เมื่อนับอายุความคดีตั้งแต่วันกระทำความผิด คือ วันที่ 10 ก.ย.2551 จึงทำให้คดีนี้จะครบกำหนดอายุความ ในวันที่ 10 ก.ย.66
ส่วนการถูกออกหมายจับนั้น ตามกฎหมายมาตรา 68 ป.วิอาญา ระบุให้ หมายจับสิ้นผล 3 กรณี คือ 1. จับกุมได้ 2.ขาดอายุความ และ 3.เพิกถอนหมาย
ดังนั้น ในการหลบหนี ของนายอิทธิพล คุณปลื้ม หากเกินวันที่ 10 ก.ย.2566 ไปแล้วยังไม่สามารถจับกุมตัว คดีนี้ก็จะหมดอายุความ หมายจับก็จะสิ้นผลตามไปด้วย
แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า "เข้าใจว่า นายอิทธิพล คุณปลื้ม คงรู้หลักกฎหมายเหล่านี้ดี เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณี นายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปราจีนบุรี ในคดีบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในเขต จ.ปราจีนบุรี ที่มีการหลบหนีไม่ไปรายงานตัวต่ออัยการเพื่อส่งตัวฟ้องคดี และถูกออกหมายจับ แต่ก็ไม่สามารถตามจับกุมตัวได้ จนคดีขาดอายุความมาแล้ว"
@ นิวัติไชย เกษมมงคล
ขณะที่ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ข้อมูลยืนยันในขณะนั้นว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ได้มีคำสั่งออกหมายจับ นายอิทธิพล คุณปลื้ม ตามคำร้องของคณะกรรมการ ป.ป.ช.แล้ว
"ภารกิจของป.ป.ช.จากนี้คือการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามจับกุมตัว นายอิทธิพล คุณปลื้ม กลับมาโดยเร็ว ก่อนวันที่ 10 ก.ย.2566 ซึ่งเป็นวันที่คดีนี้จะหมดอายุความ ถ้าครบกำหนดไปแล้ว ก็คงไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะถือว่าคดีขาดอายุความ"
"จากการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจล่าสุด มีกระแสข่าวว่า นายอิทธิพล ได้เดินทางข้ามเขตไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ซึ่งในส่วนของ ป.ป.ช.ก็คงจะมีการตรวจสอบข้อมูล ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำทุกวิถีทางเพื่อติดตามจับกุมตัวให้ นายอิทธิพล มาให้ได้โดยเร็วที่สุด"
"หากใครมีเบาะแสเกี่ยวกับการหลบหนีของนายอิทธิพล ก็สามารถแจ้งประสานเข้ามาที่ ป.ป.ช.ได้ตลอดเวลา" เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ระบุ
@ โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง
ด้าน นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดในขณะนั้น ออกมาระบุถึงเรื่องนี้ ว่า เรื่องดังกล่าว ได้ทราบจาก นายคำนึง วงษ์ทวีทรัพย์ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ว่าพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ได้นัดให้ ป.ป.ช นำตัวนายอิทธิพล ให้มาพบพนักงานอัยการเพื่อยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา เเต่นายอิทธิพลไม่เดินทางมาตามนัด ทางพนักงานอัยการจึงแจ้งให้ ป.ป.ช.ผู้ร้องไปดำเนินการขอศาลออกหมายจับ เเละศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 5 ก.ย. พนักงานอัยการมีหน้าที่ประสานให้นำตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้อง ตามกฎหมายต่อไป
นายโกศลวัฒน์ ยังย้ำว่า “คดีนี้ ป.ป.ช.ส่งเรื่องให้อัยการเมื่อวันที่ 3 ส.ค. อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้อง 30 ส.ค.คดีอยู่ที่อัยการไม่ถึงเดือน”
วันที่ 9 ต.ค.2566
ต่อมาวันที่ 9 ต.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)สุวรรณภูมิ ทำการควบคุมตัวนายอิทธิพล ไว้ได้ขณะเดินทางเข้ามาประเทศไทย เที่ยวบิน KR701 เดินทางมาจากกรุงพนมเปญ กัมพูชา ถึงสถานบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เวลา 10.00 น. ตามหมายจับภายหลังทำบันทึกการควบคุมตัว เจ้าหน้าที่จะนำตัวนายอิทธิพล ส่งสำนักงานอัยการคดีทุจริตภาค 2 จังหวัดระยอง ทันที
ขณะที่ นายอิทธิพล ให้ปากคำในบันทึกมอบตัวว่า ได้เดินทางไปกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในวันที่ 30 ส.ค.2566 เพื่อทำภารกิจส่วนตัว และได้จองตั๋วเครื่องบินเที่ยวกลับไทย วันที่ 2 ก.ย.2566 แต่ปรากฏว่าในช่วงกลางดึกคืนวันที่ 30 ส.ค.2566 เริ่มมีอาการไม่สบาย ตัวร้อน ปวดเมื่อย และไอมาก จนกระทั่งในช่วงเช้าวันที่ 31 ส.ค.2566 ตรวจเอทีเค พบว่าติดเชื้อโควิด 2019
นายอิทธิพล อ้างว่า หลังตรวจพบเชื้อโควิด อาการทรุดหนักอย่างรวดเร็ว และได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล เชื้อแพร่ลงปอดอย่างรวดเร็ว ทําให้เกิดอาการปอดบวม ออกซิเจนในเลือดลดต่ำลงมากและเกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน แพทย์จึงได้นำตัวเข้าห้องไอซียู
นายอิทธิพล ยังอ้างด้วยว่า ในช่วงที่เข้ารับการรักษาตัวไม่มีโอกาสติดต่อกับใครนอกจาก เลขาฯ แจ้งอาการป่วยให้ภรรยาทราบ และแพทย์ห้ามเยี่ยม ก่อนที่จะได้รับแจ้งจากเลขาฯ ว่า ถูกออกหมายจับแต่อาการยังไม่ดีขึ้น แพทย์ยังไม่ให้ออกจากโรงพยาบาล จนกระทั่งในวันที่ 4 ต.ค.2566 เริ่มมีอาการดีขึ้นและออกจากโรงพยาบาล หลังจากนั้น จึงรีบเดินทางกลับประเทศไทยทันที
นายอิทธิพล ยังยืนยันอีกว่า ไม่ได้ได้กระทําความผิดตามที่ถูกออกหมายจับ ไม่มีเจตนาหลบหนี และมีความประสงค์ขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ ตามหมายจับ ในทันทีที่เดินทางถึงประเทศไทย และพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง
ทั้งนี้ ภายหลังพนักงานอัยการยื่นฟ้อง นายอิทธิพล คุณปลื้ม ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบภาค2 มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างพิจารณา โดยตีราคาหลักประกันเป็นเงินสด 120,000 บาท โดยในระหว่างออกนั่งบัลลังก์ศาลฯ ได้สอบคำให้การจำเลย นายอิทธิพลให้การปฏิเสธสู้คดี และประสงค์หาทนายความเอง
จากนั้นก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการต่อสู้คดีในชั้นศาลฯ จนกระทั่ง 13 พ.ค. 2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 อ.เมือง จ.ระยอง มีคำพิพากษายกฟ้อง นายอิทธิพล คุณปลื้ม และพวก โดยระบุว่าชัดเจนว่า นายอิทธิพล คุณปลื้ม จำเลยที่ 10 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แต่ยกฟ้องเนื่องจากคดีขาดอายุความ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวดังกล่าว
หากพิจารณาข้อเท็จจริงตามเงื่อนเวลาในคดี จะพบว่า
1. คดีนี้ นายอิทธิพล คุณปลื้ม ถูกชี้มูลความผิดอาญาในคดีถูกกล่าวหาพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร (แบบ อ. 1) เลขที่ 700/2551 ลงวันที่ 10 กันยายน 2551 โดยบทลงโทษ เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ขณะที่บทลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี มีอายุความ 15 ปี ตามมาตรา 95 (2)
เมื่อนับอายุความคดีตั้งแต่วันกระทำความผิด คือ วันที่ 10 ก.ย.2551 จึงทำให้คดีนี้จะครบกำหนดอายุความ ในวันที่ 10 ก.ย.66
2. คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีนี้เป็นทางการ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2566 หากยึดเงื่อเวลาวันที่ 10 ก.ย.66 ที่คดีนี้จะครบกำหนดอายุความ เท่ากับ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดคดีนี้ เป็นเวลา 49 วัน ก่อนที่คดีจะครบอายุความ
3. ฝ่ายอัยการยืนยันว่า คดีนี้ ป.ป.ช.ส่งเรื่องให้อัยการเมื่อวันที่ 3 ส.ค. อัยการสูงสุด(อสส.) พิจารณาสั่งฟ้อง 30 ส.ค. เท่ากับว่า
- ป.ป.ช.ใช้เวลาในการส่งสำนวนคดีนี้ให้ อัยการ ประมาณ 10 วัน (นับจาก 24 ก.ค.2566 วันลงมติ จนถึงวันที่ 3 ส.ค.2566)
- อัยการสูงสุด(อสส.) ใช้เวลาพิจารณาสั่งฟ้อง 27 วัน
4. นายอิทธิพล คุณปลื้ม ระบุในบันทึกมอบตัวว่า เดินทางไปกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในวันที่ 30 ส.ค.2566 เพื่อทำภารกิจส่วนตัว และได้จองตั๋วเครื่องบินเที่ยวกลับไทย วันที่ 2 ก.ย.2566 แต่ตรวจเอทีเค พบว่าติดเชื้อโควิด 2019 ในวันที่ 31 ส.ค.2566 และได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล จนกระทั่งในวันที่ 4 ต.ค.2566 เริ่มมีอาการดีขึ้นและออกจากโรงพยาบาล หลังจากนั้น จึงรีบเดินทางกลับประเทศไทยทันที
ชี้ให้เห็นว่าการเดินทางไปกรุงพนมเปญ เกิดขึ้นก่อนการนัดหมายให้มาพบพนักงานอัยการเพื่อยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่าน ประมาณ 6 วัน
จากข้อมูลข้างต้นทั้งหมด จึงมีคำถามสำคัญตามมาทั้งฝ่ายป.ป.ช. และ นายอิทธิพล คุณปลื้ม ดังนี้
กรณี ป.ป.ช.
คำถาม คือ ทำไมคดีนี้ ป.ป.ช.ใช้เวลาในการสอบสวนก่อนจะลงมติชี้มูลความผิดยาวนาน เกือบ 10 ปี ? การลงมติชี้มูลความผิดในช่วง เวลา 49 วัน ก่อนที่คดีจะครบอายุความ ซึ่งจะต้องมีขั้นตอนการส่งเรื่องให้อัยการพิจารณาสำนวนที่ใช้เวลาอีกไม่ใช่แค่วันสองวัน และอาจมีช่องโหว่ให้ผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีคดีได้ด้วย
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีพฤติการณ์ไม่ได้มุ่งหมายให้การดำเนินคดีอยู่ภายในกรอบเวลาการฟ้องคดีจริงหรือ?
(เพราะก่อนหน้านี้ นอกจากกรณี นายสุนทร วิลาวัลย์ ก็มีผู้ถูกกล่าวหาหลายราย ที่มีการหลบหนีไม่ไปรายงานตัวต่ออัยการเพื่อส่งตัวฟ้องคดี และถูกออกหมายจับ แต่ก็ไม่สามารถตามจับกุมตัวได้ จนคดีขาดอายุความมาแล้ว) กรณีนี้จะมีแนวทางแก้ไขปัญหาในภาพรวมอย่างไร?
กรณีของนายอิทธิพล คุณปลื้ม มีคำถามสำคัญในหลายประเด็น คือ
1. ก่อนหน้าที่จะเดินทางไป กรุงพนมเปญ นายอิทธิพล ได้รับแจ้งนัดหมายการเดินทางไปพบพนักงานอัยการเพื่อยื่นฟ้องคดีในวันที่ 4 ก.ย.หรือไม่ เพราะมีข้อมูลว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 2 ส่งหนังสือแจ้งให้นายอิทธิพล ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการหลายช่องทางแต่ไม่สำเร็จ พบแค่คนใกล้ชิด
2. ภารกิจส่วนตัวที่กรุงพนมเปญ นายอิทธิพล คืออะไร สำคัญเร่งด่วนมากขนาดไหน?
3. หลักฐานการรักษาตัว นายอิทธิพล เป็นอย่างไร? มีการเชิญตัวผู้เกี่ยวข้องมาให้การเพิ่มเติมหรือไม่ รวมถึงเลขาฯ และภรรยาด้วย
คำตอบเหล่านี้ ล้วนมีความสำคัญ เพราะต้องไม่ลืมว่า หากสามารถพิสูจน์ได้ว่า นายอิทธิพล มีพฤติการณ์หลบหนีคดีจริง ก็เท่ากับเป็นผู้ต้องหาหลบหนีไปในระหว่างดำเนินคดี เข้าองค์ประกอบของ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความอาญาคดีทุจริตฯ ม.13 ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ ม.7 ที่ระบุว่า “ถ้าผู้ถูกกล่าวหาหรือจําเลยหลบหนีในระหว่างถูกดําเนินคดีหรือระหว่างการพิจารณาของศาล มิให้นับระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหาหรือจําเลยหลบหนีรวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ” ผลเท่ากับว่าอายุความจะไม่ขาด ตามความเห็นของ นายคำนึง วงศ์ทวีทรัพย์ อธิบดีอัยการสำนักงานปราบปรามคดีทุจริตภาค 2 ระยอง ที่มีหนังสือไปยังพนักงานสอบสวน ป.ป.ช.ภาค 2 ระยอง เพื่อให้ทำคำร้องขอหมายจับต่อศาล อาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ภาค 2 ก่อนหน้านี้
ล่าสุด มีคำชี้แจงจากแหล่งข่าวสำนักงาน ป.ป.ช. ต่ออิศรา ว่า แนวโน้มคดีนี้ ป.ป.ช.คงจะยื่นอุทธรณ์ต่อ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 โดยประเด็นสำคัญที่จะขออุทธรณ์เป็นเรื่องการขาดอายุความ เนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีนี้ก่อนที่คดีจะหมดอายุความประมาณ 1 เดือนเศษ ขณะที่จำเลยมีพฤติการณ์หลบหนีคดีไปต่างประเทศด้วย
ผลการต่อสู้คดีนี้ ในชั้นอุทธรณ์จะออกมาเป็นอย่างไร ต้องคอยจับตาดูกันต่อไป
แบบห้ามกระพริบตาโดยเด็ดขาด
อ่านประกอบ:
- โดน ม.157! ป.ป.ช.ชี้มูล 'อิทธิพล คุณปลื้ม-พวก' ออกใบอนุญาตสร้างคอนโดวอเตอร์ฟร้อนท์
- เปิดตัว บ.บาลีฮาย ผู้ขอใบอนุญาตสร้างวอเตอร์ฟร้อนท์ฯ ก่อน 'อิทธิพล คุณปลื้ม-พวก'โดนชี้มูล
- เชื่อหลบหนี! ศาลฯ สั่งออกหมายจับ 'อิทธิพล คุณปลื้ม' คดีอนุญาตสร้างคอนโดวอเตอร์ฟร้อนท์
- 10 ก.ย.คดีหมดอายุความ-หมายจับสิ้นผล! เผยเหตุ 'อิทธิพล คุณปลื้ม' หนี
- สั่งเพิกถอนโฉนดด้วย! ฉบับเต็ม มติป.ป.ช.ชี้มูลคดีคอนโดวอเตอร์ฟร้อนท์ ก่อน 'อิทธิพล' หนี
- ล่าหลักฐานหนีไปตปท.! ตำรวจ ปปป.บุกเมืองชลฯค้นบ้าน ‘อิทธิพล คุณปลื้ม’
- ชัดๆ! พฤติการณ์ 'อิทธิพล'คดีคอนโดวอเตอร์ฟร้อนท์ เร่งรีบออกใบอนุญาต พิจารณา'วันเดียวจบ'
- ทนแรงกดดันไม่ไหว! ลูกน้อง 'อิทธิพล คุณปลื้ม' โผล่มอบตัวสู้คดีคอนโดวอเตอร์ฟร้อนท์
- นำตัวส่งอัยการแล้ว! ตม. รวบ ‘อิทธิพล คุณปลื้ม’ หลังบินจากกัมพูชา คาสุวรรณภูมิ
- วางเงินสด1.2แสน! 'อิทธิพล' ได้ประกันตัวสู้คดีวอเตอร์ฟร้อนท์ หลังอ้างติดโควิดเข้าICUกัมพูชา