"...โฟกัสข้อมูลในส่วนของราคากลาง ที่ได้จากการราคากลางตั้งแต่การประกวดราคาครั้งแรก จะพบว่ามี 3 ค่าใช้จ่ายที่ใช้วงเงินเกิน 200 ล้าน คือ (1.) ค่าใช้จ่ายการจัดทำอาคารนิทรรศการไทย จำนวน 299,418,600 บาท (2.) ค่าใช้จ่ายการจัดนิทรรศการ และการจัดแสดง จำนวน 212,630,600 บาท (3.) การบริหารจัดการอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) จำนวน 212,630,600 บาท ขณะที่ ค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ก็มีวงเงินหลายสิบล้าน เช่น ค่าการออกแบบอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) จำนวน 21,697,000 บาท ค่าการประชาสัมพันธ์ การสื่อสารและการตลาด จำนวน 82,448,600 บาท และงานรื้อถอน นำกลับ ติดตั้งใหม่ หลังจากสิ้นสุดการดำเนินการจัดนิทรรศการจำนวน 39,054,600 บาท ..."
ประเด็นตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก!
กรณีเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความไม่คุ้มค่าการใช้งบประมาณของประเทศไทย วงเงิน 867,800,000 บาท ในการเข้าร่วมจัดงาน Expo 2025 Osaka Kansai ณ นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 13 เมษายน - 13 ตุลาคม 2568 นั้น
เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา มีคำชี้แจงเป็นทางการจากผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง ไปแล้วว่า
1. การจัดงาน Expo ครั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ไปจัดงาน Expo 2025 ที่ญี่ปุ่น ด้วยงบประมาณกว่า 900 ล้านบาท ปีนี้งบต่ำกว่าครั้งที่แล้ว โดยการทำงานครั้งนี้เป็นไปตามระเบียบราชการของประเทศไทย และต้องเป็นไปตามกฎระเบียบ กฎหมายของญี่ปุ่น และยังต้องทำตามกฎระเบียบเมืองโอซาก้า
2. กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ รับหน้าที่เป็นหน่วยงานหลักในการจัดซื้อจัดจ้าง ก่อนหน้าที่จะใช้วิธีการเจาะจงเลือก กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ เข้ามารับจ้างงาน มีการใช้วิธีการคัดเลือกเอกชน ไป 2 ครั้ง ครั้งแรก มีปัญหาเอกชนที่เสนอราคาไม่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก ครั้งสองมีปัญหาการร้องเรียนจากบริษัทที่ไม่ได้รับการคัดเลือก และมีการยื่นอุทธรณ์ ทางกรมบัญชีกลางได้ตอบข้อวินิจฉัยว่า กรมสนับสนุนฯ สามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างต่อไปได้ แต่ด้วยกระบวนการตอบข้อวินิจฉัยเกินราคาเกิน 90 วัน การลงนามทำสัญญาจึงไม่เกิดขึ้น ทำให้จำเป็นต้องประกาศครั้งที่ 3
แต่ด้วยเวลากระชั้นชิดแล้ว เพราะทางญี่ปุ่นเร่งรัดให้ดำเนินการและต้องแล้วเสร็จ เพราะไทม์ไลน์ก่อสร้างถึงวันที่ 13 เม.ย.เท่านั้น คือวันเปิดงาน จึงต้องใช้วิธีการเฉพาะเจาะจง เพราะเวลากระชั้นชิด จึงมีกระบวนการสืบราคา โดยส่งจดหมายไปยังผู้ที่เคยมายื่น 3 บริษัท แต่ที่ยื่นกลับมามีเพียงบริษัทเดียว ซึ่งตามระเบียบสามารถทำได้ตามระเบียบพัสดุ และจำเป็นต้องใช้ราคาของบริษัทนั้นด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง คือวงเงิน 867,800,000บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมไม่ถึง 1% และจากนั้นก็ประกาศให้ทางกิจการร่วมค้า อาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ เป็นผู้ผ่านการคัดเลือก
3. ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ยังยืนยันว่า ทางกรมสนับสนุนฯไม่ได้รับธุรกรรมใดๆจากกิจการร่วมค้า แม้แต่เรื่องเดียว ส่วนกรณีที่ สส.พรรคประชาชนออกมาพูดข้อมูลว่าโครงการนี้อาจจะมีเรื่องของเงินทอน ระหว่างเอกชนกับทางกรมหรือไม่ ทางกรมฯ ขอยืนยัน เอกสารทุกอย่างเราดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัดและสามารถตรวจสอบได้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแอบอ้างใดๆ ในเรื่องของเงินทอน แม้กระทั่ง การเดินทางยังไม่ให้เมารับจากสนามบินไปเอง นั่งรถไฟไปและก็มีหลักฐานว่านั่งรถไฟจากสถานีคันไซมาที่บ้านพักด้วยตัวเอง ไม่มีการรับส่งใดๆ
- ผ่างบ 867 ล.! ไทยร่วมงาน Expo 2025 Osaka เจาะจงจ้างกิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ
- สธ.แจงงบจัดนิทรรศการ Expo 2025 โอซาก้า 900 ล. โปร่งใส-ไม่มีเงินทอน กิจการร่วมค้าแจงไร้นอมินี
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สอบยันข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างงานโครงการฯ นี้ พบรายละเอียดดังนี้
กล่าวคือ ภายหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 25666 ได้อนุมัติงบประมาณวงเงิน 867,881,611 บาท สำหรับการดำเนินการจัดนิทรรศการ ในงาน Expo 2025 Osaka Kansai
เมื่อวันที่ 27 เม.ย.2566 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้มีการกำหนดราคากลางจ้างงานจัดนิทรรศการ ในงาน Expo 2025 Osaka Kansai ในวงเงิน 867,880,000 บาท
แบ่งกิจกรรมออกเป็น 6 ส่วน คือ
1. การออกแบบอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) จำนวน 21,697,000 บาท
2. การจัดทำอาคารนิทรรศการไทย จำนวน 299,418,600 บาท
3. การจัดนิทรรศการ และการจัดแสดง จำนวน 212,630,600 บาท
4. การบริหารจัดการอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) จำนวน 212,630,600 บาท
5. การประชาสัมพันธ์ การสื่อสารและการตลาด จำนวน 82,448,600 บาท
6. งานรื้อถอน นำกลับ ติดตั้งใหม่ หลังจากสิ้นสุดการดำเนินการจัดนิทรรศการจำนวน 39,054,600 บาท
สืบราคาจากเอกชนในท้องตลาด 2 ราย คือ 1. บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด
(ดูเอกสารประกอบ)
ต่อมาวันที่ 16 พ.ค.2566 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้ออกประกาศยกเลิกการจ้างผู้ดำเนินการจัดนิเทรรศการ Expo 2025 Osaka Kansai โดยวิธีการคัดเลือก เนื่องจากไม่มีผู้ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก
วันที่ 18 พ.ค.2566 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้เผยแพร่ประกาศรายละเอียดข้อมูลราคากลางและแหล่งที่มาของราคากลาง ของการจ้างผู้ดำเนินการจัดนิทรรศการ ในงาน Expo 2025 Osaka Kansai ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น (ดำเนินการครั้งที่ 2) รายละเอียดตามประกาศเดิม
9 ตุลาคม 2566 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้ออกประกาศยกเลิกการจ้างผู้ดำเนินการจัดนิเทรรศการ Expo 2025 Osaka Kansai โดยวิธีการคัดเลือก (ดำเนินการครั้งที่ 2) ระบุว่า หลังจากที่ได้มีการประกาศรายชื่อ กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ เป็นผู้ชนะ เสนอราคา 862,000,000 บาท เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2566 เนื่องจากเกินกำหนดการยืนราคา และกิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ ซึ่งเป็นผู้ชนะการเสนอราคาประสงค์จะไม่ยืนราคาเดิมที่ได้ยื่นเสนอราคาไว้ และประสงค์ไม่ทำสัญญากับ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
จากนั้น วันที่ 20 ต.ค.2566 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้เผยแพร่ประกาศรายละเอียดข้อมูลราคากลางและแหล่งที่มาของราคากลาง ของการจ้างผู้ดำเนินการจัดนิทรรศการ ในงาน Expo 2025 Osaka Kansai ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ใหม่อีกครั้ง
กำหนดราคากลางใหม่ ณ วันที่ 17 ต.ค.2566 วงเงิน 867,877,000 บาท ระบุแหล่งที่มาราคากลาง สืบราคาจากท้องตลาด 1 ราย คือ กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ
ก่อนที่ในวันที่ 20 ต.ค.2566 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จะประกาศรายชื่อให้ กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ เป็นผู้ชนะ การว่าจ้างดำเนินการจัดนิเทรรศการ Expo 2025 Osaka Kansai โดยวิธีเฉพาะเจาะจง เป็นเงินทั้งสิ้น 867,800,000 บาท
จากข้อมูลที่ตรวจสอบข้างต้น จะพบว่า
1. การประกวดราคางานโครงการนี้ ใช้วิธีการคัดเลือก 2 ครั้ง แต่ถูกยกเลิกไป ตามปัญหาที่กระทรวงสาธารณสุขชี้แจง ก่อนที่จะใช้วิธีการเจาะจงเลือกกิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบเข้ามารับงาน
2. บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด หนึ่งในกิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ ปรากฏชื่อเป็นแหล่งสืบราคากลาง ตั้งแต่การประกวดราคาครั้งแรก
3. มีเอกชน 1 ราย ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการสืบราคากลาง และเสนอราคา คือ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่า เป็นเอกชนที่เข้าร่วมการเสนอราคา และมีการยื่นอุทธรณ์หรือไม่?
4. ในการประกวดราคาครั้งที่ 3 ที่ใช้วิธีการเจาะจง มีการส่งจดหมายไปยังเอกชนที่เคยมายื่นเสนอราคา 3 บริษัท ทำไมเอกชนอีก 2 ราย ถึงไม่ยื่นกลับมา?
5. โฟกัสข้อมูลในส่วนของราคากลาง ที่ตั้งไว้ตั้งแต่การประกวดราคาครั้งแรก จะพบว่ามี 3 ค่าใช้จ่ายที่ใช้วงเงินเกิน 200 ล้าน คือ
(1.) ค่าใช้จ่ายการจัดทำอาคารนิทรรศการไทย จำนวน 299,418,600 บาท
(2.) ค่าใช้จ่ายการจัดนิทรรศการ และการจัดแสดง จำนวน 212,630,600 บาท
(3.) การบริหารจัดการอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) จำนวน 212,630,600 บาท
ขณะที่ ค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ก็มีวงเงินหลายสิบล้าน เช่น ค่าการออกแบบอาคารนิทรรศการไทย (Thailand Pavilion) จำนวน 21,697,000 บาท ค่าการประชาสัมพันธ์ การสื่อสารและการตลาด จำนวน 82,448,600 บาท และงานรื้อถอน นำกลับ ติดตั้งใหม่ หลังจากสิ้นสุดการดำเนินการจัดนิทรรศการจำนวน 39,054,600 บาท
กระทรวงสาธารณสุข และเอกชนผู้รับจ้าง ควรจะต้องมีการแสดงรายละเอียดค่าใช้ในส่วนต่างๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจน ว่างบแต่ละส่วนถูกนำไปใช้เรื่องอะไรบ้าง ถูกต้องเหมาะสม คุ้มค่า หรือไม่?
6. ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า นอกจากการจ้างงานสัญญาใหญ่ มูลค่า 867,800,000 บาท ที่ กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ ได้รับไปแล้ว
กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ และ บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด (หนึ่งในกิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ) ยังได้รับงานแยกย่อย อีก 2 สัญญา คือ
(1.) การจ้างจัดพื้นที่รองรับการจัดนิทรรศการชั่วคราว (Temporary Exhibition) ในงาน Expo 2025 Osaka Kansai ณ นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น โดยวิธีเฉพาะเจาะจง กิจการร่วมค้าอาร์เอ็มเอหนึ่งร้อยสิบ ได้รับงานไป โดยเสนอราคา เป็นเงินทั้งสิ้น 12,650,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอื่น ค่าขนส่ง ค่าจดทะเบียน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งปวง ประกาศผลเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 (ดูเอกสารประกอบ)
(2.) จ้างเหมาออกแบบและจัดทำ Conceptual Framework รองรับการจัดงาน Expo 2025 Osaka Kansai ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น วงเงิน 120,000 บาท บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด ผู้รับจ้าง
คำถามสำคัญ คือ ในเมื่อมีการว่าจ้างงานสัญญาใหญ่ มูลค่า 867,800,000 บาท ไปแล้ว ทำไมจะต้องมีการจ้างงานสัญญางานหยิบย่อยกับเอกชนกลุ่มนี้อีกกว่า 12 ล้านบาทเศษอีก?
ข้อสังเกตเหล่านี้ จึงนับเป็นเรื่องสำคัญที่ ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง ควรจะต้องมีการตอบคำถามสังคม เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดเจนโดยเร็วต่อไป