ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'ดำรง ลิมปพัฒนานนท์' อดีตนายก อบต.หนองพลับ อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ทุจริตเบียดบังเงินบริจาคต่อเติมศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ล่าสุด ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนลงโทษจำคุก 2 ปี 16 เดือน ไม่รอลงอาญา
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายดำรง ลิมปพัฒนานนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กับพวก ทุจริตเบียดบังเงินบริจาคเพื่อต่อเติมศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147, 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564
ความคืบหน้าคดีล่าสุด เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืน ตามคำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 ที่มีคำพิพากษาว่า นายดำรง ลิมปพัฒนานนท์ จำเลยมีความผิดตามมาตรา 147 , 157 การกระทำเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 147 ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด
จำคุก 5 ปี
มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 2 ปี 16 เดือน
ทั้งนี้ คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้ได้อีก
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่ฎีกาคำพิพากษา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ